ตร.เตือน ปชช.ระวัง ตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพ ลวงส่ง SMS - แนบลิงก์ให้กรอกข้อมูลส่วนตัว
.......................................
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 20 เม.ย.2564 พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองผู้บังคับการปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ผบก.ปอท.) ในฐานะรองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวเปิดเผยว่า ในช่วงที่ผ่านมา พบว่ามีพี่น้องประชาชนได้รับความเสียหายจากกลโกงมิจฉาชีพ จากการเข้าแจ้งความและร้องเรียนผ่านสื่อมวลชน ว่าได้รับข้อความสั้น หรือ SMS แจ้งผ่านสมาร์ทโฟน แสดงความยินดีว่า เราได้รับเงินจำนวน 100,000-200,000 บาท หรือแอบอ้างส่งมาจากธนาคารต่างๆ โดยบางคน ได้รับข้อความแจ้งว่าเงินในบัญชีของท่านถูกถอนออกไปจำนวน 50,000 บาท ถ้าท่านไม่ได้ทำธุรกรรม ขอให้กดลิงก์เพื่อยืนยัน และบางรายได้รับข้อความว่าเป็นผู้โชคดีได้รับการฉีดวัคซีนโควิดฟรี
พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ กล่าวว่า ข้อความพร้อมลิงก์ต่างๆ เหล่านี้มีการส่งต่อกันในโซเชียลมีเดีย ซึ่งในช่วงนี้คือการหลอกให้กด ลวงให้กรอก หรือ Phishing ซึ่งเป็นคำแผลงมาจากคำว่า fishing แปลว่าการตกปลา มีความหมายถึง การปล่อยให้ปลามากินเหยื่อที่ล่อไว้ การหลอกดังกล่าวนั้นมีลักษณะเป็นกลอุบายการตลาดของกลุ่มมิจฉาชีพ โดยอาศัยว่าปัจจุบันประชาชนส่วนใหญ่มีสมาร์ทโฟน มีการเข้าถึงโซเชียลมีเดีย และมีการใช้บริการผ่านแอปพลิเคชั่นต่างๆ โดยเฉพาะการธนาคาร จึงมีการพยายามเข้าถึงพี่น้องประชาชนผ่านโทรศัพท์มือถือ โดยใช้วิธีการหลอกลวงด้วยการส่งลิงก์ ประกอบกับข้อความในลักษณะต่างๆ ที่สร้างความสนใจ ตกใจ จนต้องกดลิงก์ที่แนบมา เช่น แจกเงินเข้าบัญชี, แจกสติ๊กเกอร์ , แจกวัคซีนโควิด หรือมีข้อความบอกว่าเรากดเงินสำเร็จ ทั้งๆที่เราไม่ได้ทำธุรกรรมใดๆกับธนาคาร
"หากกดลิงก์ดังกล่าวจะพาไปพบกับสิ่งที่มิจฉาชีพหรือผู้ไม่หวังดีต้องการให้ไปเจอ เช่น แอปพลิเคชันเงินกู้ หรือเว็บพนัน หากเราสนใจ จะให้เรากรอกข้อมูลต่างๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ เนื่องจากเราอาจถูกเอารัดเอาเปรียบจากผู้ปล่อยเงินกู้ เช่น เรียกดอกเบี้ยเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด , ทวงถามหนี้โดยผิดกฎหมาย หรือการกู้ยืมเงินในลักษณะฉ้อโกงประชาชน หรือกรณีเว็บพนัน จะมีโปรโมชั่นต่างๆที่เป็นการเย้ายวนให้ร่วมเล่นการพนันออนไลน์จนเสียเงินเสียทองหมดเนื้อหมดตัว" พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ กล่าว
พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ กล่าวถึงกรณีกดลิงก์ครั้งเดียวเงินหมดบัญชีว่า อันนี้ต้องเรียนว่ายาก และอยากให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนก เนื่องจากแอปพลิเคชันของธนาคารหรือสถาบันการเงิน จะมีการป้องกันและพัฒนาการแฮกหรือเข้าถึงระบบโดยมิชอบ เว้นเสียแต่เจ้าของบัญชีถูกหลอกให้กดลิงก์ที่มิจฉาชีพหลอกหรืออาจแชทคุยกับเหยื่อโดยใช้โลโก้ธนาคาร แล้วอ้างว่าบัญชีเงินฝากของท่านมีปัญหา ถูกอายัดบัญชี จากนั้นจะหลอกให้เจ้าของบัญชียืนยันตัวตนโดยให้ กรอกข้อมูลส่วนตัวเช่น เลขบัตรประชาชน วันเดือนปีเกิด Username Password ผ่านลิงก์ปลอม หรือ อาจหลอกให้กรอกรหัสใช้ครั้งเดียว หรือ OTP เพื่อทำให้หลงกล เชื่อว่าส่งมาจากธนาคารจริง เมื่อประชาชนกรอกข้อมูลดังกล่าว จะทำให้มิจฉาชีพ รู้ข้อมูลทุกอย่าง จึงสามารถทำธุรกรรมถอนเงินจากบัญชีได้จนเงินหมดบัญชี
พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ กล่าวอีกว่า การปราบปรามสืบสวนจับกุมมิจฉาชีพที่ใช้กลอุบายเหล่านี้ ที่ผ่านมาสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ดำเนินการเชิงรุกในการสืบสวนจับกุม โดยศูนย์ป้องกันปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับหนี้นอกระบบ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปน.ตร.), ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ (ศปอส.ตร.) ,บช.สอท. , บก.ปอท.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้มีผลการปฏิบัติอยู่อย่างต่อเนื่อง
"สำหรับคำแนะนำวิธีการป้องกัน เมื่อได้รับลิงก์ดังกล่าวข้างต้น ขอให้ตั้งสติ อย่าตกใจ อย่าเพิ่งเชื่อในสิ่งที่เห็น ขอให้สังเกตลิงก์จะเป็นชื่อแปลกๆ ไม่ตรงกับสิ่งที่เค้าอ้าง เช่น อ้างว่าเป็นธนาคารหรือหน่วยงานราชการ แต่จะสะกดเป็นข้อความภาษาอังกฤษแปลกๆ ซึ่งหากได้รับลิงค์เหล่านี้อย่าสนใจ อย่ากดลิงก์ หรือถ้าเป็นไปได้โทรสอบถาม call center ของ หน่วยงานนั้นๆ เช่น ธนาคาร อย่าหลงกรอก Username Password หรือ OTP ผ่านลิงก์ที่ได้รับเหล่านั้นอย่างเด็ดขาด นอกจากนั้นควรตั้งรหัสที่คาดเดาได้ยาก และตั้งค่าการเข้ารหัส 2 ชั้น" พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ กล่าว
ทั้งนี้ การกระทำดังกล่าวจะมีความผิด เป็นไปตามพฤติการณ์ที่มิจฉาชีพหลอกลวง เช่น ฉ้อโกงประชาชน, พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ, พ.ร.บ.การพนันฯ, พ.ร.บ.ห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา เป็นต้น แต่ละฐานความผิดก็จะมีอัตราโทษที่แตกต่างกันไป
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่https://www.facebook.com/isranewsfanpage/
Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา 