ศาลอุทธรณ์ พิพากษาแก้โทษให้รอลงอาญา คุก 2 ปี 6 ด. อดีตผู้ใหญ่บ้านนาหว้า อุบลฯ

เขียนวันที่

วันเสาร์ ที่ 26 มิถุนายน 2564 เวลา 07:39 น.

เขียนโดย

isranews

Hits

6365 views

picnewspppcsdsdsxxxxx963d6 26 64

ป.ป.ช. เผยแพร่ความคืบหน้าคดีกล่าวหา 'อังคาร ดวงงาม' อดีตผู้ใหญ่บ้านนาหว้า หมู่ที่ 2 ตำบลนาเลิน อำเภอศรีเมืองใหม่ อุบลฯ ปธ.คกก.กองทุนโครงการแก้ไขปัญหาความยากจน เบียดบังเงินไปเป็นประโยชน์ส่วนตน ล่าสุด ศาลอุทธรณ์ พิพากษาแก้ให้รอลงอาญาโทษจำคุก 2 ปี 6 เดือน ปรับเพิ่ม 5,000 บาท

............................................

สืบเนื่องจากสำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานข่าวว่า เว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เผยแพร่ความคืบหน้าคดีกล่าวหา นายอังคาร ดวงงาม เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้ใหญ่บ้าน บ้านนาหว้า หมู่ที่ 2 ตำบลนาเลิน อำเภอศรีเมืองใหม่ จังหวัดอุบลราชธานี ในฐานะประธานคณะกรรมการกองทุนโครงการแก้ไขปัญหาความยากจน (กข.คจ.) เบียดบังเงินกองทุนที่ราษฎรส่งใช้เงินกู้ยืม ไปเป็นประโยชน์ส่วนตน ซึ่งถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ลงมติชี้มูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147 และ 157 ตั้งแต่เมื่อวันที่ 11 มกราคม 2561 ที่ผ่านมา

โดยเมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2563 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 3 มีคำพิพากษาว่า นายอังคาร ดวงงาม ในฐานะจำเลยมีความผิดตามมาตรา 147 จำคุก 5 ปี

จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณามีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้ตามมาตรา 78 กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 2 ปี 6 เดือน

(อ่านประกอบ : คุก 2 ปี 6 ด.! อดีตผู้ใหญ่บ้านนาหว้า อุบลฯ เบียดบังเงินกองทุนโครงการแก้ไขปัญหาความยากจน)

ความคืบหน้าล่าสุดคดีนี้ เมื่อวันที่ 18 พ.ย.2563 ศาลอุทธรณ์ มีคำพิพากษาแก้โทษว่า ให้ปรับจำเลยอีก 10,000 บาท อีกสถานหนึ่ง ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงปรับ 5,000 บาท

ส่วนโทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 2 ปี

เบื้องต้น คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีการประชุมเมื่อวันที่ 28 เมษายน 2564 เห็นชอบในการที่อัยการสูงสุด (อสส.) จะไม่ฎีกาคำพิพากษาศาลอุทธรณ์

อย่างไรก็ดี สำหรับคดีนี้ ยังไม่สิ้นสุด จำเลย มีสิทธิต่อสู้คดีเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ในชั้นศาลที่สูงกว่านี้อีกได้

สำหรับประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147 ระบุว่า ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตน หรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต หรือโดยทุจริตยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์นั้นเสีย ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงยี่สิบปี หรือจำคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่หนึ่งแสนบาทถึงสี่แสนบาท

picnewspppcsdsdsd6 26 64