'มูลนิธิ Chef Cares' สานต่อโครงการสานฝันปั้นเชฟรุ่นที่ 3 อย่างต่อเนื่อง หวังสร้างอาชีพให้เยาวชนไทยที่ขาดโอกาส ร่วมฝึกฝีมือกับเชฟชั้นนำระดับประเทศ
'มูลนิธิ Chef Cares' สานต่อโครงการ 'สานฝันปั้นเชฟ' รุ่นที่ 3 (Chef Cares Dream Academy) ซึ่งเป็นโครงการมอบทุนการศึกษาผ่านหลักสูตรการเรียนรู้ ระยะเวลา 9 เดือน สำหรับเยาวชนที่มีความฝันอยากเป็นเชฟมืออาชีพแต่ขาดโอกาสและขาดทุนทรัพย์ ในปีนี้ มีเยาวชนผ่านการคัดเลือกเข้าโครงการฯ จำนวน 13 คน โดยเป็นเยาวชนจากกรมกิจการเด็ก กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน กระทรวงยุติธรรม และมูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชีวิตชนบท ซึ่งจะได้รับโอกาสฝึกฝนทำอาหาร เรียนรู้แนวคิดแบบผู้ประกอบการ อีกทั้งพัฒนาศักยภาพทางด้านจิตใจจากทีม Success Transformers ทีมโค้ชที่ได้รับการรับรองจาก ICF และมีประสบการณ์การช่วยพัฒนาคนมากกว่า 20 ปี รวมถึงเพิ่มพูนประสบการณ์ในการฝึกงานอย่างใกล้ชิดกับเชฟชั้นนำที่เข้าร่วมกับมูลนิธิ Chef Cares ซึ่งจะช่วยพัฒนาฝีมือจนสามารถก้าวสู่การเป็นเชฟมืออาชีพได้ในอนาคต อาทิ กิจกรรมเวิร์กชอปกับเชฟพฤกษ์ พฤกษ์ สัมพันธวรบุตร อดีตอาจารย์เชฟสถาบัน Le Cordon Bleu Dusit Bangkok ดีกรีเชฟกระทะเหล็กประเทศไทย ที่มาร่วมถ่ายทอดประสบการณ์กว่าจะได้เป็นเชฟ และเชฟวุฒิศักดิ์ วุฒิอัมพร ที่มาร่วมสอน food styling ให้กับน้อง ๆ ทั้ง 13 คน โดยใช้ 4 เมนูอาหารของ Chef Cares คือ กะเพราหมูคูโรบูตะและข้าวญี่ปุ่น ข้าวคลุกแกงเขียวหวานและอกไก่ ข้าวคลุกน้ำพริกลงเรือ และ สปาเก็ตตีซอสครีมเห็ดทรัฟเฟิลและอกไก่
นางมาริษา เจียรวนนท์ ผู้ก่อตั้งมูลนิธิ Chef Cares ได้ให้กำลังใจเยาวชนจากโครงการ 'สานฝันปั้นเชฟ' รุ่นที่ 3 และให้คำแนะนำว่า เชฟมืออาชีพต้องใช้ความสามารถหลากหลาย ต้องมีความคิดสร้างสรรค์ มีบุคลิกที่ดี และที่สำคัญต้องมีความขยันและความพยายามถึงจะประสบความสำเร็จได้ พร้อมให้ข้อคิด 3 เรื่อง เพื่อใช้สำหรับเป็นแนวทางในดำเนินชีวิต โดยให้เลือกคบคนที่คนดี คบแล้วชีวิตเป็นบวก ช่วยเป็นแรงบันดาลใจให้กันและกัน อยู่ด้วยแล้วมีความสุข ต้องมีความรับผิดชอบ +1 หมายถึงให้เวลาในสิ่งที่ต้องทำเพิ่ม ทำให้มากขึ้น และสุดท้ายคือมีความนอบน้อมทำให้คนอื่นเอ็นดูเรา นอกจากนี้ ยังให้น้อง ๆ พัฒนาฝีมือการทำอาหารไทยให้อร่อย เพื่อสร้างความสุขให้กับคนกิน และเมื่อได้รับโอกาสที่ดีก็ควรส่งต่อสิ่งดี ๆ ให้ผู้อื่นด้วยเช่นกัน
“ดิฉันเชื่อว่าอาหารคือ Soft Power คือ ภาษาบอกรัก ดังนั้นอาหารจึงแสดงให้เห็นถึงความห่วงใย และความใส่ใจ วันนี้ยินดีอย่างยิ่งที่มีโอกาสได้มาเจอกับทุกคน และหวังว่าน้อง ๆ ที่ได้รับโอกาส จะส่งต่อโอกาสให้ผู้อื่นด้วยการทำอาหารอร่อย ๆ ซึ่งสร้างความสุขและความอิ่มให้กับคนกิน” นางมาริษา เจียรวนนท์ ผู้ก่อตั้งมูลนิธิ Chef Cares กล่าว
สำหรับน้อง ๆ ทั้ง 13 คน ที่ผ่านการคัดเลือกเข้าร่วมโครงการ"สานฝันปั้นเชฟ" รุ่นที่ 3 แต่ละคนจะต้องส่งข้อมูลที่บอกเล่าเรื่องราวของตนเองพร้อมกับคลิปวิดีโอโชว์ฝีมือการทำอาหาร ซึ่งแต่ละคนมีเป้าหมายที่ต้องการพัฒนาฝีมือการทำอาหารเพื่อต่อยอดนำไปสร้างอาชีพ สร้างงานที่มั่นคง สำหรับเลี้ยงดูตนเองและครอบครัว
น้องจอร์จ (นามสมมติ) เยาวชนอายุ 19 ปี ได้ขอบคุณคุณมาริษา และมูลนิธิ Chef Cares ที่ให้โอกาสเข้ามาฝึกอบรมกับโครงการฯ เพราะส่วนตัวเป็นเด็กที่เกเรมาก่อน การได้รับโอกาสครั้งนี้ทำให้เหมือนได้เริ่มชีวิตใหม่ และทำให้ครอบครัวเห็นถึงความตั้งใจในการพัฒนาตนเองให้ดีขึ้น และอยากเป็นจะเชฟมืออาชีพให้ได้
ขณะที่น้องมอส (นามสมมติ) กล่าวว่า จะพยายามเก็บเกี่ยวประสบการณ์ให้มากที่สุด เพื่อก้าวข้ามขีดจำกัดของตัวเอง เพราะมีความสุขทุกครั้งที่ได้ทำให้อาหารให้คนอื่นกิน
มูลนิธิ Chef Cares เกิดขึ้นจากการต่อยอดโครงการเชฟแคร์ส โครงการอาหารกลางวันเพื่อส่งมอบความห่วงใยแทนคำขอบคุณให้กับบุคลากรทางการแพทย์ในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยได้รับความร่วมมือจากเชฟยอดฝีมือระดับแถวหน้าของเมืองไทยมากกว่า 70 คน มาช่วยปรุงเมนูอาหารรสชาติดีมีคุณค่าทางโภชนาการ จนเกิดเป็นแรงผลักดันที่อยากช่วยเหลือสังคมอย่างต่อเนื่อง จึงทำให้เกิดมูลนิธิเชฟแคร์สขึ้น โดยมูลนิธิฯ ได้ทำโครงการอาหารพร้อมทาน Chef Cares เพื่อสร้างรายได้ที่ยั่งยืน โดยผลกำไรทั้งหมดถูกนำไปใช้โดยตรงกับกิจกรรมเพื่อสังคมของมูลนิธิฯ คือ 'โครงการสานฝันปั้นเชฟ' ให้โอกาสเยาวชนผู้เคยหลงผิดได้กลับตัว มีอาชีพสุจริตและสามารถกลับคืนสู่สังคมได้อย่างมีคุณภาพ รวมถึงเยาวชนผู้ขาดโอกาส และ “Thai Tastes" โครงการศูนย์รวมข้อมูลดิจิตัลที่บันทึกภูมิปัญญาและสูตรอาหารไทย