ลีสซิ่งกสิกรไทยกระหึ่มรับมอเตอร์เอ็กซ์โป 2022 ออกแคมเปญซื้อรถใหม่ รับโปรโมชัน 3 ต่อ นำร่องใช้สัญญาสคบ. ฉบับใหม่ทันที เอื้อประโยชน์ลูกค้าสูงสุด
ลีสซิ่งกสิกรไทย เปิดแคมเปญรับงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 39 มอบข้อเสนอให้กับลูกค้าออกรถใหม่ป้ายแดงภายใต้แคมเปญ “ออกรถใหม่กับ KLeasing รับโปร 3 ต่อ ลุ้นเที่ยวเป็นคู่ชมมอเตอร์โชว์ญี่ปุ่น และเที่ยวทั่วไทยรวม 100 รางวัล มูลค่ารวมกว่า 2 ล้านบาท พร้อมขับฟรี 90 วัน ผ่อนดาวน์ 0% ของแถมอีกเพียบ” ชูผลงาน 10 เดือน ปล่อยกู้สินเชื่อรถยนต์โต 22% กำไรเพิ่ม 26% ย้ำนำร่องจริงในฐานะสถาบันการเงินแห่งแรกที่เริ่มใช้สัญญาเช่าซื้อภายใต้ประกาศสคบ.ใหม่ทันที เดินหน้าสอดรับนโยบาย Go Green Together สร้างสังคมสีเขียวของธนาคารกสิกรไทย และเน้นจุดแข็งให้สิทธิประโยชน์พิเศษแก่ฐานลูกค้าธนาคารกสิกรไทย พร้อมอัดแคมเปญแรงออกรถยนต์ไฟฟ้าใหม่ จับมือพันธมิตรรถยนต์หลากหลายแบรนด์
นายธีรชาติ จิรจรัสพร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ลีสซิ่งกสิกรไทย จำกัด เปิดเผยว่า ลีสซิ่งกสิกรไทยได้ออกแคมเปญรับงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 39 หรือ Motor Expo 2022 ภายใต้คอนเซ็ปต์ “ออกรถใหม่กับลีสซิ่งกสิกรไทย รับโปร 3 ต่อ” ต่อที่ 1 รับสิทธิ์ลุ้นแพ็กเกจท่องเที่ยวเป็นคู่ไปประเทศญี่ปุ่น ชม Tokyo Motor Show มูลค่ารางวัลละ 150,000 บาท จำนวน 15 รางวัล และเที่ยวไทยกับบัตรกำนัลห้องพักและรีสอร์ตในเครือเซ็นทารา จำนวน 85 รางวัล รวม 100 รางวัล มูลค่ากว่า 2 ล้านบาท ต่อที่ 2 รับสิทธิ์ผ่อนดาวน์ 0% นานสูงสุด 6 เดือน ผ่านบัตรเครดิตกสิกรไทย สำหรับลูกค้าที่ออกรถยนต์ใหม่ทุกประเภทกับลีสซิ่งกสิกรไทย และขับฟรีนานถึง 90 วัน สำหรับลูกค้าที่ออกรถไฟฟ้าใหม่กับลีสซิ่งกสิกรไทย และต่อที่ 3 เลือกรับของแถมฟรี ตู้เย็นเก็บอุณหภูมิในรถยนต์ หรือกระเป๋าเดินทางล้อลาก มูลค่า 2,500 บาท เมื่อสมัครสินเชื่อรถใหม่กับลีสซิ่งกสิกรไทยเฉพาะภายในงาน Motor Expo 2022 และได้รับอนุมัติอนุมัติเบื้องต้นตั้งแต่ 1 ธ.ค. 65-12 ธ.ค. 65 โดยสิทธิประโยชน์ต่อที่ 1 และต่อที่ 2 สำหรับลูกค้าที่สมัครสินเชื่อตั้งแต่ 1 ธ.ค. ถึง 31 ธ.ค. 65 ได้รับอนุมัติและทำสัญญาเช่าซื้อภายใน 28 ก.พ. 66 รับสิทธิพิเศษนี้ ภายในงาน Motor Expo 2022 และโชว์รูมผู้แทนจำหน่ายรถทั่วประเทศ หรือสมัครสินเชื่อรถออนไลน์ได้ทาง K PLUS
สำหรับสภาวะของตลาดรถยนต์ไทย 10 เดือน ปี 2565 มียอดขายรวมอยู่ที่ 698,305 คัน เพิ่มขึ้น 17.1% โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดว่ายอดขายรถยนต์ในประเทศทั้งปีจะอยู่ที่ประมาณ 870,000 คัน เติบโตจากปีที่แล้วถึง 14.6% ในส่วนของการปล่อยสินเชื่อรถยนต์ของลีสซิ่งกสิกรไทยในช่วงเวลา10 เดือนแรกปีนี้ มียอดรวมกว่า 90,861 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว 22% โดยบริษัทได้เน้นการให้บริการแก่ลูกค้ากลุ่มฐานรากมากขึ้นผ่านผลิตภัณฑ์ ”สินเชื่อรถช่วยได้” แบบไม่แสดงเอกสารรายได้ ทำให้ยอดปล่อยสินเชื่อรถช่วยได้เติบโตถึง 66% นอกจากนั้นยังขยายธุรกิจสินเชื่อรถใช้แล้วผ่านการร่วมมือกับพันธมิตรแพลตฟอร์มรถใช้แล้วต่างๆ ส่งผลให้มียอดปล่อยสินเชื่อรถใช้แล้วเติบโตถึง 159% ทั้งนี้บริษัทได้มีการบริหารต้นทุนการดำเนินงาน และการบริหารคุณภาพหนี้ที่ดี ส่งผลให้กำไร 10 เดือนของปีนี้ อยู่ที่ 1,588 ล้านบาท เติบโต 26% โดยคาดการณ์กำไรทั้งปีจะมีสถิติ New High ที่ 1,750 ล้านบาท โดยมียอดสินเชื่อเช่าซื้อคงค้างเติบโตประมาณ 11% ในขณะที่ยอดสินเชื่อเช่าซื้อคงค้างในระบบธนาคารพาณิชย์ไทยเติบโตประมาณ 2% และคาดการณ์จะมีอัตราส่วนผลตอบแทนต่อส่วนของสินทรัพย์ (ROA) และอัตราส่วนผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้น ( ROE) ทั้งปี อยู่ที่ 1.35% และ 15% ตามลำดับ
ในส่วนของคาดการณ์ปี 66 ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดว่าจะมียอดขายรถยนต์เติบโตที่ 1.7%-5.2% หรือ 885,000-915,000 คัน โดยเป็นผลมาจากการฟื้นตัวตามภาวะเศรษฐกิจของประเทศที่ปรับตัวดีขึ้น อย่างไรก็ตามยังมีปัจจัยที่น่าติดตามคือ ภาวะเศรษฐกิจหลักในโลกอาจมีการชะลอตัวลงอย่างรุนแรง มีความเสี่ยงที่จะส่งผลกระทบตามมาต่อเศรษฐกิจไทยและทำให้ภาพต่างๆ รวมทั้งตัวเลขที่ประเมินนี้เปลี่ยนแปลงไป
นายธีรชาติ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในปีหน้า ลีสซิ่งกสิกรไทยยังคงเดินหน้าออกแคมเปญรุกตลาดอย่างต่อเนื่อง โดยมุ่งเน้นไปยังเซกเมนต์ที่มีศักยภาพในการเติบโต อาทิการสอดรับกับนโยบาย Go Green Together ของธนาคารกสิกรไทย เพื่อสนับสนุนการสร้างสังคมสีเขียวให้เกิดขึ้นจริงในประเทศไทย โดยการรุกออกแคมเปญส่งเสริมสนับสนุนผู้สนใจออกรถยนต์ไฟฟ้าใหม่ ซึ่งประเมินว่าในปีหน้ายอดขายรถยนต์ไฟฟ้าจะเติบโตขึ้นอีกเท่าตัว จาก 10,000 คันในปีนี้ เป็น 20,000 คัน และคิดเป็นไม่ต่ำกว่า 2% ของยอดขายรถยนต์ในประเทศ ในขณะที่ลีสซิ่งกสิกรไทยมีเป้าหมายให้สินเชื่อรถยนต์ไฟฟ้าในสัดส่วนมากกว่า 10% ของยอดปล่อยสินเชื่อรถใหม่ ทั้งนี้ปัจจัยสำคัญขึ้นอยู่กับความสามารถในการส่งมอบรถให้กับลูกค้าได้ตามเป้าหมายหรือไม่ และการเปิดตัวของผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้ายี่ห้อใหม่ๆ ในประเทศไทย
นอกจากนี้ยังเดินหน้าต่อยอดจุดแข็งด้านเครือข่ายบริการและฐานลูกค้าของธนาคารกสิกรไทย พร้อมนำเทคโนโลยีมาใช้ในการนำเสนอนวัตกรรมผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ๆ ที่ตอบสนองไลฟ์สไตล์ของลูกค้าทุกกลุ่ม อาทิ การสมัครสินเชื่อรถยนต์ได้ด้วยตนเองผ่านช่องทางดิจิทัล (Digital Self-Apply) ที่ลูกค้าสามารถยื่นขอสินเชื่อและรู้ผลอนุมัติเบื้องต้นได้ทันทีผ่านช่องทางออนไลน์ ซึ่งจะเริ่มดำเนินการใช้สำหรับสินเชื่อรถใหม่เป็นอันดับแรกร่วมกับพันธมิตรค่ายรถยนต์ชั้นนำ สำหรับรถยนต์ใช้แล้ว จะมีโครงการส่งเสริมการขายและขยายความร่วมมือกับแพลตฟอร์มรถยนต์ใช้แล้วออนไลน์ เพื่อตอกย้ำและรักษาความเป็นที่หนึ่งของลีสซิ่งกสิกรไทยในตลาดนี้อย่างยั่งยืน ในส่วนของผลิตภัณฑ์สินเชื่อรถช่วยได้ จะรุกหนักเข้าถึงกลุ่มลูกค้าตัวเล็ก ที่ไม่มีเอกสารรายได้ โดยเสนอผลิตภัณฑ์จำนำทะเบียนแบบไม่ต้องแสดงเอกสารรายได้ ไม่มีขั้นตอนยุ่งยากในการสมัคร ทำให้เข้าถึงสินเชื่อได้ง่ายขึ้น
สำหรับการร่วมมือกับพันธมิตรนั้น ลีสซิ่งกสิกรไทยยังเน้นไปที่การร่วมมือกับพันธมิตรที่หลากหลายทั้งผู้ผลิตรถยนต์ชั้นนำ ดีลเลอร์ผู้แทนจำหน่ายรถใหม่และรถใช้แล้ว รวมถึงพันธมิตรทางด้านช่องทางดิจิทัลเพื่อการทำการตลาดร่วมกันอย่างต่อเนื่อง และจะมีแคมเปญใหม่ๆ ทยอยออกมาเพื่อเอาใจลูกค้าตลอดในปีหน้า ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์สำหรับลูกค้าธุรกิจหรือลูกค้าบุคคลรายย่อย ผ่านความร่วมมือกับธนาคารกสิกรไทยที่มีฐานลูกค้าที่มีศักยภาพอยู่แล้ว รวมถึงการประกาศนำร่องใช้สัญญาเช่าซื้อฉบับใหม่เพื่อรองรับประกาศใหม่เป็นสถาบันการเงินแรกก่อนวันที่เกณฑ์ใหม่มีผลบังคับใช้ ซึ่งปรับให้ครอบคลุมทุกเกณฑ์ สคบ.ใหม่ เพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับผู้บริโภค โดยเฉพาะสำหรับลูกค้าในช่วง Motor Expo 22 นี้ โดยลูกค้าที่สมัครและทำสัญญาเช่าซื้อใหม่ตั้งแต่วันที่ 22 พ.ย. 2565 เป็นต้นไป สามารถรับสิทธิ์ได้เลยไม่จำเป็นต้องรอจนถึงวันที่ 10 ม.ค. ปีหน้า