ผู้ต้องขังติดเชื้อใหม่ 202 ราย รักษาหายเพิ่ม 464 ราย เสียชีวิต 2 ราย ราชทัณฑ์เผยไม่พบเรือนจำแพร่ระบาดเพิ่ม ด้านที่ประชุม ศบค.ยธ.เน้นย้ำเจ้าหน้าที่ตรวจเชื้อ-ยืนยันผลลบทุกครั้งก่อนเข้าเรือนจำ พร้อมเตรียมแผนเข้มก่อนปล่อยตัว ไม่ให้นำเชื้อระบาดภายนอก
-------------------------------
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อวันที่ 28 ก.ค.2564 นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิต ในเรือนจำและทัณฑสถาน พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 202 ราย มาจากการพบในเรือนจำสีแดง 155 ราย และพบในห้องแยกกักโรคผู้ต้องขังรับใหม่ 47 ราย
นายอายุตม์ กล่าวว่า สถานะเรือนจำยังคงที่ต่อเนื่องกันเป็นวันที่ 5 คือ มีเรือนจำสีขาวที่ไม่พบการแพร่ระบาด 112 แห่ง เรือนจำสีแดงที่พบการระบาดจำนวน 22 แห่ง และสิ้นสุดการระบาดแล้ว 8 แห่ง โดยในวันนี้ มีผู้ติดเชื้อที่รักษาหายเพิ่มขึ้น 464 รายซึ่งสูงกว่าผู้ติดเชื้อรายใหม่ รวมหายสะสม 37,647 ราย หรือ 83.2% ของผู้ติดเชื้อสะสม 45,230 ราย และเสียชีวิต 2 ราย รวมเสียชีวิตสะสม 55 ราย คิดเป็นอัตรา 0.1 & ทำให้มีผู้ต้องขังติดเชื้อที่อยู่ในการดูแลของกรมราชทัณฑ์ทั้งหมดลดลงอยู่ที่ 7,102 ราย แบ่งเป็นกลุ่มสีเขียว 81.49 สีเหลือง 1896 และสีแดง 0.6%
นายอายุตม์ กล่าวเพิ่มเติมว่า กรณีการเสียชีวิตของผู้ต้องขังทั้ง 2 ราย เป็นผู้ต้องขังจากเรือนจำจังหวัดสระบุรี และเรือนจำกลางปัตตานี แห่งละ 1 ราย จากข้อมูลพบว่ามีโรคประจำตัว และอาการอื่นร่วม ทำให้อาการป่วยรุนแรงมากกว่าปกติ ซึ่งได้ให้ยาและดูแลรักษาอย่างเต็มประสิทธิภาพตามมาตรฐาน โดยทีมแพทย์ รวมถึงส่งต่อการรักษาที่โรงพยาบาลภายนอก แต่อาการยังคงไม่ดีขึ้น จนกระทั่งเสียชีวิตลงในที่สุด กรมราชทัณฑ์ขอแสดงความเสียใจต่อการจากไป มา ณ โอกาสนี้ ทั้งนี้ ได้ประสานญาติเพื่อนำร่างผู้เสียชีวิตไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนา ตมวิธีการจัดการคผู้เสียชีวิตจากโคติดเชื้อไวรัสโควิดเป็นที่เรียบร้อย
ด้าน นายวัลลภ นาคบัว รองปลัดกระทรวงยุติธรรมและโฆษก ศบค.ยธ. เปิดเผยหลังการประชุมติดตามการดำเนินงานตาม 5 แผนงานการป้องกันและแก้ไขสถานการณ์โควิดภายในสถานที่ควบคุมของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงยุติธรรม ครั้งที่ 48/2564 ว่า ที่ประชุมได้เน้นย้ำการปฏิบัติตามมาตรการอย่างเคร่งครัดในทุกส่วน โดยเฉพาะการป้องกันเชื้อจากเจ้าหน้าที่ จะต้องตรวจหาเชื้อและยืนยันผลว่าไม่พบเชื้อก่อนเข้าปฏิบัติงานในเรือนจำและทัณฑสถานทุกครั้ง และปฏิบัติตามมาตรการป้องกันเชื้อด้านอื่นๆ เสมอ และในส่วนของการค้นหา คัดแยกและรักษาผู้ติดเชื้อ ทางกรมราชทัณฑ์ ได้สนับสนุนเครื่องเอกซเรย์ เวชภัณฑ์ ยา และบุคลากรทางการแพทย์ เพื่อให้การช่วยเหลือในแต่ละพื้นที่เรียบร้อยแล้ว เพื่อให้สามารถดำเนินการได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ทั้งนี้ สำหรับมาตรการในการปล่อยตัวผู้ต้องขังในสภาวะการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิดที่ผ่านมา ได้ดำเนินการเป็นมาตรฐานภายใต้ความร่วมมือของสำนักงานสาธารณสุขในแต่ละพื้นที่อย่างเคร่งครัด ตั้งแต่กระบวนการตรวจเชื้อ กักตัวก่อนปล่อย และส่งต่อผู้ติดเชื้อ แต่อย่างไรก็ตาม เพื่อเป็นการยกระดับการดำเนินงานให้มีประสิทธิภาพและชัดเจนมากยิ่งขึ้น กรมราชทัณฑ์ ได้จัดทำแผนดำเนินการและการอบรมแผนการปล่อยตัวผู้ต้องขัง เพื่อให้มีความชัดเจนและยึดปฏิบัติเป็นแนวทางเดียวกัน ซึ่งคาดว่าจะสามารถจัดทำแผนแล้วเสร็จและดำเนินการอบรมได้ในเร็วๆ นี้
ด้านสถานการณ์การแพร่ระบาดของกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน ประจำวัน ไม่พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม ขณะที่ผู้ติดเชื้อสะสมมีจำนวน 40 ราย เป็นเยาวชน 31 ราย เเละเจ้าหน้าที่ 9 ราย ด้านผลการดำเนินงานสถานพินิจฯ/ศูนย์ฝึกและอบรมฯ สีขาว มีจำนวน 45 แห่ง หรือคิดเป็น 80% จากทั้งหมด 56 แห่ง อีก 11 แห่ง อยู่ระหว่างการรอตรวจและรอผล 6 แห่ง และติดเชื้อ 5 แห่ง ขณะที่สถิติการฉีดวัคซีนของเด็กและเยาวชน คงที่ 121 ราย หรือคิดเป็น 2.83% จากทั้งหมด 4,266 ราย และเจ้าหน้าที่ได้รับการฉีดวัคซีนเพิ่มขึ้นอีก 1 ราย รวมเป็น 3,791 ราย หรือคิดเป็น 86% ของเจ้าหน้าที่ทั้งหมด 4,399 ราย
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage