รมว.ยุติธรรม แถลงผลยึดสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์มูลค่า 160 ล้านบาท หลังดีเอสไอลงพื้นที่ค้นระยอง-ปทุมธานี 3 จุด เตรียมสอบสวนร่วม ป.ป.ง.เอาผิด กม.ฟอกเงิน ยึดทรัพย์ย้อนหลัง วอน ปชช.เป็นหูเป็นตา สกัดของปลอมไม่ให้ต่างประเทศกีดกันสินค้าส่งออก
เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน 2564 ที่สถาบันการสอบสวนคดีพิเศษ กรมสอบสวนคดีพิเศษ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วย น.ส.ณัฐธ์ภัสส์ ยงใจยุทธ ผู้ช่วย รมว.ยุติธรรม ลงพื้นที่ตรวจผลการบุกตรวจค้นโกดังเก็บและสถานที่จำหน่ายสินค้าปลอมเครื่องหมายการค้าในเขตพื้นที่จ.ระยอง และปทุมธานี พบสินค้าประเภทที่นอน ผ้าห่ม และชุดผ้าปูที่นอนที่ปลอมเครื่องหมายการค้าของบุคคลอื่นที่จดทะเบียนแล้วเป็นจำนวนมาก โดยมีนายไตรยฤทธิ์ เตมหิวงศ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) คณะผู้บริหาร พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ดีเอสไอตั้งแถวต้อนรับ
โดยนายสมศักดิ์ ได้เดินตรวจสินค้าละเมินลิขสิทธิ์ที่จับกุมมาได้ จำนวน 40,000 ชิ้น ส่วนใหญ่เป็นชุดเครื่องนอน หมอน ผ้าห่มและตุ๊กตา และมีทาง ตัวแทนบริษัทฟูจิโกะ เอฟ ฟูจิโอะ โปร จำกัด เจ้าของเครื่องหมายการค้าโดราเอมอน ตัวแทนผู้นำเข้าสินค้าแบรนด์เนม เข้ามอบกระเช้าดอกไม้แสดงความขอบคุณ ที่สามารถจับกุมสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ได้
จากนั้นนายสมศักดิ์ กล่าวว่า ตนต้องขอขอบคุณทางดีเอสไอที่ดำเนินการตามนโยบายรัฐบาล เข้าตรวจค้นสถานที่ต้องสงสัยซุกซ่อนสินค้าที่ละเมิดเครื่องหมายการค้า 3 จุด ไปเมื่อวันที่ 28 ตุลาคม ที่ผ่านมา ผลการตรวจค้นทั้ง 3 จุด ที่ระยอง2จุด และปทุมธานี 1จุด พบสินค้าประเภทที่นอน ผ้าห่ม และชุดผ้าปูที่นอน ที่ละเมิดเครื่องหมายการค้า ยี่ห้อโดราเอมอน หลุยส์ วิตตอง ดิออร์ ชินจัง เบนเทน กุชชี่ เชลซี ลิเวอร์พูล แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และเครื่องหมายการค้ายี่ห้อดังหลายยี่ห้อ จำนวน 40,000 ชิ้น มีมูลค่าสินค้าตามราคาท้องตลาดกว่า 40 ล้านบาท และคิดเป็นมูลค่าความเสียหายตามราคาของแท้เป็นเงิน 160 ล้านบาท ซึ่งจากนโยบายรัฐบาล ตนได้สั่งการให้ดีเอสไอ เร่งรัดดำเนินการสืบสวน จับกุมการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาทั่วประเทศ และได้เฝ้าสืบสวนติดตามกลุ่มบุคคล ซึ่งมีพฤติการณ์จำหน่ายสินค้าที่ละเมิดเครื่องหมายการค้า ในลักษณะเป็นผู้ค้ารายใหญ่ระดับต้นๆ ของประเทศ ที่มีการจำหน่ายสินค้าในรูปแบบของการค้าส่งและค้าปลีก และมีการเสนอจำหน่ายสินค้าในรูปแบบของการจัดงานแสดงสินค้าขนาดใหญ่ ตามพื้นที่ชุมชนต่างๆที่มีการโฆษณาประชาสัมพันธ์ให้กลุ่มประชาชนทั่วไป ได้รับทราบทางสื่อออนไลน์หลากหลายช่องทาง โดยจะมีการขยายผลสืบต่อเพื่อให้เข้าถึงโรงงานผู้ผลิตรายใหญ่ต่อไป
นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า การละเมิดลิขสิทธิ์นั้นยังเกี่ยวกับเลี่ยงภาษี ในมูลฐานความผิดที่ดีเอสไอดำเนินการ เกี่ยวข้องกับกฎหมายฟอกเงิน 21 ฉบับ และกฎหมายอื่นอีก 3 ฉบับ การดำเนินการดังกล่าวนี้จะสอบสอบร่วมกับ ป.ป.ง. ใครทำอยู่ยังไม่หยุด จะถูกดำเนินการย้อนหลัง ส่วนแหล่งผลิต ดีเอสไอกำลังตรวจสอบทราบว่า มีทั้งต่างประเทศและในประเทศ รายละเอียดต้องสืบให้ชัดเจน อาจจะเป็นโรงงานในเขตภาคอีสานที่เคยผลิตสินค้าแบรนด์เนม ต้องสืบค้นหาเส้นทางการเงิน ตนอยากให้ทุกท่านช่วยเป็นหูเป็นตา หากเราซื้อของที่ถูกต้อง เงินภาษีจะถูกนำไปใช้พัฒนาประเทศได้ ไม่ให้เข้ากระเป๋าผู้ปลอมแปลง และเป็นหน้าเป็นตาประเทศด้วยว่าเราไม่มีสินค้าปลอมแปลง หากมีสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ในประเทศ จะเกิดปัญหาการค้าขายและจะถูกกีดกันทางการค้า เช่น การส่งออกสินค้าเกษตร
"ผมขอเตือนไปยังผู้ผลิตและผู้จำหน่ายสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ ที่มีขายตามท้องตลาดทั่วไปและที่จำหน่ายทางออนไลน์ ซึ่งส่งผลเสียหายต่อระบบเศรษฐกิจและภาพลักษณ์ของประเทศ จากนี้เป็นต้นไปพวกเราจะเพิ่มความเข้มข้นในการตรวจค้นจับกุม เพื่อนำคนผิดเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมายอย่างเด็ดขาด"นายสมศักดิ์ กล่าว