ปอท.ขยายผล จับมือขวาไฮโซน้ำแข็ง สร้างแอปฯปลอม หลอกลงทุน

ตำรวจ ปอท.เปิดปฏิบัติการ Lockstar Season 2 ขยายผลจับมือขวาไฮโซน้ำแข็ง สร้างแอปฯปลอมหลอกคนลงทุน รวมความเสียหายกว่า 22 ล้านบาท

สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 3 ธ.ค. 2567 พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. พร้อมด้วย พล.ต.ต.อธิป พงษ์ศิวาภัย ผบก.ปอท.พ.ต.อ.เนติ วงษ์กุหลาบ รอง ผบก.ปอท. พ.ต.อ. ภานุภัท กิตติพันธ์ ผกก.1 บก.ปอท.แถลงผลจับกลุ่มองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติเครือข่ายหลอกลงทุนออนไลน์ ไฮบริดสแกม (Hybrid Scam) นำกำลังเข้าตรวจค้นเป้าหมาย 13 จุด ในพื้นที่ กทม., เชียงราย ,ระยอง และ ภูเก็ต จับกุม นายหวัง (MS.WANG) สัญชาติจีน หัวหน้าระดับสั่งการ , นายกิตติคุณฯ อายุ 38 ปี ระดับสั่งการ / รับผลประโยชน์, น.ส.ทิพวัลย์ อายุ 44 ปี บริหารจัดการ / แปรสภาพทรัพย์สิน และผู้ต้องหาทำหน้าที่เปิดบัญชีธนาคารและเปิดกระเป๋าสินทรัพย์ดิจิทัล รวม 13 ราย โดยมีชาวเวียดนามและสิงคโปร์ ชาติละ 1 ราย ตามหมายจับศาลอาญาพระโขนง ข้อหา“ร่วมกันเป็นอั้งยี่, ร่วมกันมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ, สมคบกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินและได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ใด้มีการสมคบกัน และร่วมกันฟอกเงิน”

พร้อมตรวจยึดทรัพย์สินหลายรายการ ประกอบด้วยบ้านหรู จำนวน 1 หลัง มูลค่ากว่า 7 ล้านบาท, รถยนต์ จำนวน 2 คัน มูลค่ากว่า 5 ล้านบาท, โฉนดที่ดิน จำนวน 4 ใบ มูลค่ากว่า 9 แสนบาท  และ หุ้น ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย จำนวน 10,000 หุ้น มูลค่ากว่า 1 ล้านบาท รวมมูลทรัพย์สินทั้งหมดค่ากว่า 14 ล้านบาท

พล.ต.ท.จิรภพ กล่าวว่า สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ปอท. ได้รับแจ้งจากผู้เสียหายว่าถูกกลุ่มมิจฉาชีพโพสต์ข้อความชักชวนลงทุนในเงินสกุลดิจิทัล (Cryptocurrency) ผ่านเว็บไซต์ Tidex ซึ่งเป็นแอปพลิเคชันที่ปลอมขึ้นมา โดยเสนอให้ผลตอบแทนสูง ผู้เสียหายหลงเชื่อจึงได้โอนเงินลงทุนไปยังบัญชีธนาคารของกลุ่มคนร้าย จำนวน 17 ครั้ง รวมมูลค่าความเสียหายทั้งสิ้นกว่า 22.4 ล้านบาท ต่อมาพบว่าเว็บไซต์ดังกล่าวได้ปิดหนีไปแล้ว จึงเข้าแจ้งความดำเนิน

พล.ต.ต.อธิป กล่าวว่า ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ปอท. ได้ประสานข้อมูลมายังศูนย์ AOC พบว่ามีผู้เสียหายหลงเชื่อหลายราย จึงขอศาลออกหมายจับกลุ่มขบวนการ จากนั้นได้จับกุม นายเกา อายุ 29 ปี สัญชาติจีน และกลุ่มนักธุรกิจ คนดังในแวดวงสังคมไฮโซไปก่อนหน้านี้ จำนวน 6 ราย ตรวจยึดทรัพย์สินรวมมูลค่ากว่า 30 ล้านบาท  ต่อมาได้ประสาน อสส. และ ปปง.ขยายผลสืบสวนเส้นทางการเงิน และเส้นทางของเหรียญดิจิทัล กระทั่งตามจับกุมผู้ต้องหาได้เพิ่มอีก 13 ราย สรุปแล้วรวมทั้งสอง season สามารถจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับได้ทั้งสิ้นจำนวน 19 ราย ประกอบด้วยชาวจีน 3 ราย ชาวเวียดนาม 1 ราย ชาวสิงคโปร์ 1 ราย และชาวไทย 14 ราย จากนั้นนำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวน กก.1 บก.ปอท.ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป