ตำรวจทลายแก๊งเงินกู้นอกระบบ ทำงานผ่านแอปพลิเคชัน คิดอัตราดอกเบี้ยสูงเกินกฎหมายกำหนด
...............................................................
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 3 ก.พ.2564 พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง นำกำลังเข้าตรวจค้นอาคารสามชั้น ไม่มีเลขที่ ภายในทาวน์อินทาวน์ ซ.3 ถ.ศรีวรา แขวงพลับพลา เขตวังทองหลาง หลังสืบทราบว่าสถานที่ดังกล่าวเปิดเป็นสำนักงานปล่อยเงินกู้นอกระบบ คิดอัตราดอกเบี้ยเกินกว่ากฎหมายกำหนด
เบื้องต้นจับกุมลูกจ้างชาวไทยได้ 46 ราย ผู้ดูแลซึ่งเป็นชาวจีน 4 ราย และชาวสิงคโปร์ 1 ราย พร้อมของกลางคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก เอกสารการทวงหนี้ สมุดบันทึกการทำงาน หนังสือการว่าจ้างงาน และอื่น ๆ หลายรายการ
พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ ผบก.สส.สตม. กล่าวว่า สืบเนื่องจากชุดสืบสวนได้รับร้องเรียนจากประชาชนจำนวนมากว่า ตกเป็นเหยื่อจากการกู้ยืมเงินผ่านแอปพลิเคชั่นชื่อ speedwallet ซึ่งมีการเรียกเก็บดอกเบี้ยเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด โดยจะให้สินเชื่อบุคคล ตั้งแต่ 2,000 – 50,000 บาท ระยะเวลาชำระหนี้ภายใน 7 วัน หากกู้เงิน 2,000 บาท จะได้เงินจริงเพียง 1,200 บาท หักเป็นค่าบริการ 800 บาท คิดอัตราดอกเบี้ย 12-14% ทั้งนี้หลังจากผู้กู้โหลดแอปพลิเคชั่นและยืนยันตัวตนแล้ว กลุ่มผู้ต้องหาจะดูดข้อมูลไลน์และเบอร์โทรศัพท์บันทึกไว้เป็นหลักฐาน ซึ่งผู้กู้ต้องให้ความยินยอม เมื่อกู้ผ่านแล้วจะถูกหักค่าบริการออกจากเงินกู้ แต่ลูกหนี้ยังต้องชำระเงินเต็มจำนวนพร้อมดอกเบี้ย หากไม่ชำระตามกำหนดเวลา จะทวงหนี้ในลักษณะข่มขู่ ด่าทอ คุกคาม และส่งข้อความเกี่ยวกับการเป็นหนี้ไปยังรายชื่อที่เก็บรวบรวมไว้ซึ่งเป็นบุคคลที่สาม ทำให้ผู้กู้ได้รับความอับอาย และเสื่อมเสียชื่อเสียง จึงได้ดำเนินการสืบสวนเรื่อยมา กระทั่งสืบทราบว่าขบวนการดังกล่าว ตั้งอยู่ที่อาคารเช่ามาในราคาเดือนละ 60,000 บาท และเพิ่งย้ายที่ตั้งมาได้ 2 สัปดาห์ ส่วนพนักงานคนไทยทั้งชายและหญิง แบ่งหน้าที่กันทำงานฝ่ายบุคคล ธุรการ ฝ่ายทวงหนี้ และผู้ประสานงานอย่างชัดเจน
พล.ต.ท.สมพงษ์ กล่าวว่า ปัจจุบันมีกลุ่มนายทุนเงินกู้นอกระบบเป็นกลุ่มทุนต่างชาติ เข้ามาหาประโยชน์เอารัดเอาเปรียบประชาชนที่กำลังเดือดร้อน มีการเปลี่ยนแปลงวิธีการกระทำความผิดโดยนำเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาใช้ เพื่อให้เข้าถึงประชาชนเป็นจำนวนมากได้โดยง่าย ส่งผลให้เกิดความเสียหายในภาพรวมเป็นวงกว้าง ซึ่งจากการสืบสวนพบว่ามีแอปพลิเคชั่นเงินกู้นอกระบบที่อยู่ในเครือข่ายนี้กว่า 8 แอปพลิเคชั้น มีลูกค้ากว่า 5,000 ราย ในส่วนของคนไทยที่มาทำงานนั้นได้ค่าจ้าง 12,000 บาท อย่างไรก็ตามในส่วนของเงินหมุนเวียนหรือความเสียหายอยู่ระหว่างการตรวจสอบและขยายผลต่อไป
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหา ความผิดตาม พ.ร.บ.เรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา พ.ศ. 2560 ตามมาตรา 4 ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกินสองปีหรือปรับไม่เกินสองแสนบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ และข้อหาเรียกดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด, กำหนดข้อความอันเป็นเท็จเรื่องจำนวนเงินกู้หรือเรื่องอื่นไว้ในหลักฐานการกู้ยืมหรือตราสารที่เปลี่ยนมือได้เพื่อปิดบังการเรียกดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนดหรือกำหนดจะเอาหรือรับเอาซึ่งผลประโยชน์อย่างอื่นนอกจากดอกเบี้ยไม่ว่าจะเป็นเงินหรือ สิ่งของโดยวิธีการใดใดจนเห็นได้ชัดว่าประโยชน์ที่ได้รับนั้น มากเกินส่วนอันสมควรตามเงื่อนไขแห่งการกู้ยืมเงิน ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage