“เฉลิมชัย" โบ้ย "ปลัดเกษตรฯ"คนเสนอเลื่อนแบน 3 สาร ระบุพร้อมปฏิบัติตามมติคณะกรรมการวัตถุอันตราย ยันไม่มีรอยร้าว กับ รมช.มนัญญา ยังนัดกินข้าวกับ "อนุทิน" และพรรคภูมิใจไทย
เว็บไซต์สยามรัฐรายงานว่า นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยกรณีคณะกรรมการวัตถุอันตราย มีมติเลื่อนแบน2สารเคมี ได้แก่ พาราควอต คลอร์ไพริฟอส ขยายเวลาไปอีก6เดือน มีผลวันที่1มิ.ย.63 และสารไกลโฟเซต ไม่แบนให้กลับไปใช้มาตรการจำกัดการใช้ ว่าในส่วนกระทรวงเกษตรฯจะดำเนินการต่อไปอย่างไร ให้เป็นมติของคณะกรรมการวัตถุอันตราย ว่าอย่างไร ตนพร้อมปฏิบัติตามนั้น
นอกจากนี้กรณีนายอนันต์ สุวรรณรัตน์ ปลัดกระทรวงเกษตรฯไปเสนอขยายเวลาแบนสารออกไป หรืออย่างไร เป็นสิทธิของปลัดกระทรวงเกษตรฯ ตนไม่ก้าวก่าย ไม่เคยสั่งการ และไม่มีหนังสืออะไรทั้งสิ้นออกจากไปรมว.เกษตรฯ
“ไม่ได้คุยเรื่องขยายเวลาแบนสารเคมีกับปลัดกระทรวงเกษตรฯ ซึ่งการตัดสินใจอย่างไร ผมไม่ไปก้าวก่าย ทุกอย่างเป็นเรื่องคณะกรรมการวัตถุอันตราย ผมขอยืนยันอีกครั้ง ไม่มีการสั่งการ ไม่มีหนังสือใดๆทั้งสิ้น ถ้าใครมีให้เอาออกมา ผมชี้แจงไปแล้ว ก็ยังไม่มีก็ยังไม่จบ รวมทั้งทุกอย่างเป็นเรื่องคณะกรรมการวัตถุอันตราย ว่ากันไป”นายเฉลิมชัย กล่าว
เมื่อถามว่าปลัดกระทรวงเกษตรฯ ตัดสินใจขอยื่นขยายเวลาเลื่อนการแบนสารออก ไปได้ด้วยตัวเองโดยไม่ต้องหารือกับรมว.เกษตรฯก่อนหรือ นายเฉลิมชัย กล่าวด้วยน้ำเสียงดัง ว่า ปลัดเกษตรฯจะตัดสินใจได้อย่างไร ในเมื่อเขาเป็นหนึ่งในคณะกรรมการกอ. การตัดสินใจได้ต้องคณะกรรมการทั้งหมด ใครคนหนึ่ง จะไปชี้นำคณะกรรมการไม่ได้
“เราเสนอในฐานะเป็นกรรมการคนหนึ่งเท่านั้นเอง ไม่ต้องมีหนังสือจากกระทรวงฯยืดเวลา ผมเคยทำหนังสือแม้ฉบับเดียว กลับโดนโจมตี ในสิ่งที่ไม่เป็นความจริง ผมพยายามพูดความจริงก็ไม่ฟังกัน การไม่ฟังความจริง พูดไปไม่ประโยชน์”นายเฉลิมชัย กล่าว
เมื่อว่าในส่วนการทำงานของรมว.เกษตรฯกับน.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ รมช.เกษตรฯจะเดินหน้ากันไปอย่างไร เมื่อเกิดรอยร้าวขึ้นแล้วและจะแลกกรมวิชาการเกษตรกับกรมชลประทาน
นายเฉลิมชัย กล่าวว่า เอาเป็นว่าตนไม่รู้ว่าจะให้กรมวิชาการเกษตร มาดูตนไม่ทราบ ใครทราบก็ตอบให้ด้วย และรอยร้าวไม่มี ไม่ต้องเคลียร์ ย้ำว่าในการทำงาน ไม่มีรอยร้าว ยังนัดกินข้าวกับพรรคภูมิใจไทย ซึ่งนัดกินกันตามปกติทั้งคณะอยู่แล้ว ไม่ใช่นัดกับนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและรมว.สาธารณสุข คนเดียว ส่วนจะกินเมื่อไหร่ไม่บอก เดี๋ยวเป็นประเด็นอีก