สธ.เผยวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าในไทย ผลิตได้รอบละ 2 พันลิตร เป็นไปตามแผน ขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดส่งตัวอย่างวัคซีนไปตรวจสอบคุณภาพที่ห้องปฏิบัติการของ บริษัทแอสตร้าเซนเนก้า ที่ประเทศสก็อตแลนด์ และสหรัฐอเมริกา คาดจะได้ผลตรวจกลางเดือนเม.ย. ก่อนส่งมอบวัคซีนต้นเดือนมิ.ย.2564
..............................................
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 8 เม.ย.2564 นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิดว่า จากกรณีพบการระบาดเป็นกลุ่มก้อนของสถานบันเทิง กระจายไปหลายจังหวัด ส่งผลให้กระทรวงสาธารณสุขเตรียมเสนอมาตรการปิดสถานบริการ สถานประกอบการ ที่มีลักษณะคล้ายสถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะ และสถานประกอบการอาบ อบ นวด ใน 41 จังหวัด อย่างน้อย 14 วัน อย่างไรก็ตามร้านอาหาร และร้านนวดเพื่อสุขภาพยังเปิดได้
ส่วนจังหวัดอื่นๆ ขอให้ระมัดระวังอย่างเข้มข้น โดยขอให้อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ช่วยกันสอดส่องดูแลผู้เดินทางเข้าออกภายในพื้นที่ มีการเคาะประตูบ้านให้คำแนะนำผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยง รวมถึงขอให้คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด มีการจัดระบบเฝ้าระวังผู้เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยง หากเป็นไปได้ ขอให้มีการตั้งด่านตรวจสัญจร และตรวจสอบสถานที่เสี่ยงต่างๆ ในพื้นที่ เช่น สถานบันเทิง ร้านอาหาร สนามชนวัว สนามชนไก่ รวมถึงระบบขนส่งภายในพื้นที่ นอกจากนี้ขอให้งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ด้วย เนื่องจากจะทำให้ครองสติไม่ได้ และเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อโควิดได้
นพ.เกียรติภูมิ กล่าวย้ำว่า สำหรับการเดินทางข้ามจังหวัดในช่วงเทศกาลสงกรานต์ สามารถเดินทางได้ทุกพื้นที่ แต่ขอให้ดำเนินตามมาตรการควบคุมโรคอย่างเคร่งครัด สำหรับมาตรการแนวทางในการจัดกิจกรรมในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ทางกระทรวงสาธารณสุขได้แนะนำกิจกรรมที่สามารถจะได้ คือ การสรงน้ำพระ, การร่วมกิจกรรมทางศาสนา และการรดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ตามประเพณี
โดยกระทรวงสาธารณสุขขอเน้นย้ำให้ประชาชนทุกคน สวมใส่หน้ากากอนามัยทุกครั้ง และหลีกเลี่ยงการสัมผัส รวมถึงควรเข้าไปในพื้นที่แออัด หรือพื้นที่ห้องปรับอากาศ
ส่วนกิจกรรมที่ไม่สามารถจัดได้ คือ กิจกรรมการเล่นสาดน้ำ, การจัดคอนเสิร์ต, กิจกรรมการประแป้ง, การเล่นปาร์ตี้โฟม ซึ่งล้วนถือเป็นกิจกรรมที่มีการสัมผัสและใกล้ชิดกัน
@ อย.ย้ำไม่ปิดกั้นเอกชนนำเข้าวัคซีน
ด้าน นพ.ไพศาล ดั่นคุ้ม เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา กล่าวยืนยันการนำเข้าวัคซีนว่า ทางกระทรวงสาธารณสุขไม่ได้ปิดกั้น และยินดีที่จะสนับสนุนหากภาคเอกชนหรือโรงพยาบาล สถานประกอบการและบริษัทเอกชนต่างๆ จะมีการนำเข้าวัคซีน แต่ขอให้ปฏิบัติตามขั้นตอนการขึ้นทะเบียนผลิตภัณฑ์วัคซีนโควิด ในสถานการณ์ฉุกเฉิน
