ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองบุกค้นทลายแก๊งแอปพลิเคชั่นปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยโหด จังหวัดนนทบุรี หักค่าธรรมเนียม 42 เปอร์เซ็นต์ พบนายทุนจีนอยู่เบื้องหลัง มีลูกหนี้กว่า 70,000 ราย
......................
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 18 มิ.ย. 2564 พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม. ลงตรวจที่เกิดเหตุด้วยตนเองเมื่อช่วงบ่ายวันนี้ หลังจาก พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน สตม. (ผบก.สส.สตม.) และ พ.ต.อ.ชย พานะกิจ ผกก.(สอบสวน) กลุ่มงานสอบสวน บก.สส.สตม. พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สตม.ร่วมกันจับกุม ผู้ต้องหา จํานวน 2 ราย Mr.Lian BinBin สัญชาติจีน และ น.ส.ณัฐชุตา กุลเชษฐ์ ชาวไทย ข้อหา ร่วมกันประกอบกิจการทวงถามหนี้โดยไม่ได้รับอนุญาต
พล.ต.ท.สมพงษ์ กล่าวว่า ในช่วงเดือน พ.ค.- มิ.ย.64 ที่ผ่านมา ได้รับการร้องเรียนจากประชาชนว่า ได้กู้เงินนอกระบบจากแอปพลิเคชั่นที่โฆษณาตามสื่อออนไลน์ต่างๆ เบื้องต้นพบมี 6 แอปพลิเคชั่น ดังนี้ 1.แมวกวัก 2.Tiktak 3.Ubaht 4.Cashdaddy 5.เต่ามงคล และ 6.ถุงเงิน
โดยพฤติการณ์ คือ เมื่อประชาชนตกลงกู้เงิน จะต้องทำการส่งข้อมูลส่วนตัวพร้อมหมายเลขโทรศัพท์ให้กับทางแอปฯ ดังกล่าว ยอดเงินกู้ เริ่มตั้งแต่ 2,500-10,000 บาท จะคิดหักค่าธรรมเนียมประมาณร้อยละ 30-42 ให้เวลาคืน 7 วัน หากเกินกำหนดในวันแรกคิดดอกเบี้ยรวมค่าปรับ ร้อยละ 12 วันถัดไปวันละ ร้อยละ 5 หากไม่ชำระตามที่กำหนดจะถูกเจ้าหน้าที่โทรตามทวงหนี้ หรือโทรหาญาติพี่น้อง คนรู้จัก เพื่อให้เกิดความอับอาย ปัจจุบันมีประชาชนตกเป็นผู้เสียหายจำนวนมาก มีบางรายถูกโทรข่มขู่ จึงได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สน.ทุ่งมหาเมฆ ต่อมาศาลได้ออกหมายจับผู้ต้องหาทั้ง 2 คนไว้เพราะพบว่ามีเหยื่อกว่า 70,000 ราย
ต่อมาในวันนี้ (18 มิ.ย.64) ชุดสืบสวนนำโดย พ.ต.อ.ชย จึงได้ขออนุมัติหมายศาลเข้าทำการตรวจค้น 2 จุด คือ จุดที่ 1 บ้านเลขที่ 30 ซอยหมู่บ้านจันทิมาธานี 2 แขวงบางรักพัฒนา เขตบางบัวทอง จ.นนทบุรี จับกุม Mr.Lian BinBin สัญชาติจีน ตามหมายจับ ที่ 516/2564 ข้อหา ร่วมกันประกอบกิจการทวงหนี้ โดยไม่ได้รับอนุญาต จากการตรวจค้น พบสมุดบัญชี 15 เล่ม บัตรกดเงิน 10 ใบ และโทรศัพมือถือ 13 เครื่อง จุดที่ 2 บ้านเลขที่ 13 ซอยรัตนาธิเบศร์ 30 ต.บางกระสอ อ.เมือง จ.นนทบุรี จับกุม น.ส.ณัฐชุตา กุลเชษฐ์ ตามหมายจับ ศาลอาญา กรุงเทพใต้ ที่ จ 299/2564 ข้อหา ร่วมกันประกอบกิจการทวงหนี้ โดยไม่ได้รับอนุญาต จากการตรวจ ค้นพบคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก, โทรศัพท์ อย่างละประมาณกว่า 100 เครื่อง ภายในอาคารดังกล่าว มีกลุ่มบุคคลยอมรับว่าเป็นพนักงานโทรทวงหนี้ รวมจำนวน 66 คน แบ่งเป็นบริเวณชั้นสอง จำนวน 16 คน ชั้นสาม จำนวน 27 คน และชั้นสี่ จำนวน 23 คน
“สตม.จะได้ประสานกับศูนย์ป้องกันปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับหนี้นอกระบบ สำนักงานตำรวจแห่งชาติในการสืบสวนสอบสวนขยายผลผู้เกี่ยวข้องในความผิด ร่วมกันประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับอนุญาต ภายใต้การกำกับของกระทรวงการคลังเป็นตามการค้าปกติ และ ให้บุคคลอื่นกู้ยืมเงินโดยเรียกดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกําหนดไว้ต่อไป” พล.ต.ท.สมพงษ์กล่าว
ทั้งนี้ สตม.มีมาตรการในการตรวจสอบ กวดขัน และปราบปรามการกระทำความผิดในด้านต่างๆ หากประชาชนท่านใดพบเห็นเบาะแสการกระทำความผิด กรุณาแจ้งมายังสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง หรือที่หมายเลขโทรศัพท์ 1178 หรือที่ www.immigration.go.th
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage