ภูเก็ตผบ.ตร.เผย 2 มือปืนยิงชาวต่างชาติหลบหนีออกนอกประเทศไปแล้ว พบเป็นอดีตทหารแคนาดา เตรียมออกหมายจับพร้อมประสานตำรวจสากลติดตามตัวมาดำเนินคดี
จากกรณี 2 คนร้ายซึ่งคาดว่าจะเป็นชาวต่างชาติ ได้ก่อเหตุกระหน่ำยิงชายชาวต่างชาติ สัญชาติอินเดีย เสียชีวิตคาวิลล่าหรู ริมหาดมิตรภาพ หมู่ที่ 5 ต.ราไวย์ อ.เมือง จ.ภูเก็ต เมื่อคืนวันที่ 4 ก.พ.ที่ผ่านมา หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจระดมกำลังติดตามตัวคนร้าย ทั้งแกะรอยจากภาพกล้องวงจรปิด เก็บพยานหลักฐานจากที่ต่างๆ จนทราบตัวคนร้ายที่ก่อเหตุ
ล่าสุด พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แกลงข่าวภายหลังประชุมร่วมกับทีมคลี่คลายคดี ว่า คดีนี้คืบหน้าไปมาก ขณะนี้ทราบชื่อผู้ต้องสงสัยที่ก่อเหตุยิงชาวอินเดียแล้ว และเชื่อว่าจะสามารถรวบรวมพยานหลักฐาน และขอหมายจับคดีร่วมกันฆ่าผู้อื่นได้ภายใน 1-2 วันนี้ โดยผู้ต้องสงสัยมี 2 ราย ซึ่งจากการตรวจสอบข้อมูลการเดินทางพบว่า เป็นชาวแคนาดาทั้งคู่ และขณะนี้ได้เดินทางออกนอกประเทศไปแล้ว ซึ่งทางตำรวจไทยได้ประสานข้อมูลกับต่างประเทศอย่างใกล้ชิดเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกัน เพื่อสืบสวนขยายผลหาผู้ที่อาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องเพิ่มเติม ทั้งในส่วนของผู้สั่งการ ผู้ให้การสนับสนุน รวมทั้งผู้ที่เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องในการกระทำความผิดทุกราย
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้เราทราบเส้นทางที่ผู้ต้องสงสัยเดินทางไปแล้ว โดยเดินทางออกจากภูเก็ตเมื่อวันที่ 6 ก.พ.ที่ผ่านมา ด้วยเครื่องบินปกติ สำหรับผู้ต้องสงสัยทั้ง 2 ราย เดินทางเข้าภูเก็ตเมื่อเดือน ธ.ค.ที่ผ่านมา โดยเดินทางมาในฐานะนักท่องเที่ยว ส่วนจะเป็นมือปืนรับจ้างหรือไม่ตอนนี้ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบ แต่จากข้อมูลที่ทางเจ้าหน้าที่มีพบว่าทั้ง 2 คน เคยเป็นทหารมาก่อน และมี 1 คน ที่เคยมีคดีในต่างประเทศแต่เป็นคดีไม่ร้ายแรง
ส่วนมูลเหตุการสังหารในครั้งนี้เกิดจากอะไร พล.ต.อ.สุวัฒน์ กล่าวว่า ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการสอบสวน เพราะเหตุการณ์ในครั้งนี้ผู้ต้องสงสัยเป็นคนที่มาจากต่างประเทศ ผู้เสียชีวิตก็มาจากต่างประเทศ แต่มาใช้พื้นที่บ้านเราในการก่อเหตุ แต่ต้องมีการสอบสวน และทำงานให้ละเอียดมากกว่านี้ เพราะยังมีงานอีกเยอะที่จะต้องเก็บรวบรวมพยานหลักฐาน และจะต้องพิสูจน์ให้เห็นถึงแรงจูงใจและสาเหตุต่างๆ ซึ่งจะต้องสืบสวนลงไปให้ได้ถึงผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ส่วนจะเป็นปมตามมาล้างแค้นหรือไม่เรื่องนี้ยังตอบไม่ได้ต้องขึ้นอยู่กับการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ และขณะนี้ข้อมูลส่วนใหญ่อยู่ในต่างประเทศ กำลังอยู่ระหว่างการขอพยานหลักฐานอย่างเป็นทางการ ส่วนคนไทยจะมีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่ยังอยู่ระหว่างการสอบสวน ถ้ามีส่วนเกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นคนไทย หรือชาวต่างชาติ ทั้งคนสั่งการ ผู้สนับสนุน ผู้ให้การช่วยเหลือจะต้องจับกุมดำเนินคดีทั้งหมด
ส่วนเรื่องของอาวุธปืนที่คนร้ายใช้ก่อเหตุขณะนี้ทราบชื่อผู้ครอบครองตามหลักฐานทางราชการหมดแล้วว่าเป็นใคร ส่วนจะเป็นคนมีสี หรือใครจะต้องมีการสืบสวนว่าเกี่ยวข้องกับมือปืนอย่างไร และปืนไปอยู่กับคนร้ายได้อย่างไร เรื่องนี้จะต้องหาคำตอบ หากเกี่ยวข้องต้องดำเนินคดีไปตามกฎหมาย ไม่สนใจว่าเป็นคนมีสีหรือไม่
ชณะที่ศพของผู้เสียชีวิตญาติได้ติดต่อขอรับศพแล้ว ในเบื้องต้นทราบว่าจะนำศพกลับไปยังประเทศอินเดีย ซึ่งจะเดินทางมารับศพเร็วๆ นี้
พล.ต.อ.สุวัฒน์ ยังได้ตอบคำถามสื่อมวลชน ถึงกรณีชาวต่างชาติเลือกใช้เมืองท่องเที่ยวของประเทศไทยเป็นแหล่งกบดาน และก่อเหตุ ว่า เรื่องนี้ทางตำรวจจะยกระดับการป้องกันให้มากขึ้น และจะมีการกลับมาเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบชาวต่างชาติที่อยู่เกินกำหนด ซึ่งในช่วงโควิดที่ผ่านมาได้มีการผ่อนคลายให้อยู่เกินได้ แต่หลังจากนี้จะตรวจสอบอย่างเข้มงวด
ส่วนเรื่องของการดูแลความปลอดภัยให้นักท่องเที่ยวนั้น ขณะนี้ได้สั่งการไปยังสถานีตำรวจทุกแห่งให้เพิ่มความเข้มงวด และขอความร่วมมือไปยังประชาชนและผู้ประกอบการช่วยกันเป็นหูเป็นตาในการดูแล สอดส่องเพื่อให้เกิดความปลอดภัยสูงสุด และจะต้องเป็นเจ้าบ้านที่ดี