บอร์ด สปสช.เห็นชอบขยายพื้นที่ขับเคลื่อน ระยะที่ 3 “30 บาทรักษาทุกที่ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว” เริ่ม พ.ค. นี้
บอร์ด สปสช. เห็นชอบขยายพื้นที่ขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาล “30 บาทรักษาทุกที่ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว ระยะที่ 3” ตาม สธ. กำหนด เริ่ม พ.ค. นี้ พร้อมจัดสรรงบรองรับระยะ 3 จำนวน 2,813 ล้านบาท และอนุมัติให้ สปสช. เสนอของบกลางเพิ่มเติมในระยะที่ 2 และ 3 พร้อมเผยผลสำรวจความพึงพอใจของประชาชนต่อนโยบายในภาพรวม 98.77
เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2567 นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะประธานกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช.) ครั้งแรกภายหลังจากที่ได้เข้าดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข โดย พญ.ประสบศรี อึ้งถาวร ในฐานะตัวแทนบอร์ด สปสช. ได้มอบดอกไม้ต้อนรับ ซึ่งในวันนี้มีวาระพิจารณาและเห็นชอบการขยายพื้นที่ขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาล “30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว” ระยะที่ 3 ตามที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด โดยเริ่มดำเนินการในเดือนพฤษภาคม 2567 และในกรุงเทพมหานคร พร้อมรับทราบการดำเนินงานนโยบายรัฐบาล “30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว” ตั้งแต่ 7 ม.ค. – 7 พ.ค. 67
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ตามที่รัฐบาลมีนโยบาย “30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว” โดยแบ่งพื้นที่การดำเนินการในจังหวัดต่างๆ เป็น 4 ระยะ และได้รับความเห็นชอบจากบอร์ด สปสช. แล้วเมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2566 ในการร่วมขับเคลื่อน พร้อมกับเห็นชอบการของบกลางเพื่อรองรับการดำเนินการ ทั้งในส่วนการบริหารจัดการและการให้บริการสุขภาพประชาชน ซึ่งรวมถึงหน่วยบริการนวัตกรรมบริการสาธารณสุขวิถีใหม่ 7 ประเภท ที่เข้ามามีส่วนขับเคลื่อน ในวันนี้บอร์ด สปสช. จึงได้เห็นชอบให้เดินหน้าสนับสนุนต่อเนื่องในระยะที่ 3 เพิ่มเติมในเขตสุขภาพที่ 1 ภาคเหนือตอนบน เขตสุขภาพที่ 4, ภาคกลางตอนกลาง เขตสุขภาพที่ 9, ภาคอีสานตอนใต้ เขตสุขภาพที่ 12, ภาคใต้ตอนล่าง เขตสุขภาพที่ 3 และเขสุขภาพที่ 8 รวมทั้งสิ้น 33 จังหวัด โดยเริ่มดำเนินการในเดือนพฤษภาคมนี้
สำหรับในส่วนของกรอบงบประมาณเพื่อขับเคลื่อนนโยบายฯ นั้น ภาพรวมการดำเนินการทั้ง 4 ระยะ สปสช. กำหนดงบประมาณไว้รองรับทั้งสิ้น 7,120.07 ล้านบาท ในจำนวนนี้เป็นงบประมาณเพื่อขับเคลื่อนระยะที่ 1 จำนวน 366.57 ล้านบาท ระยะที่ 2 จำนวน 807.16 ล้านบาท และระยะที่ 3 ตามที่บอร์ด สปสช. เห็นชอบครั้งนี้จำนวน 2,813.08 ล้านบาท รวมถึงระยะที่ 4 ที่ให้ขยายทั่วประเทศ อีกจำนวนจำนวน 3,254.60 ล้านบาท
