เอสซีจี ผนึกสภาอุตฯ ร่วม FTI Expo 2022 เชียงใหม่ โชว์นวัตกรรม สินค้า โซลูชัน เพื่อโลกยั่งยืน บนแนวคิด ESG 4 Plus
เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2565 เอสซีจี ยกทัพนวัตกรรมแอ่วเหนือ ภายใต้แนวคิด 'ESG 4 Plus เพื่อเรา เพื่อโลก' จัดแสดงเทคโนโลยี นวัตกรรมสุดล้ำ และโซลูชันรักษ์โลก เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดี แก้ปัญหาโลกร้อน และการหมุนเวียนทรัพยากร อาทิ SCG Green Choice ผลิตภัณฑ์และบริการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพิ่มทางเลือกให้ผู้บริโภคดูแลโลก ปูนงานโครงสร้างเอสซีจี สูตรไฮบริด ลดการปล่อยคาร์บอน SCG GREEN POLYMER™ โซลูชันนวัตกรรมพลาสติก SCGP Recycle โซลูชันช่วยจัดการแยกขยะตั้งแต่ต้นทาง OptiBreath® ถุงสำหรับยืดอายุผักและผลไม้ ช่วยยกระดับคุณภาพสินค้าส่งออก เป็นต้น พร้อมชูแนวทางการดำเนินธุรกิจเพื่อสังคมสิ่งแวดล้อมยั่งยืน มุ่งสู่การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ภายในปี 2050 และโครงการพัฒนาอาชีพ ลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม ภายในงาน FTI Expo 2022 : SHAPING FUTURE INDUSTRIES จัดโดยสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ระหว่างวันที่ 29 มิถุนายน – 3 กรกฎาคม 2565 ณ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติฯ เชียงใหม่
นายธรรมศักดิ์ เศรษฐอุดม รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ และดูแลงานการเงินและการลงทุน เอสซีจี เปิดเผยว่า เอสซีจี ได้ดำเนินงานเพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ปัญหาทรัพยากรขาดแคลน และความเหลื่อมล้ำในสังคมจากวิกฤตเศรษฐกิจตามแนวคิด ESG 4 Plus “มุ่ง Net Zero – Go Green – Lean เหลื่อมล้ำ – ย้ำร่วมมือ” โดยยึดหลักเชื่อมั่น และโปร่งใส ซึ่งเป็น PATHWAY ที่สำคัญในการดำเนินธุรกิจเพื่อบรรลุเป้าหมาย ESG ที่ยั่งยืน มุ่งเป้าสู่การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ภายในปี 2050 ควบคู่กับการลงทุนด้านงานวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยี กระบวนการผลิต นวัตกรรม สินค้า บริการ และโซลูชัน โดยได้นำหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) มาประยุกต์ใช้ ตลอดกระบวนการผลิตสินค้า เพื่อใช้ทรัพยากรธรรมชาติให้มีประสิทธิภาพ รวมถึงใช้พลังงานในกระบวนการผลิตให้น้อยลง ในขณะที่ยังคงคุณสมบัติของสินค้าให้มีประสิทธิภาพดีกว่าหรือเท่าเดิม มีอายุการใช้งานยาวนานขึ้น สามารถนำกลับมาใช้ซ้ำหรือรีไซเคิลได้ เช่น SCG Green Choice ผลิตภัณฑ์และบริการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อให้ผู้บริโภคได้มีส่วนร่วมดูแลโลก ปูนงานโครงสร้าง เอสซีจี สูตรไฮบริด เพื่อเป้าหมายลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ให้ได้ไม่น้อยกว่า 300,000 ตัน CO2 ภายในปี 2565 SCG Floating Solar Solutions ทุ่นลอยน้ำและระบบยึดโยงสำหรับติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์รายแรกของประเทศไทย เป็นต้น
เอสซีจี ห่วงใยในสถานการณ์เศรษฐกิจที่ส่งผลกระทบต่อทุกภาคส่วนไม่เท่ากัน จึงได้เร่งพัฒนาทักษะอาชีพที่ตลาดต้องการ เพื่อสร้างรายได้มั่นคงให้ชุมชนและผู้ว่างงาน ลดปัญหาความเหลื่อมล้ำ โดยตั้งเป้าพัฒนาอาชีพ 20,000 คน ในปี 2568 ตัวอย่างโครงการ อาทิ แพลตฟอร์มออนไลน์ “คิวช่าง Q-CHANG” เพื่อเป็นจุดนัดพบช่างฝีมือดีทั่วไทยให้บริการเจ้าของบ้าน และร่วมกับกรมพัฒนาฝีมือแรงงานฝึกทักษะให้ช่างท้องถิ่น ช่วยสร้างรายได้ให้ช่างรายย่อยกว่า 40 ล้านบาท โรงเรียนทักษะพิพัฒน์ เพื่อสร้างสุภาพบุรุษนักขับและถนนปลอดภัย โครงการพลังชุมชน สอนแปรรูปเพิ่มมูลค่า สร้างอาชีพยั่งยืนใน 11 จังหวัด เป็นต้น
