กระทรวงสาธารณสุขเผยยอดจองวัคซีนน้อย เพียง 1.73 ล้านคน จากจำนวนที่สำรองไว้ 16 ล้านคน วอนทุกคนลงทะเบียนให้ผู้สูงอายุ - ผู้ป่วย 7 โรคเสี่ยง ด่วน ส่วนความกังวลต่อผลข้างเคียงวัคซีนนั้น ยืนยันวัคซีนมีประโยชน์มากกว่าโทษ ลดป่วย-ลดแพร่โรคได้มากกว่า 50%
..................................................
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 11 พ.ค.2564 นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับ นพ.โสภณ เมฆธน ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข และ นพ.พงศธร พอกเพิ่มดี นายแพทย์ทรงคุณวุฒิและที่ปรึกษาระดับกระทรวง กล่าวถึงสถานการณ์การลงทะเบียนจองวัคซีน ของกลุ่มผู้สูงอายุ และกลุ่มผู้ป่วย 7 โรคเรื้อรังว่า ขณะนี้ยังมีจำนวนผู้ลงทะเบียนเพียง 1,730,526 คน จากจำนวนวัคซีนที่เตรียมสำรองไว้ให้ 16 ล้านคน หรือคิดเป็น 10%
นายสาธิต กล่าวว่า เหตุผลที่การลงทะเบียนล่าช้า หรือยังมีสัดส่วนยังน้อยอยู่ อาจมาจากความกังวลในผลข้างเคียงของวัคซีน หรือการเข้าไม่ถึง Line Official Account หรือแอปพลิเคชันหมอพร้อม จึงอยากขอความร่วมมือประชาชน ขอเวลา 2 อาทิตย์ ก่อนจะหมดช่วงระยะเวลาการลงทะเบียน ช่วยเหลือผู้สูงอายุ หรือกลุ่มผู้ป่วย 7 โรคเรื้อรังลงทะเบียนให้ได้อย่างรวดเร็วที่สุด หรือสามารถพาผู้สูงอายุ หรือกลุ่ม 7 โรคเรื้อรังไปยังโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) โรงพยาบาลใกล้บ้าน หรือโรงพยาบาลที่มีประวัติการรักษาได้
"กระทรวงสาธารณสุขและทีมบริการจัดการวัคซีนมีวัตถุประสงค์สำคัญ คือ เพื่อรักษาชีวิตของผู้สูงอายุและกลุ่มผู้ป่วย 7 โรคเรื้อรังก่อน เนื่องจากสัมพันธ์กับจำนวนวัคซีนที่จะได้รับมาเป็นล็อตใหญ่ พร้อมยืนยันว่าไม่ได้ละเลยกลุ่มอื่น ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มมีอาชีพเสี่ยง กลุ่มทำงานด่านหน้า และในกลุ่มพื้นที่จังหวัดเศรษฐกิจ" นายสาธิต กล่าว
@ วัคซีนลดอาการป่วย-ลดแพร่โรคในครอบครัวมากกว่า 50%
ขณะที่ นพ.โสภณ เมฆธน ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข กล่าวย้ำว่า จากการวิเคราะห์ผู้เสียชีวิตในการระบาดระลอกแรกทั้งหมด 358 ราย พบว่าส่วนใหญ่เป็นคนสูงอายุ และมีโรคประจำตัว จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมถึงให้วัคซีนคนกลุ่มผู้สูงอายุ และกลุ่มผู้ป่วย 7 โรคเรื้อรังก่อน
อย่างไรก็ตามแม้จะมีผลข้างเคียงของวัคซีน แต่จากผลการวิจัยหรือประสบการณ์จากต่างประเทศ ยืนยันได้ว่าวัคซีนยังมีประโยชน์มากกว่าโทษ โดยวัคซีนช่วยลดความรุนแรงของอาการป่วย ลดปัญหาโรงพยาบาลขาดแคลนเตียง โดยเฉพาะตอนนี้ซึ่งพบการใช้เตียงสำหรับผู้ป่วยอาการหนักใช้ไปแล้วกว่า 85% จากจำนวน 956 เตียง และมีเตียงของรัฐว่างเพียง 44 เตียง เอกชน 95 เตียง นอกจากนั้นยังช่วยลดการสูญเสียบุคคลที่รักด้วย
นพ.โสภณ กล่าวอีกว่า วัคซีนหลักของไทยที่จะได้ใช้กันในช่วงเดือน มิ.ย.2564 คือ วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า ซึ่งมีผลการวิจัยจากอังกฤษพบว่า สามารถป้องกันอาการป่วยได้ถึง 76% ลดความเสี่ยงชีวิตได้ 80% เราจึงได้เร่งรัดการฉีดวัคซีนเข็มที่ 1 เพื่อให้ครอบคลุมประชากรทั้งหมดของประเทศให้เร็วที่สุด นอกจากนั้นยังมีการศึกษาพบอีกว่า วัคซีนดังกล่าวสามารถลดการแพร่โรคภายในครอบครัวได้ถึง 50 % ดังนั้นแล้ววัคซีนจะทำให้เราสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างปกติ และยังช่วยเศรษฐกิจฟื้นฟูได้
@ เพิ่ม Call Center กว่า 160 คู่สาย รองรับการจองวัคซีน
ด้าน นพ.พงศธร พอกเพิ่มดี นายแพทย์ทรงคุณวุฒิและที่ปรึกษาระดับกระทรวง กล่าวด้วยว่า ในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา อยู่ในช่วงที่ อาสาสมัครประจำหมู่บ้าน (อสม.) ไปสำรวจเซอร์เวย์กลุ่มผู้สูงอายุ หรือกลุ่มผู้ป่วย 7 โรคเรื้อรังที่ไม่สามารถลงทะเบียนผ่าน Line Official Account หรือแอปพลิเคชันหมอพร้อมได้ จึงอาจต้องใช้เวลาในการลงบะเบียนครั้งนี้ ตัวเลขผู้ลงทะเบียนจึงยังน้อยอยู่ ทั้งนี้ประชาชนที่เกิดวันที่ 1 ม.ค.2505 เป็นต้นไป หรือายุ 59 ปี 1 วัน นับว่าเข้าข่ายอายุ 60 ปี สามารถลงทะเบียนได้
อย่างไรก็ตาม องค์ประกอบของการจองฉีดวัคซีน มี 3 ส่วน คือ LINE Official Account หรือแอปพลิเคชันหมอพร้อม ซึ่งระบบจะทำงาน เมื่อโรงพยาบาลเปิดให้จอง และโรงพยาบาลต้องเอาชื่อผู้ป่วยขึ้นด้วย
ปัญหาของหมอพร้อมที่พบบ่อยนั้น นพ.พงศธร กล่าวว่า สำหรับการยืนยันตัวตนผ่านแล้ว แต่ไม่สามารถจองโรงพยาบาลได้ เนื่องจากโรงพยาบาลเอกชน จะให้บริการฉีดวัคซีนเฉพาะผู้ป่วยที่เคยรับรองเท่านั้น อย่างไรก็ตาม อาจมีบางแห่งที่อนุญาต โดยในพื้นที่ กทม. ยังมีคิวว่างให้ฉีดวัคซีนอีก 7-8 แสนคิว ส่วนกรณี Call Center ของหมอพร้อมติดขัด ในวันที่ 12 พ.ค.2564 จะเพิ่มเป็น 100 คู่สาย และตั้งแต่วันที่ 15 พ.ค.2564 จะเพิ่มเป็น 160 คู่สายและจะเปิดให้บริการได้ 24 ชั่วโมง
"ข้อมูลตัวเลขการจองฉีดวัคซีนในช่วงแรก คือ คนเข้าถึงดิจิทัล จึงต้องขอเวลานิดนึง สำหรับกลุ่มที่ไม่มีระบบดิจิทัล ซึ่งเชื่อว่าผู้สูงอายุและกลุ่มผู้ป่วย 7 โรคเรื้อรังกำลังทยอยลงทะเบียนเข้ามา จึงขอเวลาในการดูแลกลุ่มนี้ก่อน แต่หากวัคซีนเหลือ ทางคณะกรรมการจะจัดสรรให้กับกลุ่มเสี่ยงอื่นต่อไป" นพ.พงศธร กล่าว
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/