นายกฯ สรุปผลหารือ 'ศปก.ศบค.-สธ.' ไม่ล็อกดาวน์ กทม. แต่ให้ใช้มาตรการอื่นๆ ที่เข้มงวดมากขึ้น เพื่อควบคุมการแพร่ระบาด พร้อมเตรียมสั่งปิดแคมป์คนงาน ในพื้นที่ กทม.-ปริมณฑล-4 จังหวัดภาคใต้สีแดง 1 เดือน เริ่ม 28 มิ.ย.2564
..................................
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 25 มิ.ย.2564 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวภายหลังการประชุมระหว่างศูนย์ปฏิบัติการ ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด (ศปก.ศบค.) และที่ปรึกษาด้านสาธารณสุข ศูนย์โควิด ที่มี นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร เป็นประธาน และคณะ เข้าหารือถึงการแก้ไขปัญหาสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด เรื่องวัคซีน และสถานการณ์เตียงที่โรงพยาบาลหลายแห่งในกทม.เต็มหมดแล้ว และมีข้อเสนอให้มีการล็อกดาวน์ โดย พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ในเรื่องการจัดหาวัคซีน รัฐบาลจะจัดหาเพิ่มเติม และขอยืนยันว่าในช่วง 2 เดือนต่อจากนี้ ในเดือน ก.ค.- ส.ค.2564 จะเร่งฉีดให้กับผู้สูงอายุ และผู้ป่วย 7 กลุ่มโรคเรื้อรัง ที่กำหนดไว้เดิมให้หมด เนื่องจากผู้เสียชีวิตที่พบในทุกวันนี้เป็นผู้สูงอายุเป็นส่วนใหญ่ จึงต้องลดอัตราการเสียชีวิตนี้ให้ได้ ส่วนกลุ่มเป้าหมายต่างๆ จะทยอยดำเนินการต่อไป
สำหรับเรื่องสถานการณ์การแพร่ระบาด พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวด้วยว่า ได้มีการพูดคุยกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ต่างเป็นห่วงคลัสเตอร์แคมป์คนงานที่พบการระบาดส่วนใหญ่เป็น ซึ่งจากการประชุมได้ผลสรุปว่าจะเตรียมปิดแคมป์เหล่านี้ เพื่อระงับการระบาด ซึ่งกระทรวงแรงงานจะเป็นผู้ดูแลแรงงานไทยและต่างด้าว รวมถึงค่าใช้จ่ายในช่วงที่ปิดเป็นเวลา 1 เดือน โดยจะเริ่มในวันที่ 28 มิ.ย.2564
"ทั้งนี้จะบังคับใช้ใน กรุงเทพมหานคร ปริมณฑล และ 4 จังหวัดภาคใต้ที่กำลังแพร่ระบาดจะเข้มงวด และดูว่ากิจการใดที่เสี่ยงทำให้เกิดโรค ไม่ใช่ปิดทั้งหมด และจะมีมาตรการเฉพาะชั่วคราวออกมาและดูว่าถูกหรือไม่ เป็นเป้าหมายจริงหรือไม่ เพื่อดูแลกิจการพื้นที่คลัสเตอร์ เป็นพิเศษ" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
ส่วนปัญหาเตียงผู้ป่วยโควิดขาดแคลนนั้น ได้ให้กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) หาเตียงคนไข้หนักอย่างน้อย 100 เตียงแล้ว และพร้อมที่สร้างห้อง ICU เพิ่ม รวมถึงการดึงบุคลากรทางการแพทย์จากต่างจังหวัดมาที่ กทม. และนักศึกษาแพทย์ที่จบใหม่มาช่วยงาน
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงข้อเสนอล็อกดาวน์ กทม. ว่า ไม่มีการล็อกดาวน์ กรุงเทพมหานคร (กทม.) รวมทั้งจังหวัดปริมณฑลพื้นที่สีแดงเข้ม หรือ พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ได้แก่ นนทบุรี ปทุมธานี และสมุทรปราการ แต่ให้ใช้มาตรการอื่นๆ ที่เข้มงวดมากขึ้นเพื่อควบคุมการแพร่ระบาด อาทิ การตั้งด่านตรวจโควิด และมาตรการ Bubble & Seal และการควบคุมการเดินทางของประชาชนมากยิ่งขึ้น
"ที่ประชุมมีมติไม่ล็อกดาวน์สถานที่เสี่ยงตามที่หลายฝ่ายกังวลก่อนหน้านี้ แต่จะเป็นการบริหารจัดการพื้นที่เสี่ยงด้วยการขอความร่วมมือของประชาชน จะมีการปิดแคมป์คนงานเป็นเวลา 1 เดือน รวมถึงโครงการของรัฐบาลที่อยู่ระหว่างดำเนินการก็จะปิดเป็นเวลา 1 เดือนเช่นกัน เพราะสถานที่ดังกล่าวเป็นสาเหตุหลักของการแพร่ระบาดของโควิดเป็นกลุ่มใหญ่ ฉะนั้นมาตรการดังกล่าวจะเป็นการระงับการแพร่ระบาดของเชื้อโควิดได้" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage