คณะแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ แถลงชี้แจงเหตุชะลอฉีดวัคซีนโควิด 'แอสตร้าเซนเนก้า' เพื่อรอฟังสอบสวนโรคจากสหภาพยุโรป ยังไม่ยืนยัน ภาวะลิ่มเลือดเกี่ยวข้องกับวัคซีนหรือไม่
.............................................................................
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 12 มี.ค.2564 คณะแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ แถลงข่าวด่วนกรณีการชะลอฉีดวัคซีนโควิดยี่ห้อแอสตร้าเซนเนก้า ให้กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม และคณะรัฐมนตรี (ครม.) หลังมีรายงานว่าในหลายประเทศได้ระงับการฉีดวัคซีนดังกล่าวออกไป เนื่องจากพบผู้รับวัคซีนเกิดลิ่มเลือดและมีผู้เสียชีวิตจากภาวะลิ่มเลือดอุดตัน
ศ.เกียรติคุณ นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร ที่ปรึกษาศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด (ศบค.) กล่าวว่า เราจำเป็นที่จะต้องชะลอการฉีดวัคซีนของแอสตร้าเซนเนก้าออกไปก่อน เนื่องจากเมื่อคืนวันที่ 11 มี.ค.ที่ผ่านมา มีการประกาศระงับการฉีดวัคซีนในประเทศเดนมาร์กและหลายประเทศในยุโรป หลังจากที่ได้ดำเนินการฉีดไปแล้วเป็นล้านโดส เนื่องจากเจอผลข้างเคียงที่ใช้คำว่า ทำให้เลือดแข็งตัวในหลอดเลือดดำ และอาจทำให้มีผลไม่พึงประสงค์เกิดขึ้น ประเทศเดนมาร์กจึงได้ประกาศชะลอการฉีดออกไป สิ่งนี้ทำให้คณะแพทย์และทีมงานต้องนำเรื่องมาพิจารณาการฉีดวัคซีนให้กับทุกคน เนื่องจากแพทย์หวังอย่างเดียวว่า วัคซีนจะต้องปลอดภัยที่สุดสำหรับประชาชน
“เมื่อมีเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ เราไม่จำเป็นต้องรีบฉีด แม้ว่าแอสตร้าเซนเนก้าจะมีคุณภาพ และมีประสิทธิภาพที่ดี แต่เมื่อมีคนบอกว่าขอให้ชะลอก่อน เราก็ควรที่จะรอฟังผลจากเดนมาร์กและหน่วยงานด้านยุโรปเสียก่อน” ศ.เกียรติคุณ นพ.ปิยะสกล กล่าว
@ EMA ยังไม่ประกาศระงับการฉีดอย่างเป็นทางการ
ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ม.มหิดล กล่าวว่า สืบเนื่องจากแอสตร้าเซนเนก้าส่งวัคซีนแบบหนึ่งที่ชื่อว่า ABB 5300 จำนวน 1 ล้านโดส ให้กับ 17 ประเทศในสหภาพยุโรป และมีการทยอยฉีดไปแล้ว ปรากฏว่า เดนมาร์กมีผู้เสียชีวิต 1 ราย และหลายรายที่มีลิ่มเลือดเกิดขึ้น ส่งผลให้รัฐบาลเดนมาร์กประกาศระงับ ขอย้ำว่ายังไม่ได้หมายความว่าเกี่ยวข้องกับวัคซีน แต่เมื่อไรก็ตามที่มีสถานการณ์อย่างนี้เกิดขึ้น โดยวิธีการด้านความปลอดภัยทั่วไป ก็จะขอชะลอการฉีดวัคซีนเป็นเวลา 2 สัปดาห์ เพื่อไปสืบค้นข้อมูล
ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์ กล่าวอีกว่า นอกจากนั้นยังมีผลให้ไอซ์แลนด์ และนอร์เวย์ ประกาศหยุดการใช้ตามมา ทั้งนี้ขอยืนยันว่า กรณีไอซ์แลนด์ แจ้งว่าการชะลอฉีดวัคซีน ไม่ได้เกิดจากพบผู้ป่วยที่มีภาวะลิ่มเลือด แต่เป็นการชะลอเพื่อความปลอดภัยและขอติดตามผลเสียก่อน โดยเป็นการชะลอเพื่อขอรอดูการสืบค้นของ european medicines agency (EMA)
เมื่อวาน EMA ประกาศยืนยันว่า EMA ไม่ได้ประกาศให้หยุดชะลอการใช้วัคซีน และยืนยันว่าวัคซีนของแอสตร้าเซนเนก้านั้นยังปลอดภัย แต่ว่าเมื่อมีเหตุการณ์ต่างๆเหล่านี้ ก็จะมีการลงไปสืบค้นเพื่อยืนยันผลกันอีกครั้งหนึ่ง
ขณะเดียวกันประเทศต่างๆที่มีการประกาศชะลอการใช้ไปด้วย คือ ออสเตรีย เอสโตรเนีย ลิทัวเนีย ลักเซมเบิร์ก ลักเซมเบิร์ก ลัตเวีย ทั้งหมดใช้วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าแบบ AB 5300 แต่ประเทศไทยไม่ได้ใช้แบบนี้ อย่างไรก็ตามทั้งหมดได้ขอรอดูผลการยืนยันจาก EMA อีกครั้งหนึ่งเสียก่อน
“เมื่อมีการฉีดวัคซีนและเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น ก็จะมีการสืบค้น EMA ได้ไปประเมินอุบัติการณ์การเกิดลิ่มเลือดเทียบเท่ากับคนที่ไม่ได้ฉีดวัคซีนในกลุ่มประเทศทางยุโรป พบว่าตัวเลขไม่ได้แตกต่างกัน ขณะนี้คิดว่าเพื่อความปลอดภัย ไม่ใช่เฉพาะแค่กับการฉีดวัคซีน แต่ไม่ว่ายาอะไรก็ตามที่มีรายงานแบบนี้ ก็จะหยุดหรือชะลอการใช้ก่อน เพื่อสืบค้นข้อมูลก่อน เมื่อพร้อมก็จะกลับมาใช้อีกครั้งหนึ่ง” ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์
@ ‘หมอยง’ย้ำชะลอรอฟังผลเพื่อความปลอดภัย
ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า ในการฉีดวัคซีนจำนวนมาก โอกาสที่จะเกิดอาการไม่พึงประสงค์ร่วมด้วยกับการฉีดวัคซีนเป็นสิ่งที่เกิดขึ้น แต่เมื่อเกิดขึ้นจะต้องพิสูจน์ว่าโรคหรืออาการนั้นเกี่ยวข้องกับวัคซีนหรือไม่ อย่างที่ทราบกันในข่าวว่ามีการชะลอการใช้วัคซีน หลังมีการเกิดลิ่มเลือด
ศ.นพ.ยง กล่าวด้วยว่า เมื่อฉีดวัคซีนในหมู่มาก โดยเฉพาะขณะนี้ฉีดไปแล้ว 3 ล้านโดส ปรากฏว่ามีผู้ป่วยที่เกิดลิ่มเลือดในหลอดเลือดดำ 22 ราย ในจำนวนนี้เสียชีวิต 1 ราย เมื่อเปรียบเทียบจริงๆ พบว่า โอกาสการเกิดเท่ากับ 7 รายใน 1 ล้านราย ซึ่งต้องมีการสอบสวนโรคต่อไป
“ผมยกตัวอย่างว่า เมื่อผมฉีดวัคซีนให้ 1 คน เขาเดินออกนอกโรงพยาบาลแล้วตกท่อ เราต้องสืบสวนหาสาเหตุว่าเกี่ยวข้องกับวัคซีนหรือไม่ เมื่อสอบสวนแล้วพบว่า เขาเดินสะดุดแล้วตกท่อ แน่นอนต้องไม่เกี่ยวกับวัคซีน แต่หากพบว่าเขาฉีดวัคซีนแล้วเวียนหัว จนเดินตกท่อ เราเรียกว่าอาการไม่พึงประสงค์ ซึ่งจะไปหาสาเหตุว่า อาการเวียนหัวนั้นเกี่ยวข้องกับวัคซีนหรือไม่ ในทำนองเดียวกันนี้เมื่อมีเหตุการณ์ใดเกิดขึ้นก็ต้องมีการสอบสวนโรค” ศ.นพ.ยง กล่าว
ศ.นพ.ยง กล่าวด้วยว่า ก่อนหน้านี้มีกรณีฉีดวัคซีนไฟเซอร์ในนอร์เวย์ ที่มีผู้เสียชีวิต 28 ราย เป็นข่าวใหญ่โต แต่ต่อมาพบว่าการเสียชีวิตส่วนใหญ่เกิดขึ้นในผู้สูงอายุที่มีอายุมากกว่า 80 ปี แต่เมื่อตรวจสอบอัตราการเสียชีวิต พบว่าไม่เกี่ยวข้องกับการฉีดวัคซีน ทุกคนก็กลับมาฉีดวัคซีนไฟเซอร์ตามปกติ ทั้งนี้ขอย้ำว่า เมื่อมีอุบัติการณ์เกิดขึ้น เราต้องสงสัยไว้ก่อน
“การเลื่อนฉีดวัคซีนครั้งนี้ ไม่ได้บอกว่าวัคซีนไม่ดีหรือมีปัญหา แต่เป็นการเลื่อนเพื่อดูสถานการณ์ให้เขาพิสูจน์กันว่าเกี่ยวข้องกันหรือไม่ และเรารู้ว่าวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าที่ใช้ในยุโรป กับของไทยที่ใช้อยู่ คนละประเภทกัน เพราะของเขาผลิตในยุโรป ส่วนของเราผลิตจากโรงงานในเอเชีย และขณะนี้เป็นการชะลอเพื่อตรวจสอบให้แน่นอนเท่านั้น” ศ.นพ.ยง กล่าว
@การชะลอฉีดวัคซีนเพื่อหาสาเหตุเป็นเรื่องปกติ
ศ.พญ.กุลกัญญา โชคไพบูลย์กิจ หัวหน้าสาขาวิชาโรคติดเชื้อ ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล กล่าวว่า ข่าววัคซีนที่มีผลไม่พึงประสงค์ เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ เนื่องจากวัคซีนโควิดเป็นของใหม่ ยิ่งใช้มากก็จะมีรายงานเข้ามา ทั้งนี้อยากเรียนให้ทุกท่านสบายใจว่า คณะผู้เชี่ยวชาญเมื่อฟังเหตุการณ์แล้ว คาดว่าไม่น่าจะเกี่ยวกับวัคซีน เช่น ภาวะแข็งตัวผิดปกติ ไม่ใช่ผลข้างเคียงของวัคซีนเท่าที่เราเคยพบมาในโลกนี้ และไม่เคยเป็นปัญหาของวัคซีนใดๆมาก่อน
ศ.พญ.กุลกัญญา กล่าวอีกว่า การชะลอเพื่อสืบสวนไว้ก่อน ถือเป็นสิ่งที่ดีงามที่มีการสืบสวน ทั้งนี้ระบบการเฝ้าระวังผลข้างเคียงหลังจากรับวัคซีนเป็นเหตุการณ์ที่อาจทำให้หลายคนกังวล เพราะมีรายงานสถานการณ์มาอย่างต่อเนื่อง แต่แท้จริงเป็นระบบที่ทำให้เราเกิดความมั่นใจและปลอดภัยสูง อย่างของไทย ไม่ว่าจะซิโนแวคหรือแอสตร้าเซนเนก้า เราก็มีระบบเฝ้าระวังที่ร่วมมือกันอย่างเข้มแข็ง โดยแอปพลิเคชันหมอพร้อม ที่ผู้ป่วยสามารถรายงานอาการด้วยตัวเอง และสถานพยาบาลได้จัดระบบสังเกตอาการหลังฉีดไว้อีกด้วย
“เรามีคณะผู้เชี่ยวชาญที่จะลงไปดูรายละเอียด หาสาเหตุว่าเมื่อมีการรายงานผลข้างเคียงเข้ามาเกี่ยวข้องกับวัคซีนหรือไม่ ดังนั้นไม่ใช่แต่เฉพาะวัคซีนตัวนี้ แต่จะดูทุกวัคซีนที่เอามาใช้ ขอให้มั่นใจว่าระบบหลังบ้านเราดีงามและเข้มแข็ง ส่วนกรณียุโรปที่หยุดชั่วคราว ก็เป็นเรื่องที่ปกติ ไทยเองก็ทำมาในหลายวาระ เช่น ฉีดวัคซีนในเด็ก แล้วเกิดเหตุการณ์ จนต้องหยุดสืบสวน เมื่อพบว่าไม่เกี่ยวข้องก็ดำเนินการฉีดต่อได้” ศ.พญ.กุลกัญญา
@แพทยสภาหนุนชะลอฉีดแอสตร้าเซนเนก้า
ศ.เกียรติคุณ พญ.สมศรี เผ่าสวัสดิ์ นายกแพทยสภา กล่าวว่า ในนามแพทยสภาที่มีหมอทั้งสิ้น 7 หมื่นคนทั่วประเทศ จากข้อมูลที่เราได้ฟังจากคณะแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เราเห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งที่มีการชะลอ เพราะภาวะแทรกซ้อนที่เกิดขึ้นยังไม่เป็นที่แน่ใจ แต่ต่างประเทศก็ยังชะลอ แพทย์เรารู้สึกเป็นกังวลที่จะฉีดให้กับประชาชนหากยังไม่มีความชัดเจน ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยของทุกคน เราชะลอไว้ก่อน แต่ไม่ได้บอกว่าเราเลิกแต่อย่างใด
ข่าวประกอบ :
นายกฯ พร้อม ครม.เลื่อนฉีดวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า หลังอียูสั่งระงับ
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage