กรมสอบสวนคดีพิเศษร่วมมือสถานเอกอัครราชทูตเดนมาร์ก ประจำประเทศไทย บุกค้นที่เก็บสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์-เครื่องหมายการค้า กว่า 12,000 ชิ้น มูลค่ากว่า 10 ล้านบาท
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 13 ก.ย. 2566 กรมสอบสวนคดีพิเศษ ประสานความร่วมมือกับสถานเอกอัครราชทูตเดนมาร์ก กรุงเทพมหานคร บุกตรวจค้นสถานที่ลักลอบเก็บและจำหน่ายสินค้าที่ละเมิดลิขสิทธิ์และเครื่องหมายการค้า จำนวน 4 จุด ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร พบสินค้าประเภทชุดตัวต่อของเล่นและสินค้าอื่น ๆ ที่ละเมิดลิขสิทธิ์และเครื่องหมายการค้า
เมื่อ 12 ก.ย. 2566 ภายใต้การอำนวยการของ พันตำรวจตรี สุริยา สิงหกมล อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ พันตำรวจโท พเยาว์ ทองเสน รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ และร้อยตำรวจเอก พลสัณห์ เทิดสงวน ผู้อำนวยการกองคดีทรัพย์สินทางปัญญา เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ นำโดย พันตำรวจตรี สตพงษ์ เชื้อมหาวรรณ รองผู้อำนวยการกองคดีทรัพย์สินทางปัญญา พร้อมด้วย นายศักดา พิพัฒน์ธรรมกุล ผู้อำนวยการส่วนคดีทรัพย์สินทางปัญญา 3 เจ้าหน้าที่กองคดีทรัพย์สินทางปัญญาและกองปฏิบัติการพิเศษ ได้ร่วมกันนำหมายค้นของศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางจำนวน 5 หมาย เข้าทำการตรวจค้นสถานที่ลักลอบเก็บและจำหน่ายสินค้าที่ละเมิดลิขสิทธิ์และเครื่องหมายการค้า จำนวน 4 จุด ที่บริเวณเขตทวีวัฒนา เขตบางแค และเขตพระนคร กรุงเทพมหานคร
โดยมีตัวแทนของผู้เสียหายเข้าร่วมตรวจสอบ นำชี้สินค้าที่ละเมิดลิขสิทธิ์และเครื่องหมายการค้า และมีเจ้าหน้าที่ของสถานเอกอัครราชทูตเดนมาร์ก กรุงเทพมหานคร เข้าร่วมสังเกตการณ์การตรวจค้นด้วย ทั้งนี้ กองคดีทรัพย์สินทางปัญญา ได้มีการสืบสวนและประสานข้อมูลกับตัวแทนผู้เสียหายและสถานเอกอัครราชทูตเดนมาร์ก กรุงเทพมหานคร มาโดยตลอด จนกระทั่งสืบทราบว่ามีผู้ลักลอบเก็บและจำหน่ายสินค้าประเภทชุดตัวต่อของเล่นและสินค้าอื่น ๆ ที่ละเมิดลิขสิทธิ์และเครื่องหมายการค้าเป็นจำนวนมากดังกล่าว
ผลการตรวจค้น พบสินค้าประเภทชุดตัวต่อของเล่นและสินค้าอื่น ๆ ที่ละเมิดลิขสิทธิ์และเครื่องหมายการค้าของ เลโก เอ/เอส (LEGO A/S) และเลโก จูริส เอ/เอส (LEGO JURIS A/S) ในสถานที่เก็บสินค้าเพื่อรอการจำหน่ายและสถานที่จำหน่าย รวมจำนวนมากกว่า 12,000 ชิ้น โดยน่าเชื่อว่ามีมูลค่าความเสียหายอันเกิดจากการกระทำความผิดตั้งแต่ 10 ล้านบาทขึ้นไป
ซึ่งมีรายละเอียดของลักษณะการกระทำความผิดที่เป็นคดีพิเศษตามพระราชบัญญัติการสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. 2547 เจ้าหน้าที่ฯ จึงได้ยึดสินค้าดังกล่าวเป็นของกลางเพื่อตรวจสอบและเป็นพยานหลักฐาน นำส่งพนักงานสอบสวนคดีพิเศษของกองคดีทรัพย์สินทางปัญญา เพื่อทำการสอบสวนเป็นคดีพิเศษในความผิดตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 พระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้า พ.ศ. 2534 และความผิดอื่นที่เกี่ยวข้องต่อไป
กรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้ดำเนินการป้องกันปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา เพื่อเป็นการส่งเสริมระบบเศรษฐกิจและรักษาไว้ซึ่งความสัมพันธ์อันดีระหว่างประเทศ ตลอดจนเพื่อเป็นการส่งเสริมให้ประเทศไทย มีสถานะการจัดอันดับการปราบปรามละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาในระดับที่ดีขึ้น โดยการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา นอกจากจะเป็นการละเมิดสิทธิของเจ้าของทรัพย์สินทางปัญญาแล้ว ยังเป็นการทำลายระบบเศรษฐกิจของประเทศอีกด้วย กรมสอบสวนคดีพิเศษจึงขอความร่วมมือจากประชาชน หากพบเห็นการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา โปรดแจ้งเบาะแสได้ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ โทร. 1202 (โทร.ฟรีทั่วประเทศ)