บอร์ด สปสช. หนุน “มะเร็งครบวงจร” ต่อเนื่อง เพิ่มสิทธิประโยชน์ “ชุดตรวจปัสสาวะคัดกรองพยาธิใบไม้ตับด้วยตนเอง
บอร์ด สปสช. หนุนนโยบาย “มะเร็งครบวงจร” ต่อเนื่อง อนุมัติ “ชุดตรวจปัสสาวะคัดกรองพยาธิใบไม้ตับด้วยตนเอง” เป็นสิทธิประโยชน์ทางเลือกเพิ่มเติมในระบบบัตรทอง รุกตรวจคัดกรองโรคพยาธิใบไม้ตับและโรคมะเร็งท่อน้ำดีในประชาชนกลุ่มเสี่ยงอายุ 15 ปีขึ้นไป กำหนดเป้าหมายบริการ 1.57 แสนคน สปสช. เตรียมเร่งดำเนินการรองรับตามมติ หากมีความพร้อมจะประชาสัมพันธ์แจ้งให้ประชาชนรับทราบต่อไป
นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะประธานกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช.) เมื่อวันที่ 18 ม.ค. ที่ผ่านมา ได้พิจารณาและมีมติเห็นชอบสิทธิประโยชน์ “การตรวจด้วยการตรวจปัสสาวะชุดตรวจพยาธิใบไม้ตับสำเร็จรูปชนิดเร็ว (OV-Rapid Diagnosis Test : OV-RDT) ด้วยตนเอง (Self test)” เพื่อเป็นทางเลือกเพิ่มเติมในการตรวจคัดกรองโรคพยาธิใบไม้ตับและโรคมะเร็งท่อน้ำดีในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือบัตรทอง 30 บาท ให้กับคนไทยทุกสิทธิ นำเสนอโดย รศ.พญ.ประสบศรี อึ้งถาวร ประธานคณะอนุกรรมการกำหนดประเภทและขอบเขตในการให้บริการสาธารณสุข และ นางวราภรณ์ สุวรรณเวลา รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.)
นพ.ชลน่าน กล่าวว่า โรคพยาธิใบไม้ตับเป็นสาเหตุหนึ่งของการเกิดโรคมะเร็งท่อน้ำดี จากข้อมูลการรับบริการในระบบ สปสช. ตั้งแต่ปี 2557-2565 มีผู้ป่วยมะเร็งท่อน้ำดีสะสมจำนวน 195,207 คน โดยเขต 8 อุดรธานี พบผู้ป่วยมากที่สุดจำนวน 28,178 ราย รองมาเป็นเขต7 ขอนแก่นจำนวน 28,020 ราย เขต 9 นครราชสีมาจำนวน 22,214 ราย และเขต 1 เชียงใหม่จำนวน 20,920 รย ทั้งนี้เมื่อดูจำนวนของผู้ป่วยมะเร็งท่อน้ำดีรายใหม่แต่ละปี พบว่ามีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดปี 2565 มีผู้ป่วยมะเร็งท่อน้ำดีรายใหม่จำนวน 25,604 คน หรือเฉลี่ย 38.74 ต่อแสนประชากร
อย่างไรก็ดี โรคมะเร็งท่อน้ำดีสามารถรักษาได้หากพบในระยะเริ่มต้นและเพื่อเพิ่มการเข้าถึงบริการตรวจคัดกรองโรคพยาธิใบไม้ตับและโรคมะเร็งท่อน้ำดีนี้ บอร์ด สปสช. ได้เห็นชอบให้การตรวจคัดกรองด้วยชุดตรวจพยาธิใบไม้ตับสำเร็จรูปชนิดเร็วที่เป็นการตรวจปัสสาวะ (ชุดตรวจปัสสาวะคัดกรองพยาธิใบไม้ตับด้วยตนเอง) เป็นสิทธิประโยชน์ระบบบัตรทอง สำหรับประชาชนอายุ 15 ปี ขึ้นไป ที่เป็นกลุ่มเสี่ยงและมีประวัติเคยติดเชื้อพยาธิใบไม้ตับ หรือเคยกินยาถ่ายพยาธิใบไม้ตับ หรือมีประวัติการกินปลาน้ำจืดสุกๆ ดิบๆ โดยสามารถรับชุดตรวจคัดกรองฯ ได้ที่หน่วยบริการนวัตกรรมใกล้บ้าน เช่น ร้านยา คลินิกพยาบาล คลินิกเวชกรรมทั่วไป ฯลฯและทำการตรวจคัดกรองด้วยตนเอง ใช้เวลาประมาณ 10 นาที สำหรับต้นทุนอยู่ที่ 150 บาทต่อชุด
“มะเร็งท่อน้ำดีเป็นปัญหาสาธารณสุขของประเทศไทย โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคอีสานที่พบผู้ป่วยจำนวนมาก การตรวจคัดกรองจึงเป็นมาตรฐานที่สำคัญ สิทธิประโยชน์ชุดตรวจปัสสาวะคัดกรองพยาธิใบไม้ตับด้วยตนเองนี้ จะทำให้ผู้ที่มีความเสี่ยงสามารถตรวจคัดกรองด้วยตนเองและเข้ารับการรักษาตั้งแต่ระยะแรกได้ ทั้งนี้ มติบอร์ด สปสช. ยังเป็นการสนับสนุนนโยบายมะเร็งครบวงจรของรัฐบาล” ประธาน บอร์ด สปสช. กล่าว
ด้าน นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า ที่มาของสิทธิประโยชน์นี้ เป็นข้อเสนอจากโครงการศึกษาเพื่อพัฒนาชุดสิทธิประโยชน์ภายใต้ระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า (UCBP) ปี 2567 เรื่องชุดสิทธิประโยชน์ในการตรวจคัดกรองพยาธิใบไม้ตับสำเร็จรูปชนิดเร็วโดยใช้ปัสสาวะ ระดับ รพ.สต. สำหรับประชากรกลุ่มเสี่ยงต่อการติดเชื้อพยาธิใบไม้ตับ นอกจากนี้ยังเป็นไปตามข้อหารือของกระทรวงสาธารณสุข เรื่องการตรวจคัดกรองโรคพยาธิใบไม้ตับและโรคมะเร็งท่อน้ำดีภายใต้นโยบายมะเร็งครบวงจร โดยมีเป้าหมายเพื่อดูแลประชาชนกลุ่มเสี่ยงที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไป
ทั้งนี้ ในระบบบัตรทองมีบริการตรวจคัดกรองโรคพยาธิใบไม้ตับและโรคมะเร็งท่อน้ำดีอยู่ในชุดสิทธิประโยชน์อยู่แล้ว เป็นการตรวจคัดกรองด้วยวิธีการตรวจอุจาระเพื่อหาไข่พยาธิใบไม้ตับ (Direct Smear, Stool concentration หรือวิธีอื่น) ในประชากรกลุ่มเสี่ยงอายุ 15 ปีขึ้นไป เป้าหมายบริการ 142,500 คน เป็นการให้บริการโดยบุคลากรสาธารณสุข ใช้เวลาประมาณ 15-30 นาทีต่อคน มีต้นทุนเฉลี่ยอยู่ที่ 200 บาทต่อครั้ง ซึ่งค่าใช้จ่ายรวมอยู่ในงบเหมาจ่ายรายหัว โดยบริการชุดตรวจปัสสาวะคัดกรองพยาธิใบไม้ตับด้วยตนเองที่เป็นสิทธิประโยชน์เพิ่มเติมนี้ สปสช. ตั้งเป้าหมายบริการจำนวน 157,500 คน รวมทั้ง 2 วิธีการตรวจคัดกรองฯ เป็นเป้าหมายบริการตรวจคัดกรองฯ ปีงบประมาณ 2567 จำนวน 300,000 คน ใช้งบประมาณเพิ่มเติม 24 ล้านบาท
“ตามมติบอร์ด สปสช. ที่เห็นชอบบริการชุดตรวจปัสสาวะคัดกรองพยาธิใบไม้ตับด้วยตนเองเมื่อวันที่ 18 ม.ค. ที่ผ่านมา หลังจากนี้ สปสช. จะได้เร่งดำเนินการต่างๆ เพื่อรองรับมติดังกล่าว หากระบบมีความพร้อมให้บริการแล้ว สปสช.จะประชาสัมพันธ์เพื่อให้ประชาชนรับทราบต่อไป” เลขาธิการ สปสช. กล่าว
////////// 23 มกราคม 2567
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
1.สายด่วน สปสช. 1330
2.ช่องทางออนไลน์
- ไลน์ สปสช. พิมพ์ไลน์ไอดี @nhso หรือคลิก https://lin.ee/zzn3pU6
- Facebook : สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ https://www.facebook.com/NHSO.Thailand