กองปราบ รวบแก๊งคอลเซ็นเตอร์แอบอ้าง ‘บัตรเคทีซี’ หลอกปล่อยสินเชื่อแลกโอนเงิน ก่อนทิ้งหนี เผยมีนายทุนต่างประเทศหนุนหลัง เงินหมุนเวียนกว่า 100 ล้าน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 23 สิงหาคม 2565 เมื่อเวลา 10.30 น. ชั้น 2 อาคารประชาอารักษ์ กองบังคับการปราบปราม (บก.ป) พล.ต.ต.ศารุติ แขวงโสภา ผบก.ปอท. พร้อมด้วยพ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รอง ผบก.ปอท. พ.ต.อ.วัชรพันธ์ ศิริพากย์ ผกก.1 บก.ปอท., พ.ต.อ.พิเชษฐ์ คําภีรานนท์ ผกก.3 บก.ปอท., พร้อมกับนายพีระพงศ์ พิตรพิบูลพาทิศ นายไรวินทร์ วรวงษ์สถิตย์ และ นายพันธ์เทพ ชนะศึก ตัวแทนจากบริษัท เคทีซี นาโน จํากัด ร่วมกันแถลงผลจับกุมขบวนการแก็งคอลเซ็นเตอร์แอบอ้างบริษัทเงินกู้ หลอกเงินเหยื่อ
หลังเปิดปฏิบัติการนำกำลังเข้าตาวจค้นพื้นที่เป้าหมายจำนวน 5 จุด ในพื้นที่ อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา ก่อนสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้จำนวน 5 คน ประกอบด้วย นายสราวุธ ฉิมพิทักษ์ อายุ 46 ปี
น.ส.พิทยา วงค์ชัย อายุ 38 ปี น.ส.กาญจนา พุทธโกมล อายุ 33 ปี น.ส.เจนนิสา พุทธโกมล อายุ 22 ปี นายกิตติคุณ ปิยะจันทร์ อายุ 32 ปี ตามหมายจับศาลอาญา ที่ 1697/2565 - 1701/2565 ตามลำดับ ลงวันที่ 19 ส.ค. 2565 ข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตนเป็นคนอื่น และ ร่วมกันนําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จ พร้อมของกลาง โทรศัพท์มือถือ 51 เครื่อง สมุดบัญชีธนาคาร 63 เล่ม คอมพิวเตอร์ 8 เครื่อง ฮาร์ดดิสก์ 1 เครื่อง ซิมการ์ดโทรศัพท์ 220 อัน เครื่อง EDC รูดบัตรเครดิต 9 เครื่อง เอกสารและ ของกลางอื่นๆ หลายรายการ
พล.ต.ต.ศารุติ กล่าวว่า สืบเนื่องจากทราบข้อมูลว่ามีมิจฉาชีพกลุ่มหนึ่ง ทำการสร้างเว็บไซต์ ktcnano.com และ loan678.com ขึ้นมา ก่อนแอบอ้างเป็นบริษัท เคทีซี นาโน จํากัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ บริษัท บัตรกรุงไทย จํากัด (มหาชน) เพื่อหลอกลวงเงินจากประชาชนทั่วไปที่กำลังประสบปัญหาขาดสภาพคล่องทางการเงิน และกำลังต้องการหากู้เงิน เมื่อมีเหยื่อหลงเชื่อสนใจเข้าไปที่เว็บไซต์ดังกล่าว กลุ่มคนร้ายก็จะทำการติดต่อพูดคุยผ่านทางแอพพลิเคชั่นไลน์ ทำทีเป็น “ฝ่ายสินเชื่อ” จากนั้นก็จะพูดโน้มน้าวให้ผู้เสียหายโอนเงินให้ก่อนอ้างเป็นค่าประกันเงินกู้ ค่าธรรมเนียมต่างๆ แต่เมื่อเหยื่อโอนเงินให้คนร้ายแล้วกลับไม่ได้รับเงินกู้ตามที่ตกลงกันไว้แต่อย่างใด
ด้าน พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบพบขบวนการดังกล่าวมีลักษณะคล้ายกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ทำกันเป็นขบวนการ โดยมีนายทุนเป็นชาวต่างชาติ และ มีสำนักงานอยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน ส่วนผู้ต้องหาที่จับกุมตัวได้ทั้ง 5 คน นั้น จะทําหน้าที่จัดหาบัญชีม้า เพื่อใช้ในการรับเงินจากผู้เสียหาย รวมถึงทําหน้าที่ในการถอนเงินจากธนาคารต่างๆ ในพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา เมื่อถอนเงินเสร็จ ก็จะนําเงินไปให้หัวหน้าขบวนการชาวต่างชาติยังฝั่งประเทศเพื่อนบ้านต่อไป นอกจากนี้จากการตรวจสอบเส้นทางการเงินพบเงินหมุนเวียนในบัญชีกว่า 100 ล้านบาท ในส่วนการสอบสวน ผู้ต้องหาทั้ง 5 คน ให้การรับสารภาพ เบื้องต้นจึงนำตัวส่ง พนักงานสอบสวน กก.1 บก.ปอท. ดำเนินการตามกฎหมายต่อ