ครม.เคาะสร้าง ‘สะพานข้ามทะเลสาบสงขลา-สะพานข้ามเกาะลันตา’ วงเงิน 6,695 ล้าน ผูกพันงบ 3 ปี (2566-2568) เพิ่มความสะดวกในการเดินทาง-ขนส่งโลจิสติกส์ พร้อมเผย 'แบงก์โลก' กังวลสะพานข้ามทะเลสาบฯ เหตุเป็นแหล่งที่อยู่สัตว์หายาก 'โลมาอิระวดี'
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันที่ 18 ตุลาคม 2565 น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติดำเนินงานก่อสร้างโครงการสะพานข้ามทะเลสาบสงขลา อำเภอกระแสสินธุ์ จังหวัดสงขลา – อำเภอเขาชัยสน จังหวัดพัทลุง ของกรมทางหลวงชนบท (ทช.) ระยะเวลาก่อสร้าง 3 ปี ตั้งแต่ปี 2566-2568 วงเงินรวมทั้งสิ้น 4,841 ล้านบาท เป็นค่าก่อสร้าง 4,700 ล้านบาท และค่าจ้างควบคุมงานก่อสร้าง 141 ล้านบาท
โดยในส่วนของค่าก่อสร้าง 4,700 ล้านบาท ให้กระทรวงการคลัง จัดหาแหล่งเงินกู้ตามแผนการบริหารหนี้สาธารณะ อัตราส่วนของแหล่งเงินกู้และเงินงบประมาณเป็น 70:30 สัดส่วนเงินกู้คิดเป็นวงเงิน 3,290 ล้านบาท และสัดส่วนเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปี วงเงิน 1,410 ล้านบาท ส่วนค่าจ้างควบคุมงาน 141 ล้านบาท ให้สำนักงบประมาณจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีต่อไป
ทั้งนี้ โครงการสะพานข้ามทะเลสาบสงขลา จะช่วยลดระยะทางในการเดินทางระหว่างอำเภอกระแสสินธุ์ จังหวัดสงขลา – อำเภอเขาชัยสน จังหวัดพัทลุง จาก 80 กิโลเมตร เป็น 7 กิโลเมตร และลดระยะเวลาในการเดินทางจาก 2 ชั่วโมง เป็น 15 นาที ช่วยพัฒนาเส้นทางการขนส่งโลจิสติกส์ และเส้นทางท่องเที่ยวสายใหม่ เชื่อมโยงทะเลอันดามัน – อ่าวไทย เชื่อม 3 จังหวัด คือตรัง – พัทลุง – สงขลา ช่วยส่งเสริมและสนับสนุนภาคการท่องเที่ยวให้กับพื้นที่โดยรอบทะเลสาบสงขลาและจังหวัดใกล้เคียง ช่วยบรรเทาปริมาณจราจรของถนนทางหลวงและแก้ปัญหาการจราจรที่ติดขัด ช่วยยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยในการเดินทางและในกรณีเกิดภัยพิบัติสามารถอพยพประชาชนในพื้นที่ได้รวดเร็วทันการณ์ และยังช่วย สนับสนุนและอำนวยความสะดวกด้านพาณิชยกรรม อุตสาหกรรมการบริการและการท่องเที่ยว พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมและการบริการโลจิสติกส์ในพื้นที่
อย่างไรก็ตาม ครม. ได้กำชับว่าการดำเนินโครงการก่อสร้างจะต้องไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เนื่องจากพื้นที่โครงการอยู่ใกล้เขตพื้นที่ห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลหลวงซึ่งห่างจากบริเวณพื้นที่โครงการประมาณ 6 กม. และเป็นบริเวณที่มีการกำหนดเป็นเขตคุ้มครองโลมาอิรวดี ซึ่งในประเด็นนี้ธนาคารโลกซึ่งจะเป็นผู้ให้กู้ตามโครงการนี้ได้แสดงความห่วงใยมาเช่นเดียวกัน โดยกระทรวงการคลังจะมีการประสานกับธนาคารโลกและหน่วยงานต่างประเทศด้านสิ่งแวดล้อมในการกำหนดแนวทางป้องกันผลจากโครงการก่อสร้างไม่ให้กระทบสัตว์ที่ต้องได้รับการคุ้มครองต่อไป
ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
เคาะสร้าง สะพานข้ามเกาะลันตา
น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า พร้อมกันนี้ ครม.ยังได้อนุมัติดำเนินงานก่อสร้างโครงการสะพานเชื่อมเกาะลันตา ตำบลเกาะกลาง – ตำบลเกาะลันตาน้อย อำเภอเกาะลันตา จังหวัดกระบี่ ของกรมทางหลวงชนบท ระยะทาง 2.2 กม. (ความยาวสะพาน 1.92 กม. และความยาวถนนต่อเชื่อม 280 เมตร) ระยะเวลาก่อสร้าง 3 ปี ตั้งแต่ปี 2566-2568 ในวงเงินรวมทั้งสิ้น 1,854 ล้านบาท เป็นค่าก่อสร้าง 1,800 ล้านบาท และค่าจ้างควบคุมงานก่อสร้าง 54 ล้านบาท โดยในส่วนของวงเงินค่าก่อสร้าง 1,800 ล้านบาท ให้กระทรวงการคลังจัดหาแหล่งเงินกู้ตามแผนการบริหารหนี้สาธารณะ อัตราส่วนของแหล่งเงินกู้และเงินงบประมาณเป็น 70:30 คิดเป็นเงินกู้วงเงิน 1,260 ล้านบาท และสัดส่วนเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปี วงเงิน 540 ล้านบาท ส่วนค่าจ้างควบคุมงาน 54 ล้านบาท ให้สำนักงบประมาณจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีต่อไป
สำหรับเหตุผลและความจำเป็นในการก่อสร้างโครงการสะพานเชื่อมเกาะลันตา เนื่องจากปัจจุบันการเดินทางระหว่างแผ่นดินใหญ่ ตำบลเกาะกลางและเกาะลันตา อำเภอเกาะลันตา จังหวัดกระบี่ จะต้องผ่านทางหลวงหมายเลข 4206 สู่บ้านหัวหิน ซึ่งเป็นจุดลงแพขนานยนต์ไปยังเกาะลันตาน้อย แม้ว่าจะมีระยะทางเพียง 1.53 กิโลเมตร แต่เนื่องจากแพขนานยนต์สามารถบรรทุกรถยนต์ได้น้อยทำให้เกิดปัญหาความล่าช้า ผู้โดยสารจะต้องใช้เวลาประมาณ 1-2 ชั่วโมง หรือมากกว่าในการเดินทาง ประกอบกับในบางช่วงเวลาจะมีปัญหาเรื่องระดับน้ำทะเลที่ขึ้นลงตามธรรมชาติซึ่งเป็นอุปสรรคของแพขนานยนต์อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ในขณะที่ตั้งแต่ปี 2559 เป็นต้นมา กระทรวงคมนาคมได้เปิดให้บริการสะพานสิริลันตา เพื่อรองรับการเดินทางระหว่างเกาะลันตาน้อยและเกาะลันตาใหญ่แล้ว ดังนั้น โครงการสะพานเชื่อมเกาะลันตาจะช่วยบรรเทาปริมาณการจราจรของถนนทางหลวง แก้ไขปัญหาการจราจรที่ล่าช้าบริเวณท่าแพขนานยนต์ พัฒนาและยกระดับมาตรฐานทางหลวงชนบทเพื่อเชื่อมโยงต่อเติมโครงข่ายการคมนาคมและการขนส่ง แก้ไขปัญหาการจราจรด้วยการสร้างทางเชื่อม (Missing Link) ให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น ยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยในการเดินทางของประชาชนเพิ่มศักยภาพในการพัฒนาพื้นที่และกระจายความเจริญสู่ท้องถิ่นและภูมิภาค
น.ส.ไตรศุลีกล่าวว่า ประโยชน์ที่จะได้รับจากโครงการสะพานเชื่อมเกาะลันตา มีดังนี้คือ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการขนส่ง ลดระยะเวลาการเดินทาง จากการเดินทางด้วยแพขนานยนต์ซึ่งจะใช้เวลา 2 ชั่วโมง ในขณะที่การใช้สะพานจะลดเวลาเหลือเพียง 2 นาที ช่วยเชื่อมโยงโครงข่ายการคมนาคมและการขนส่งให้เกิดความสมบูรณ์และมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ลดระยะทางการเดินทางระหว่างอำเภอคลองท่อม และอำเภอเกาะ ลันตาน้อย จังหวัดกระบี่ ช่วยยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยในการเดินทาง และในกรณีเกิดภัยพิบัติสามารถอพยพประชาชนในพื้นที่ได้รวดเร็วทันการณ์ ช่วยสนับสนุนและอำนวยความสะดวกด้านพาณิชยกรรม การบริการและการท่องเที่ยวระหว่างเกาะลันตาและแผ่นดินใหญ่ รวมถึงพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมและการบริการโลจิสติกส์ในพื้นที่
ต้นแบบสะพานข้ามทะเลสาบสงขลา ภาพจาก: กรมทางหลวงชนบท (ทช.)
ที่มาภาพปก ต้นแบบสะพานข้ามเกาะลันตา : กรมทางหลวงชนบท (ทช.)