สมุทรสาครป่วยเพิ่ม 355 ราย สะสม 4,359 ราย รองผู้ว่าฯ ลงนามผ่อนปรนมาตรการควบคุมโรค เปิดร้านตัดผม-ร้านอาหารได้ถึง 21.00 น. ยกเว้น 8 ตำบลควบคุมสูงสุด ส่วนสถานที่เสี่ยงอื่นๆ ให้ปิดกิจการต่อเนื่องจนถึง 1 ก.พ.2564
................................................
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 16 ม.ค.2564 เวลา 17.00น. สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสมุทรสาคร รายงานความคืบหน้าการติดตามสถานการณ์โควิด พบผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มขึ้นจำนวน 355 ราย เป็นผลจากการค้นหาเชิงรุก 311 ราย แบ่งเป็นคนไทย 118 ราย และคนต่างด้าว 193 ราย เป็นผู้ที่เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล 24 ราย แบ่งเป็นคนไทย 13 ราย และคนต่างด้าว 11 ราย รวมผู้ป่วยสะสม 4,359 ราย
ทั้งนี้มีผู้ป่วยที่อยู่ระหว่างรักษาตัวในโรงพยาบาล รวม 1,131 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 327 ราย แบ่งเป็นคนไทย 169 ราย และคนต่างชาติ 158 ราย ส่วนคนที่รักษาหายแล้ว 803 ราย เป็นคนไทย 637 ราย และคนต่างด้าว 166 ราย ขณะเดียวกันผู้กักตัวเฝ้าสังเกตอาการครบตามระยะเวลาที่กำหนด แล้วไม่พบเชื้อ สามารถกลับบ้านได้รวม 2,184 ราย แบ่งเป็นคนไทย 182 ราย และต่างด้าว 2,002 ราย ทั้งนี้ผู้เสียชีวิตยังคงที่ 1 ราย
วันเดียวกันนี้ นายธีรพัฒน์ คัชมาตย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร รักษาการแทนผู้ว่าราชการจังหวัด ประธานกรรมการโรคติดต่อจังหวัดสมุทรสาคร ออกคำสั่งจังหวัดสมุทรสาครที่ 157/2564 ลงวันที่ 15 ม.ค.2564 ยกระดับมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด ให้ขยายเวลาปิดสถานที่เสี่ยงต่อไปจนถึงวันที่ 1 ก.พ. 2564 หรือจนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง นอกจากนั้นยังมีการผ่อนปรนมาตรการบางกิจการ ดังนี้
1.ร้านตัดผม เปิดได้ทั้งจังหวัด ตั้งแต่เวลา 06.00 - 21.00 น. แต่ต้องมีมาตรการควบคุมจำนวนผู้เข้าใช้ และต้องมีมาตรการป้องกัน
2.ร้านอาหารหรือเครื่องดื่ม (ห้ามจำหน่ายแอลกอฮอล์) ให้เปิดได้ตั้งแต่เวลา 06.00-21.00น. โดยสามารถให้รับประทานในร้านได้โต๊ะละ 1-2 คน และจะต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดอย่างเคร่งครัด ทั้งนี้ยกเว้นในพื้นที่ควบคุมสูงสุด 8 ตำบล ประกอบด้วย ตำบลมหาชัย ตำบลโกรกกราก ตำบลท่าฉลอม ตำบลท่าทราย ตำบลนาดี ตำบลหญ้าแพรก ตำบลโครกขาม และตำบลท่าจีน ให้จำหน่ายเพื่อนำกลับไปบริโภคที่อื่น
3.ตลาดเปิดทำการได้เพียงวันละไม่เกิน 6 ชั่วโมง โดยให้จำหน่ายเพื่อนำกลับไปบริโภคที่อื่นเท่านั้น และต้องทำความสะอาดตลาดทุกวัน
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage