ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และนายคิม จอง-อึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ จะพบหารือกันที่เขตปลอดทหารบนคาบสมุทรเกาหลี ในวันอาทิตย์ที่ 30 มิ.ย. หลังผู้นำสหรัฐเชิญอีกฝ่ายผ่านทวิตเตอร์
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ เมื่อวันที่ 30 มิ.ย.ว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แถลงเมื่อวันอาทิตย์ ที่ทำเนียบประธานาธิบดีชานกรุงโซลหลังพบหารือกับประธานาธิบดีมุน แจ-อิน ผู้นำเกาหลีใต้ ว่าเขาและนายคิม จอง-อึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ จะพบหารือกันที่หมู่บ้านปันุมนุจอม บนเขตปลอดทหาร ( ดีเอ็มซี ) ของคาบสมุทรเกาหลี ในช่วงเย็นของวันเดียวกันนี้ตามเวลาท้องถิ่น แต่กล่าวว่าการพบหารือครั้งนี้ "จะใช้เวลาไม่นาน"
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นเพียงวันเดียวหลังทรัมป์ทวีตข้อความเมื่อวันเสาร์ มีเนื้อหาชัดเจนว่าต้องการส่งสารถึงผู้นำหนุ่มเกาหลีเหนือ โดยทรัมป์บอกว่าหลังเสร็จสิ้นการประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่มประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ "จี20" ที่เมืองโอซาก้าของญี่ปุ่น เขาจะเยือนเกาหลีใต้เป็นจุดหมายต่อไป "และจะเป็นไปได้หรือไม่" หากเขาจะได้มีโอกาสพบกับผู้นำหนุ่มของเกาหลีเหนือ ที่เขตปลอดทหาร ( ดีเอ็มซี ) แม้เป็นเพียงจับมือทักทายกันก็ตาม
ขณะที่ต่อมากระทรวงการต่างประเทศของเกาหลีเหนือมีแถลงการณ์สั้นๆผ่านสำนักข่าวกลางเกาหลี ( เคซีเอ็นเอ ) ว่าข้อเสนอของผู้นำสหรัฐ "น่าสนใจ" ด้านผู้นำเกาหลีใต้กล่าวว่าการพบหารือที่หมู่บ้านปันมุนจอมครั้งนี้จะเป็นระหว่างผู้นำสหรัฐกับผู้นำเกาหลีเหนือเท่านั้น มุนเผยว่าเขาจะเดินทางไปยังเขตปลอดทหารพร้อมกับทรัมป์ด้วย และแม้ได้รับเชิญให้เข้าร่วมการพบหารือครั้งนี้เช่นกัน แต่เมื่อพิจารณาแล้วเห็นควรว่า การพบกันระหว่างเขากับคิม "ควรเกิดขึ้นเวลาอื่นดีกว่า" นอกจากนี้ มุนกล่าวชื่นชม "ความกล้าหาญ" ของประธานาธิบดีสหรัฐและผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ ในการมาพบกันบนเขตปลอดทหารของคาบสมุทรเกาหลี และมั่นใจว่าจะเป็นสัญญาณที่ดีสู่กระบวนการปลดนิวเคลียร์และสร้างสันติภาพบนคาบสมุทรเกาหลี ที่หยุดชะงักไปตั้งแต่ฮานอยซัมมิต เมื่อเดือนก.พ. ที่ผ่านมา
ในเวลาเดียวกันมีรายงานด้วยว่า เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงประจำเขตปลอดทหารของทั้งสองประเทศได้ปิดพื้นที่ทั้งหมดของเขตปลอดทหารออกจากนักท่องเที่ยวแล้ว คาดว่าเพื่อจัดเตรียมสถานที่ ยิ่งเป็นการยืนยันว่าการพบกันครั้งสำคัญอีกครั้งหนึ่งระหว่างทรัมป์กับคิมจะเกิดขึ้น อนึ่ง ประธานาธิบดีสหรัฐทุกคนนับตั้งแต่นายโรนัลด์ แรแกน เดินทางมายังเขตปลอดทหารทุกครั้งในการเยือนเกาหลีใต้ ยกเว้นนายจอร์จ เอช.ดับเบิลยู. บุช ซึ่งเยือนพื้นที่แห่งนี้ในสมัยดำรงตำแหน่งรองประธานาธิบดี
ที่มาข่าว: https://dailynews.co.th/foreign/717690