ผบ.ตร.สั่งล่าตัว "หน่อง บ่อพลับ" ลูกน้องกำนันคนดังนครปฐม หลังก่อเหตุยิงสารวัตรตำรวจทางหลวงเสียชีวิต-รองผู้กำกับสาหัส เหตุมาจากกำนันคนดังขอตำแหน่งให้พรรคพวก แต่ไม่ได้ -ล่าสุดกำนันคนดังมอบตัวแล้ว
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานข่าวความคืบหน้ากรณีลูกน้องนายประวีณ จันทร์คล้ายก่อ หรือกำนันนกก่อ เหตุยิง พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว สารวัตรสถานีตำรวจทางหลวง 1 กองกำกับการ 2 กองบังคับการตำรวจทางหลวง (สว.ส.ทล.1 กก.2 บก.ทล.) เสียชีวิต และพ.ต.ท.วศิน พันปี รองผู้กำกับการ 2 กองบังคับการตำรวจทางหลวง (รอง ผกก.2 บก.ทล.) ได้รับบาดเจ็บ
ล่าสุด นายประวีณได้เดินทางเข้าเข้ามอบตัว พร้อมกับทนายความโดยเมื่อมาถึงที่สภ.เมืองนครปฐม ด้วยรถเก่งวีออส สีขาว กำนันนกสวมเสื้อสีขาวมีใบหน้าอิดโรย นั้งอยู่ด้ายซ้ายของรถ และเมื่อรถจอดพันตำรวจเอกพรศักดิ์ เลารุจิราลัย รองผู้บังคับการกองปราปบราม ไปเปิดได้เข้าไปเปิดประตูและดึงตัวลงมาจากรถทันที
จากนั้นผู้สื่อข่าวได้พยายามสอบถามกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับกำนันนก แต่กำนันนกปฏิเสธที่จะตอบคำถาม ก่อนเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวเข้าไปห้องงานสืบสวนสภ. เมืองนครปฐมทันที จากนั้นพ่อและแม่ของนายประวีณ เดินทางตามมาที่สภ.เมืองด้วย
สำหรับเหตุยิงเจ้าหน้าที่ตำรวจดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อเวลา 22.00 น. วันที่ 6 ก.ย. 66 พนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครปฐม รับแจ้งเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนยิง จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย และบาดเจ็บอีก 1 ราย เหตุเกิดในพื้นที่ต.ตาก้อง อ.เมือง จ.นครปฐม จึงเดินทางไปตรวจสอบทันที
ที่เกิดเหตุพบเป็นบริเวณลานกว้าง หน้าบ้านหลังหนึ่ง จากการสอบถามผู้เห็นเหตุการณ์ เบื้องต้นทราบว่า ทั้ง 2 รายเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจสังกัดกองบังคับการตำรวจทางหลวง (บก.ทล.) โดยรายแรก คือ พ.ต.ต.ศิวกร ถูกยิงทั่วร่างกาย กว่า 7 นัด อาการบาดเจ็บสาหัส ก่อนจะทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตในเวลาต่อมา ขณะที่อีกราย คือ พ.ต.ท.วศิน ถูกยิงบาดเจ็บบริเวณแขนซ้าย ถูกนำส่งรพ.ไปก่อนหน้านี้
มีรายงานว่า ก่อนเกิดเหตุ นายประวีณ ได้เชิญกลุ่มของเจ้าหน้าที่ตำรวจมารับประทานอาหาร พร้อมพูดคุยกันที่บ้าน โดยอ้างว่าอยู่ในพื้นที่เดียวกัน จึงอยากทำความรู้จักกันไว้ แต่เมื่อกลุ่มเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางมาถึง ทางกำนันคนดังกล่าวกลับพยายามจะพูดคุยโน้มน้าวขอวิ่งเต้นโยกย้ายตำแหน่งให้พรรคพวกของกำนัน โดยอยู่ในสายงานสังกัดของ พ.ต.ต.ศิวกร (ผู้เสียชีวิต) แต่กลับถูกปฏิเสธ พร้อมทั้งมีการให้เหตุผลว่าต้องเป็นไปตามกฎข้อระเบียบของทางต้นสังกัด และดูกันที่ผลงานเป็นหลัก ทำให้กำนันคนดังกล่าวไม่พอใจ จนทั้งคู่เกิดมีปากเสียงกันรุนแรง ก่อนที่ กำนัน จะลุกออกจากโต๊ะอาหารไปด้วยท่าทีโกรธเคือง ไม่นานนักก็มีคนร้ายเดินเข้ามาที่โต๊ะอาหารซึ่งกลุ่มตำรวจนั่งอยู่ ก่อนจะชักอาวุธปืนออกมากระหน่ำยิงใส่ตำรวจ จากนั้นหลบหนีไปทันที โดยขณะนี้ก็ไม่พบตัวกำนันคนดังกล่าว
นอกจากนี้ยังมีรายงานแจ้งว่า กำนันคนดังกล่าว เป็นที่รู้จัก และมีอิทธิพลในพื้นที่ ค่อนข้างมาก ทำให้คนในพื้นที่ไม่อยากมีปัญหาด้วย เนื่องจากเกรงจะมีอันตราย ส่วนตัวมือปืนผู้ก่อเหตุ เบื้องต้นจากการสอบถามพยานผู้เห็นเหตุการณ์ทราบว่าคือ นายสิทธิธา (สงวนนามสกุล) หรือ “หน่อง บ่อพลับ” มือปืน ซึ่งขณะนี้ทางตำรวจสอบสวนกลางอยู่ระหว่างเร่งไล่ล่าติดตามจับกุมตัว
เบื้องต้นพนักงานสอบสวน ได้สอบปากคำพยานในที่เกิดเหตุ พร้อมรวบรวมพยานหลักฐาน ก่อนเตรียมติดตามตัวมือปืน และกำนันคนดังกล่าวต่อไป
ต่อมาช่วงเช้าวันที่ 7 ก.ย.พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงเหตุการณ์นี้ว่า
พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร.ได้รับทราบแล้ว สั่งการด่วนให้ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. พร้อมชุดหนุมาน และ พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7 เร่งรัดออกหมายจับคนร้ายที่ก่อเหตุ ซึ่งตำรวจรู้ตัวแล้ว พร้อมไล่ล่าติดตามจับกุมมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว หากขัดขืนพร้อมจะใช้มาตรการเด็ดขาดดำเนินการ
ขณะที่พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผู้บังคับการกองปราบปราม (ผบก.ป.) เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้ชุดสืบสวนลงพื้นที่ตั้งแต่เมื่อคืนที่่ผ่านมา นำโดย พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย รองผบก.ป. พ.ต.อ.วิระชาญ ขุนชัยแก้ว รองผบก.ปอท. และ พ.ต.อ.ปทักข์ ขวัญนา ผกก.5 บก.ป. โดยให้จัดกำลังปิดล้อมจุดต้องสังสัยใน จ.นครปฐม และจังหวัดไกล้เคียงเพื่อกดดันติดตามตัวมือปืน และกำนันคนดัง ขณะนี้กำลังตามตัวผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดมาสอบสวน หากพบว่าตัวกำนันเกี่ยวข้องก็จะต้องถูกดำเนินคดีด้วย ทั้งนี้ตนจะลงพื้นที่ในช่วงบ่ายเพื่อประชุมความคืบหน้าของคดีต่อไป