ป.ป.ช.ชี้มูลประมาทยึดเป็นสำนวนสอบวินัยไม่ได้!ศาล ปค.สูงสุดเพิกถอนปลด‘คุณหญิงณัษฐนนท’

ศาลปกครองสูงสุดพิพากษาแก้ศาล ปค.ชั้นต้นบางส่วน สั่งเพิกถอนคำสั่งผู้ว่า กทม. ลงโทษปลด ‘คุณหญิงณัษฐนนท ทวีสิน’ พ้นปลัด กทม.-เพิกถอนคำวินิจฉัยอุทธรณ์ รมว.มหาดไทยด้วย หลังถูกชี้มูลฐานประมาทเลินเล่อคดีจัดซื้อรถ-เรือดับเพลิง แต่ศาลเห็นว่าไม่เกี่ยวทางวินัย กก.สอบจะยึดมาเป็นสำนวนไม่ได้

......................................................

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 23 ก.พ. 2564 ศาลปกครองสูงสุด พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลปกครองชั้นต้น ให้เพิกถอนคำสั่งของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ที่ 5313/2551 ลงวันที่ 29 ธ.ค. 2551 ที่ให้ลงโทษปลดคุณหญิงณัษฐนนท ทวีสิน (ผู้ฟ้องคดี) ออกจากราชการ (ตำแหน่งปลัดกรุงเทพมหานคร) และเพิกถอนคำวินิจฉัยอุทธรณ์ของ รมว.มหาดไทย ที่ให้ยกอุทธรณ์ของผู้ฟ้องคดี โดยให้มีผลย้อนหลังนับตั้งแต่วันที่มีคำสั่ง และคำวินิจฉัยดังกล่าว ส่วนคำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก

คดีดังกล่าวคุณหญิงณัษฐนนท ทวีสิน อดีตปลัดกรุงเทพมหานคร เป็นผู้ฟ้องคดี มีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เป็นผู้ร้องสอด มี กทม., ผู้ว่า กทม., คณะกรรมการข้าราชการกรุงเทพมหานคร (ก.ก.) และ รมว.มหาดไทย เป็นผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1-4

โดยศาลปกครองสูงสุด เห็นว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีหนังสือแจ้งมติให้ กทม. ทราบว่า กรณีของผู้ฟ้องคดีนั้น เป็นกรณีที่มีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง ฐานประมาทเลินเล่อในหน้าที่ราชการอันเป็นเหตุให้เสียหายแก่ราชการอย่างร้ายแรง โดย อ.ก.ก. สามัญในการประชุมครั้งที่ 6/2551 เมื่อวันที่ 26 ธ.ค. 2551 มีมติให้ปลดผู้ฟ้องคดีออกจากราชการ และผู้ว่า กทม. มีคำสั่งกรุงเทพมหานคร ที่ 5313/2551 ลงวันที่ 29 ธ.ค. 2551 ลงโทษปลดผู้ฟ้องคดีออกจากราชการ ตั้งแต่วันที่ 30 ก.ย. 2549 เป็นวันสิ้นปีงบประมาณที่ผู้ฟ้องคดีได้พ้นจากราชการตามกฎหมายว่าด้วยบำเหน็จบำนาญข้าราชการเป็นต้นไป อันเป็นการลงโทษผู้ฟ้องคดีในความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง โดยมิได้มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยขึ้นทำการสอบสวนวินัย ตามมาตรา 102 วรรคสอง แห่ง พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2535

เมื่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีหนังสือแจ้งให้ กทม. ลงโทษผู้ฟ้องคดี อันมิใช่ความผิดทางวินัยฐานทุจริตต่อหน้าที่ หนังสือฉบับดังกล่าวของคณะกรรมการ ป.ป.ช. จึงเป็นเพียงการชี้มูลความผิดทางวินัยนอกเหนืออำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการ ป.ป.ช. กทม. จึงไม่อาจถือเอารายงานเอกสารและความเห็นของคณะกรรมการ ป.ป.ช. เป็นสำนวนการสอบสวนทางวินัยของคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยได้

ศาลปกครองสูงสุด เห็นว่า เมื่อมิได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัย ตามนัยมาตรา 102 วรรคสอง แห่ง พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ.2535 การที่ผู้ว่า กทม. ออกคำสั่งกรุงเทพมหานคร ลงโทษปลดผู้ฟ้องคดีออกจากราชการในความผิดวินัยอย่างร้ายแรง ฐานประมาทเลินเล่อในหน้าที่ราชการ อันเป็นเหตุให้เสียหายแก่ราชการอย่างร้ายแรง ตามมาตรา 84 วรรคสอง แห่ง พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2535 ดังกล่าว จึงเป็นการกระทำโดยไม่ถูกต้องตามรูปแบบขั้นตอน หรือวิธีการอันเป็นสาระสำคัญที่กฎหมายกำหนดไว้สำหรับการกระทำนั้น คำสั่งลงโทษทางวินัยแก่ผู้ฟ้องคดี จึงเป็นคำสั่งไม่ชอบด้วยกฎหมาย เมื่อคำสั่งดังกล่าวไม่ชอบด้วยกฎหมายแล้ว คำวินิจฉัยอุทธรณ์ของ รมว.มหาดไทย ที่ให้ยกอุทธรณ์ของผู้ฟ้องคดีจึงเป็นคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายเช่นเดียวกัน

การที่ศาลปกครองชั้นต้นพิพากษาให้เพิกถอนคำสั่งและมติของผู้ถูกฟ้องคดีทั้ง 4 ตามคำขอของผู้ฟ้องคดี ทั้งนี้ให้มีผลย้อนหลังนับแต่วันที่มีคำสั่งหรือมตินั้น ศาลปกครองสูงสุดเห็นพ้องด้วยบางส่วน

พิพากษาแก้คำพิพากษาของศาลปกครองชั้นต้น เป็นให้เพิกถอนคำสั่งของผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 (ผู้ว่า กทม.) ตามคำสั่งกรุงเทพมหานคร ที่ 5313/2551 ลงวันที่ 29 ธ.ค. 2551 ที่ให้ลงโทษปลดผู้ฟ้องคดีออกจากราชการ และเพิกถอนคำวินิจฉัยอุทธรณ์ของผู้ถูกฟ้องคดีที่ 4 (รมว.มหาดไทย) ที่ให้ยกอุทธรณ์ของผู้ฟ้องคดี ทั้งนี้ให้มีผลย้อนหลังนับแต่วันที่มีคำสั่งและคำวินิจฉัยดังกล่าว ส่วนคำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 22 ส.ค. 2557 ศาลปกครองกลางมีคำพิพากษาคดีดังกล่าวมาแล้ว โดยให้เพิกถอนคำสั่งกรุงเทพมหานคร ที่ 5313/2551 ลงโทษปลดผู้ฟ้องคดีพ้นจากตำแหน่งปลัดกรุงเทพมหานคร และเพิกถนอมติ ก.ก. ที่วินิจฉัยยกอุทธรณ์คำสั่งกรุงเทพมหานคร ที่ 5313/2551 และเพิกถอนคำสั่ง รมว.มหาดไทย ที่ยกอุทธรณ์ โดยให้มีผลย้อนหลังนับแต่วันที่มีคำสั่งหรือมติดังกล่าว โดยศาลเห็นว่า ป.ป.ช. ไม่มีอำนาจไต่สวนและวินิจฉัยเจ้าหน้าที่ของรัฐที่กระทำการประมาทเลินเล่อ

อนึ่ง เมื่อวันที่ 20 ก.ย. 2562 ศาลปกครองเคยมีคำพิพากษาเพิกถอนคำสั่ง กทม. ที่ให้คุณหญิงณัษฐนนท ทวีสิน ชดใช้เงิน 429,977,904 บาท ให้กับ กทม. กรณีจัดซื้อรถ-เรือดับเพลิงด้วย โดยศาลให้เหตุผลว่า จากข้อเท็จจริงในคดีรับฟังได้ว่า คุณหญิงณัษฐนนท เพียงลงนามผ่านเรื่องให้นายสมัคร สุนทรเวช ผู้ว่า กทม. (ขณะนั้น) อนุมัติตามคำสั่งของนายสมัคร

หมายเหตุ : ภาพประกอบคุณหญิงณัษฐนนท จาก https://medias.thansettakij.com/

#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage