โพนิกซ์ ผนึกพันธมิตร ติดตั้งระบบโซลาร์รูฟท็อป หนุนการใช้พลังงานแสงอาทิตย์ในสถานีบริการน้ำมันคาลเท็กซ์
โพนิกซ์ ผู้นำด้านพลังงานสะอาดของคนยุคใหม่ ดำเนินธุรกิจระบบโซลาร์เซลล์แบบครบวงจร ร่วมมือกับคาลเท็กซ์ โดย บริษัท สตาร์ ฟูเอลส์ มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (SFL) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของบริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) (SPRC) และเป็นผู้ได้รับสิทธิแต่เพียงผู้เดียวในการประกอบธุรกิจน้ำมันเชื้อเพลิงภายใต้ชื่อคาลเท็กซ์ในประเทศไทย จัดพื้นที่ในสถานีบริการน้ำมันคาลเท็กซ์ สำหรับการติดตั้งระบบโซลาร์รูฟท็อป (Solar Rooftop) เพื่อส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทนอย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดยโพนิกซ์นำร่องติดตั้งแล้ว 4 แห่ง และตั้งเป้าเพิ่มเป็น 50 แห่งทั่วประเทศภายในปี 2568 คาดประหยัดค่าไฟฟ้าต่อสถานีบริการได้ถึง 50%
นายพงศกร นาควิเชียร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โพนิกซ์ จำกัด เปิดเผยว่า “ปัจจุบันการพัฒนาและการใช้พลังงานทดแทนกำลังเป็นเทรนด์ที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมากในระดับโลก ไม่เพียงแต่ในแง่การเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมเท่านั้น แต่ยังเป็นการช่วยส่งเสริมความมั่นคงทางพลังงานอีกด้วย พลังงานแสงอาทิตย์เป็นหนึ่งในรูปแบบพลังงานทดแทนที่เติบโตเร็วที่สุดในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา โดยในประเทศไทยพบว่าตลาดโซลาร์เซลล์มีอัตราการเติบโตสูง ประกอบกับการส่งเสริมของรัฐบาลให้ภาคประชาชนประเภทบ้านพักอาศัย ติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ เพื่อผลิตไฟฟ้าใช้ในบ้าน และภาคธุรกิจก็มีการส่งเสริมให้ติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ เพื่อลดต้นทุนด้านพลังงาน และช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ปัจจัยดังกล่าว ส่งผลให้ตลาดโซลาร์รูฟท็อปในไทยเติบโตอย่างก้าวกระโดดเฉลี่ยปีละ 22% และคาดว่าจะแตะระดับ 6.7 หมื่นล้านบาทในปี 2568 การริเริ่มของโพนิกซ์มุ่งมั่นที่จะสนับสนุนนโยบายภาครัฐซึ่งมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนในปี 2593 และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2608 ในประเทศไทย”
“โพนิกซ์ ผู้นำด้านพลังงานสะอาดของคนยุคใหม่ เล็งเห็นโอกาสในการสนับสนุนวาระการพัฒนาอย่างยั่งยืนของสหประชาชาติ (Sustainable Development Goals: SDGs) ตามเป้าหมายข้อที่ 7 ของ SDGs ในด้านการสร้างหลักประกันให้ทุกคนเข้าถึงพลังงานสมัยใหม่ที่ยั่งยืนในราคาย่อมเยา พร้อมตอกย้ำความมุ่งมั่นของเราในการต่อยอดธุรกิจพลังงานทดแทนโดยมุ่งเน้นไปที่โซลาร์รูฟท็อป (Solar Rooftop) โพนิกซ์จึงได้ร่วมมือกับ คาลเท็กซ์ ในการจัดหาพื้นที่และติดตั้งระบบโซลาร์รูฟท็อป ภายในสถานีบริการน้ำมันคาลเท็กซ์ ซึ่งการติดตั้งระบบโซลาร์รูฟท็อปมีเป้าหมายช่วยลดต้นทุนของการประกอบกิจการในสถานีบริการ การติดตั้งระบบโซลาร์รูฟท็อปภายในสถานีบริการยังช่วยประหยัดพลังงานไฟฟ้าได้ราว 73,000 กิโลวัตต์ชั่วโมง (kwh) ต่อสถานีบริการต่อปี ความร่วมมือในครั้งนี้ ถือเป็นความร่วมมือครั้งสำคัญในการเติมเต็มธุรกิจทั้งสองฝ่าย ด้วยการใช้ความแข็งแกร่ง ศักยภาพ และความพร้อมจากประสบการณ์ความเชี่ยวชาญจากทั้งสองฝ่าย เพื่อเสริมสร้างโอกาสทางธุรกิจควบคู่ไปกับการส่งเสริมการใช้พลังงานให้มีประสิทธิภาพ”
“เรามีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในระบบโซลาร์เซลล์ นำเสนอโซลูชั่นที่ครอบคลุมทุกขั้นตอน ตั้งแต่การออกแบบ การติดตั้ง ไปจนถึงการบำรุงรักษา และที่สำคัญเราเลือกใช้แบรนด์ผลิตภัณฑ์ชั้นนำระดับสากลที่มีประสิทธิภาพ มีความน่าเชื่อถือ และปลอดภัย อย่าง จินโกะ โซลาร์ (Jinko Solar) แบรนด์ผลิตภัณฑ์แผงโซลาร์เซลล์ชั้นนำ และโซลาร์ เอดจ์ (SolarEdge) ผู้จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องแปลงไฟ (Inverter) เป็นต้น จึงมั่นใจได้ว่าลูกค้าจะได้รับบริการและอุปกรณ์ที่มีคุณภาพและมาตรฐานสากล”
“ล่าสุด โพนิกซ์ได้นำร่องติดตั้งระบบโซลาร์รูฟท็อป ภายในสถานีบริการน้ำมันคาลเท็กซ์แล้ว 4 แห่ง ได้แก่ สถานีบริการน้ำมันคาลเท็กซ์ที่ตั้งอยู่ใน อำเภอวังจันทร์ จังหวัดระยอง อำเภอแปลงยาว จังหวัดฉะเชิงเทรา อำเภอบางปะอิน และ อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยตั้งเป้าว่าภายในปี 2568 จะติดตั้งระบบโซลาร์รูฟท็อป ภายในสถานีบริการน้ำมันคาลเท็กซ์เพิ่มเป็น 50 แห่งทั่วประเทศ และคาดว่าจะช่วยประหยัดค่าไฟฟ้าต่อสถานีบริการได้ถึง 50%” นายพงศกร กล่าวทิ้งท้าย
ด้าน นางสาวสมปรารถนา เจิมศิริวัฒน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายการลงทุนและพัฒนาธุรกิจค้าปลีก บริษัท สตาร์ ฟูเอลส์ มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (SFL) กล่าวว่า “นอกเหนือจากบริษัทฯ จะดำเนินแผนกลยุทธ์ทางธุรกิจในการขยายเครือข่ายสถานีบริการน้ำมันเพื่อเสริมสร้างการเติบโตแล้วนั้น บริษัทฯ มีความมุ่งมั่นที่จะใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ในการช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในการปฏิบัติการ โดยมองหาโอกาสที่จะเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการพลังงาน เราจึงภูมิใจที่ได้ร่วมมือกับโพนิกซ์ในการติดตั้งระบบโซลาร์รูฟท็อป ในสถานีบริการน้ำมันคาลเท็กซ์ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งพลังงานทดแทนที่สำคัญในการส่งเสริมการใช้พลังงานให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น รวมถึงสามารถช่วยลดการใช้พลังงานไฟฟ้าได้อีกด้วย”
“นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าเพิ่มศักยภาพและประสิทธิภาพในการให้บริการลูกค้าอย่างเต็มกำลัง เพื่อสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้า พร้อมผลักดันธุรกิจให้เติบโตได้ตามแผนด้วยการลงทุนอย่างต่อเนื่อง ทั้งในด้านการนำเสนอผลิตภัณฑ์ และบริการน้ำมันเชื้อเพลิงคุณภาพสูง การทำตลาดผลิตภัณฑ์กับพันธมิตรธุรกิจที่หลากหลาย ตลอดจนเพิ่มความเข้มข้นในการขยายเครือข่ายสถานีบริการน้ำมัน และธุรกิจค้าปลีกที่ไม่ใช่น้ำมัน (Non-Oil) เพื่อให้ครอบคลุมพื้นที่ในประเทศให้มากยิ่งขึ้น” นางสาวสมปรารถนา กล่าวทิ้งท้าย