“เอสซีจี ตระหนักดีกว่า เพียงองค์กรเดียว ไม่สามารถแก้ปัญหานี้ได้ โดยตลอด 11 ปีที่ผ่านมา เอสซีจี จึง เป็นตัวกลางประสานความร่วมมือกับทุกภาคส่วน ทั้งในประเทศ ระดับอาเซียน และระดับโลก ขับเคลื่อน ESG เพื่อสร้างสังคมคาร์บอนต่ำ (Low Carbon Society) ให้เกิดขึ้นจริงในประเทศไทย เพื่อโลกของเราที่น่าอยู่ และส่งต่อไปยังรุ่นลูกหลานต่อไป” นายธรรมศักดิ์ กล่าว
นายนิวัฒน์ อธิวัฒนานนท์ ผู้อำนวยการเทคโนโลยี บริษัท เอสซีจี เคมิคอลส์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCGC เปิดเผยว่า SCGC มีเป้าหมายสู่การเป็น “ผู้นำธุรกิจเคมีภัณฑ์ครบวงจรเพื่อความยั่งยืน” (Chemicals Business for Sustainability) โดยเชื่อมั่นว่า เศรษฐกิจหมุนเวียนจะสามารถแก้ปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยการคิดค้นและพัฒนาเทคโนโลยีทำให้เกิดนวัตกรรมภายใต้สินค้าแบรนด์ SCG Green Polymer” โซลูชันนวัตกรรมพลาสติกที่ตอบโจทย์การใช้งาน และส่งเสริมการดูแลสิ่งแวดล้อมใน 4 ด้าน ได้แก่ 1) Reduce สินค้าในกลุ่ม SMX ที่ช่วยลดการใช้เม็ดพลาสติก แต่ยังคงคุณสมบัติเดิม 2) Recyclable การออกแบบเพื่อให้รีไซเคิลได้ง่าย 3) Recycle พลาสติกรีไซเคิลคุณภาพสูงโดยการนำกลับมาใช้ใหม่ และ 4) Renewable การใช้วัตถุดิบที่สร้างใหม่หรือที่ย่อยสลายได้ เพื่อมุ่งเน้นการมีส่วนร่วมของผู้บริโภคผ่านการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ดีต่อโลก และส่งเสริมให้ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมในการแก้ปัญหาขยะอย่างยั่งยืน ผ่านการขยายผลโครงการ “ถุงนมกู้โลก” ที่นำถุงนมโรงเรียนมาหมุนเวียนเป็น “เก้าอี้ รีไซเคิล” สู่ 6 โรงเรียนในจังหวัดระยอง และกว่า 1,300 โรงเรียนทั่วประเทศ
นายสุชัย กอประเสริฐศรี ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ กิจการบรรจุภัณฑ์จากเยื่อและกระดาษ SCGP เปิดเผยว่า SCGP ได้มุ่งตอบโจทย์เทรนด์สิ่งแวดล้อมและพฤติกรรมผู้บริโภคยุคใหม่ด้วยการสร้างสรรค์โซลูชัน ด้านบรรจุภัณฑ์ที่หลากหลาย เพื่อลูกค้าทุกกลุ่ม เช่น นวัตกรรมยืดอายุ เก็บกลิ่น รักษารสชาติ อย่าง OptiBreath® บรรจุภัณฑ์ถุงสำหรับยืดอายุผักและผลไม้ ช่วยลดของเสีย ทั้งยังช่วยยกระดับคุณภาพสินค้าสำหรับอุตสาหกรรมส่งออก นวัตกรรมใช้ทรัพยากรน้อย ตอบโจทย์ผู้บริโภค เช่น Green Carton บรรจุภัณฑ์ที่แข็งแรงเท่าเดิม แต่ใช้ทรัพยากรลดลง 15%-20% บรรจุภัณฑ์อาหารปลอดภัย เสริมท่องเที่ยวคึกคัก รักษ์สิ่งแวดล้อม อย่าง FEST และ SCGP Recycle โซลูชันช่วยจัดการแยกขยะตั้งแต่ต้นทาง ที่ให้ความสำคัญกับการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าผ่านแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) ด้วยการจัดการวัสดุเหลือใช้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อสร้างทางเลือกให้ผู้บริโภคยุคใหม่ได้เลือกสิ่งที่ดีที่สุดเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดี ควบคู่ไปกับการดูแลสังคมและสิ่งแวดล้อม
งาน FTI EXPO 2022: SHAPING FUTURE INDUSTRIES จัดขึ้นระหว่างวันที่ 29 มิถุนายน - 3 กรกฎาคม 2565 เวลา 10.00-20.00 น. ณ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติฯ จังหวัดเชียงใหม่ ภายในบูธของเอสซีจี นำเสนอภายใต้แนวคิด “ESG 4 Plus เพื่อเรา เพื่อโลก” แบ่งเป็น 2 โซน ได้แก่ ESG Zone โดยนำเสนอกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจตามแนวคิด ESG และ Innovation Zone ที่จัดแสดงนวัตกรรมสินค้า บริการ และโซลูชันรักษ์โลก