จากงบประมาณภาพรวมดังกล่าวนี้ แยกเป็นงบประมาณดำเนินการในส่วนหน่วยบริการนวัตกรรมสาธารณสุขวิถีใหม่ 7 ประเภท จำนวน 4,368.62 ล้านบาท ซึ่งจะครอบคลุมการให้บริการทั้งที่ร้านยาชุมชนอบอุ่น คลินิกเทคนิคการแพทย์ชุมชนอบอุ่น คลินิกการพยาบาลชุมชนอบอุ่น คลินิกเวชกรรมชุมชนอบอุ่น คลินิกทันตกรรมชุมชนอบอุ่น และคลินิการแพทย์แผนไทยชุมชนอบอุ่น นอกจากนี้เป็นงบประมาณการบริการในหน่วยบริการอื่นกรณีที่มีเหตุสมควร จำนวน 2,684.75 ล้านบาท และงบประมาณเพื่อใช้ในการบริหารจัดการ จำนวน 66,700 ล้านบาท
“งบประมาณดำเนินการ 30 บาทรักษาทุกที่ฯ ในส่วนของระยะที่ 2 และ 3 นั้น วันนี้บอร์ด สปสช. ยังได้เห็นชอบให้ สปสช. เสนองบกลางเพื่อดำเนินการ เพื่อให้การดำเนินนโยบายเป็นไปอย่างต่อเนื่อง ในระหว่างนี้ให้ สปสช. ดำเนินการสำรองจ่ายจากกองทุนหลักประกันสุขภาพก่อน และเมื่อได้รับงบกลางให้จัดสรรทดแทนคืนเงินตามกองทุนที่ได้เบิกจ่ายไป” ประธานบอร์ด สปสช. กล่าว
ด้าน นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากนี้ บอร์ด สปสช. ยังได้รับทราบการดำเนินงานนโยบายรัฐบาล “30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว” ในช่วงระยะที่ 1 และระยะที่ 2 โดยรวมมีประชาชนเข้ารับบริการตามนโยบาย จำนวน 3,493,101 คน เป็นจำนวน 4,810,812 ครั้ง ในจำนวนนี้เป็นการรับบริการที่หน่วยบริการนวัตกรรมฯ จำนวน 944,778 คน เป็นจำนวน 1,280,458 ครั้ง หรือคิดเป็นร้อยละ 26.62 ของจำนวนการรับบริการทั้งหมด (ที่มา: ผลงานบริการจากฐานข้อมูล NHSO_OneID ที่รวบรวมข้อมูลบริการจาก FDH ของกระทรวงสาธารณสุข ข้อมูล Eclaim และ DMIS สปสช. ข้อมูลตั้งแต่ 7 ม.ค. – 7 พ.ค. 67)
ส่วนการรับรู้และความพึงพอใจต่อนโยบายฯ นั้น จากการสำรวจความคิดเห็นประชาชนที่เข้ารับบริการฯ ใน 4 จังหวัดนำร่อง โดยสายด่วน สปสช. 1330 ในช่วงวันที่ 19 - 27 เม.ย. 67 นั้น พบว่าประชาชนมีการรับรู้ต่อนโยบายฯ อยู่ที่ร้อยละ 75-82 การรับบริการส่วนใหญ่รอคอยไม่เกิน 30 นาที และส่วนใหญ่เห็นด้วยต่อการดำเนินนโยบายฯ นี้ ทั้งในด้านความสะดวกในการเข้ารับบริการ ความพึงพอใจในการเข้ารับบริการ ลดค่าใช้จ่ายในการเดินทางเพื่อรับการรักษาพยาบาล และระยะเวลาการให้บริการ โดยรวมแล้วประชาชนมีความพึ่งพอใจต่อนโยบายฯ ในภาพรวมอยู่ที่ร้อยละ 98.77 สะท้อนให้เห็นว่า เป็นนโยบายที่มีประโยชน์อย่างยิ่ง และได้รับการตอบรับจากประชาชนอย่างมาก และข้อมูลนี้ยังเป็นประโยชน์ต่อการเดินหน้านโยบายฯ ในระยะต่อไป
///////// 15 พฤษภาคม 2567
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
1.สายด่วน สปสช. 1330
2.ช่องทางออนไลน์
- ไลน์ สปสช. พิมพ์ไลน์ไอดี @nhso หรือคลิก https://lin.ee/zzn3pU6
- Facebook : สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ https://www.facebook.com/NHSO.Thailand