โดยการนำเข้าจะต้องยื่นคำขอใบอนุญาตสถานประกอบการด้านยา ซึ่งจะต้องมีใบอนุญาตนำหรือสั่งยาเข้ามาในราชอาณาจักร ซึ่งทางสาธารณสุขจะประเมิน ในทั้งหมด 4 ด้านคือ ด้านคุณภาพ, ด้านความปลอดภัย, ด้านประสิทธิผล และแผนจัดการความเสี่ยงของวัคซีนโดยจะใช้เวลาพิจารณา 30 วัน จากนั้นจะยื่นให้ที่ประชุมคณะอนุกรรมการพิจารณาขึ้นทะเบียนวัคซีนโควิด
ทั้งนี้ ในปัจจุบันพบว่ามีภาคเอกชนติดต่อขอขึ้นทะเบียนแล้วจำนวน 14 ราย โดยในจำนวนนี้พบมีจำนวน 3 ราย ที่ได้รับอนุญาตไปแล้ว ได้แก่ บริษัท แอสตร้าเซนเนก้า (ประเทศไทย) จำกัด, บริษัท ซิโนแวค นำเข้าโดย องค์การเภสัชกรรม และบริษัท แอนเซ่น-ซีแลก จำกัด นอกจากนั้นยังมี บริษัท บารัค ไบโอเทค อยู่ระหว่างการยื่นเอกสาร
@ สธ.เผยรายงานตปท.พบภาวะลิ่มเลือดอุดตัน อาจเป็นผลข้างเคียงจากแอสตร้าฯ แต่เกิดได้น้อย
นพ.นคร เปรมศรี ผู้อำนวยการสถาบันวัคซีนแห่งชาติ กล่าวถึงรายงานการทบทวนด้านความปลอดภัยของหน่วยงานกำกับดูแลด้านยาและผลิตภัณฑ์สุขภาพของประเทศอังกฤษ และสหภาพยุโรป ซึ่งได้มีการทบทวนกรณีการเกิดภาวะลิ่มเลือดอุดตัน ร่วมกับภาวะเกล็ดเลือดต่ำของผู้ได้รับวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า ซึ่งทั้ง 2 หน่วยงานมีข้อสรุปว่าภาวะการเกิดลิ่มเลือดที่ผิดปกติร่วมกับการมีภาวะเกล็ดเลือดต่ำเป็นผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นได้น้อยมาก ในอัตราระหว่าง 2-4 ต่อล้านการฉีด แต่ก็มีความเป็นไปได้ว่าสัมพันธ์กับการได้รับวัคซีน และส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นหลังจากได้รับวัคซีนเข็มแรก
อย่างไรก็ตาม สถาบันวัคซีนแห่งชาติ ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) จะติดตามและขอข้อมูลด้านความปลอดภัยของการใช้วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าจากประเทศอื่นๆ ด้วย เพื่อนำมาประกอบการตัดสินใจ และติดตามข้อมูลคำแนะนำจากองค์การอนามัยโลก ซึ่งระหว่างนี้ยังไม่มีข้อแนะนำให้หยุดฉีดวัคซีนของแอสตร้าเซนเนก้า แต่อาจมีเพียงบางประเทศเลือกฉีดให้แก่บางกลุ่มอายุ
"วัคซีนทุกตัว ย่อมมีผลข้างเคียงไม่มากก็น้อย จึงมีความจำเป็นที่จะต้องสังเกตอาการอย่างใกล้ชิดภายหลังจากรับวัคซีนแล้ว ทั้งนี้เชื่อว่าประโยชน์จากการได้รับวัคซีนมีมากกว่าความเสี่ยงที่จะเกิดอาการข้างเคียงทั้งสิ้น ดังนั้นจึงขอให้ประชาชนให้ความมั่นใจกับการมารับวัคซีน เพราะการมารับวัคซีนให้ได้ครอบคลุมในระยะเวลารวดเร็ว จะช่วยทำให้หยุดยั้งการแพร่ระบาดของไวรัสโควิดได้เร็วขึ้น" นพ.นคร กล่าว
@ วัคซีนแอสตร้าฯไทย รอผลตรวจคุณภาพกลางเดือน เม.ย. ก่อนส่งมอบต้นมิ.ย.
สำหรับความคืบหน้าการผลิตวัคซีนไทย ของบริษัท สยาม ไบโอเอนซ์ ประเทศไทย จำกัด นพ.นคร กล่าวว่า บริษัท สยาม ไบโอไซเอนซ์ ประเทศไทย จำกัด ยังดำเนินการไปได้ครบตามแผน โดยมีการผลิตรอบละ 2 พันลิตร ซึ่งอยู่ระหว่างการจัดส่งตัวอย่างวัคซีนที่ได้จากการผลิตไปตรวจสอบคุณภาพที่ห้องปฏิบัติการของ บริษัทแอสตร้าเซนเนก้า ที่ประเทศสก็อตแลนด์ และสหรัฐอเมริกา
"คาดว่าผลการตรวจคุณภาพวัคซีนที่รับรองคุณภาพวัคซีนนี้ จะส่งกลับมาไทยตั้งแต่กลางเดือนเม.ย.2564 เป็นต้นไป และการผลิตวัคซีนที่มีความคืบหน้า ทำให้แผนส่งมอบจะอยู่ในต้นเดือนมิ.ย.2564 โดยจะมีวัคซีนประมาณ 5-10 ล้านโดส อย่างไรก็ตามปริมาณของวัคซีนจะขึ้นอยู่กับกำลังการผลิตที่สามารถผลิตได้ และการส่งมอบได้ในแต่ละเดือน" นพ.นครกล่าว
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/