ซื้อตู้เย็นต้องเลือกอย่างไรให้ประหยัดไฟ และใช้งานได้นาน
สำหรับประเทศไทยที่อากาศร้อนเกือบตลอดทั้งปี การซื้อตู้เย็นดี ๆ สักเครื่องช่วยให้เราสามารถแช่เครื่องดื่มเย็น ๆ ไว้ดื่มได้ และยังถนอมผักผลไม้ เนื้อสัตว์ต่าง ๆ ให้สดใหม่อยู่เสมออีกด้วย แล้วถ้าต้องการซื้อตู้เย็นมาใช้งานสักเครื่องต้องเลือกอย่างไร ให้ทั้งประหยัดไฟและแข็งแรงทนทาน เราจะมาบอกให้ได้รู้กัน
5 คุณลักษณะของที่ควรรู้ในการตัดสินใจซื้อตู้เย็น
1. ประหยัดไฟ ดูได้จากฉลากพลังงานที่ติดอยู่บนตัวเครื่อง ยิ่งมีดาวเยอะแสดงว่าประหยัดไฟมากเท่านั้น
2. เก็บของสดได้อย่างยาวนาน ตู้เย็นคุณภาพดีจะมีระบบรักษาความสดใหม่ให้กับอาหารและผลไม้ได้นานกว่าปกติ
3. รักษาอุณหภูมิคงที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ร้อนหรือเย็นจนเกินไป เพื่อคงคุณภาพของสิ่งของที่บรรจุไว้ภายใน
4. บรรจุสิ่งของได้เยอะ คำนึงถึงปริมาตรภายในให้มากพอสำหรับใส่ของในบ้านได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
5. จัดระเบียบได้ง่าย มีช่องแบ่งพื้นที่สำหรับวางของประเภทต่างๆ ได้อย่างเหมาะสม เช่น ช่องผักผลไม้, ช่องเนื้อสัตว์ เป็นต้น
5 เคล็ดลับในการเลือกซื้อตู้เย็นที่ควรต้องรู้
1. ซื้อตู้เย็นมีฉลากประหยัดไฟ ปัจจุบันมีฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 ซึ่งเป็นอันดับสูงสุด และจะประหยัดไฟได้มากที่สุด
2. ซื้อตู้เย็นที่ผลิตจากวัสดุแข็งแรงทนทาน วัสดุที่ดีจะทำให้ตู้เย็นรักษาอุณหภูมิได้ดี และใช้งานได้ยาวนานขึ้น
3. ซื้อตู้เย็นที่มีขนาดเหมาะสมกับพื้นที่ของบ้าน ขนาดเล็กหรือใหญ่เกินไปอาจทำให้ไม่สะดวกในการใช้งาน
4. ซื้อจากแหล่งจำหน่ายที่น่าเชื่อถือ เช่น ห้างสรรพสินค้าชั้นนำ ศูนย์จำหน่ายของแบรนด์โดยตรง เพื่อได้สินค้าคุณภาพและบริการหลังการขายที่ดี
5. มีบริการหลังการขายที่ดี การมีศูนย์บริการและช่างผู้เชี่ยวชาญของตู้เย็นแต่ละยี่ห้อถือเป็นสิ่งจำเป็น
ทั้งหมดนี้ คงช่วยทำให้เข้าใจกันมาหขึ้นแล้วว่าการซื้อตู้เย็นนอกจากเรื่องประหยัดไฟแล้ว ควรเลือกตู้เย็นที่ตอบโจทย์การใช้งานของคุณมากที่สุด ทั้งเรื่องขนาด ความจุ คุณสมบัติเด่นต่างๆ และยังต้องมีความแข็งแรงทนทานที่จะใช้งานได้อย่างยาวนาน ถึงแม้ราคาอาจจะสูงหน่อย แต่ก็ถือว่าคุ้มค่ากับการลงทุนในระยะยาว เพราะจะช่วยประหยัดทั้งค่าไฟ และค่าซ่อมแซมได้มากกว่าตู้เย็นราคาประหยัด แต่มีอายุการใช้งานสั้น
นอกจากนี้ การดูแลรักษาตู้เย็นให้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพก็เป็นเรื่องสำคัญไม่แพ้กัน การทำความสะอาดตู้เย็นเป็นประจำ ตรวจสอบยางรอบประตูให้อยู่ในสภาพดี ไม่ปล่อยให้สิ่งสกปรกเข้าไปอุดตันระบบทำความเย็น เหล่านี้ล้วนแต่เป็นการยืดอายุการใช้งานของตู้เย็นให้ยาวนานขึ้น ทั้งนี้ก็เพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายและลดปัญหาเสียเวลาหาซื้อตู้เย็นใหม่บ่อยครั้งนั่นเอง