กกต.ดำเนินคดีอาญา ‘พีระวิทย์ เรื่องลือดลภาค’ หัวหน้าพรรคไทรักธรรม-พวก ปมให้เงินบุคคลชักจูงเข้ามาสมัครสมาชิก-ลงสมัคร ส.ส.แบ่งเขต จ.พิจิตร ผิด พ.ร.บ.พรรคการเมืองฯ โทษสูงสุดคุก 5-10 ปี ปรับ 1-2 แสนบาท
...........................
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 26 ธ.ค. 2563 สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เผยแพร่คำวินิจฉัย กกต. ที่ 58/2563 กรณีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง เขต 1 เขต 2 และเขต 3 จ.พิจิตร กรณีการเลือกตั้งเป็นการทั่วไปเมื่อ 24 มี.ค. 2562
โดยก่อนประกาศผลการเลือกตั้ง กกต. ได้รับรายงานกรณีมีเหตุอันควรสงสัยว่า นายพีระวิทย์ เรื่องลือดลภาค หัวหน้าพรรคไทรักธรรม (ปัจจุบันเป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทรักธรรม) กับพวกซึ่งเป็นผู้สมัคร ส.ส.แบบแบ่งเขตพรรคไทรักธรรม และสมาชิกพรรคไทรักธรรม ในพื้นที่ จ.พิจิตร รวม 10 ราย กระทำการฝ่าฝืน พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 มาตรา 30 กรณีผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 10 ราย เสนอว่าจะให้ หรือสัญญาว่าจะให้เงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อม เพื่อจูงใจให้บุคคลหนึ่งบุคคลใดสมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรคไทรักธรรม
กกต. พิจารณารายงานการไต่สวนตลอดจนพยานหลักฐานอื่น ๆ ได้ความว่า มีผู้แจ้งเหตุว่าระหว่างเดือน ก.ย. 2561-ม.ค. 2562 ผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 10 ราย ร่วมกันเชิญชวนให้ชาวบ้านใน ต.ป่ามะคาบ อ.เมืองพิจิตร จ.พิจิตร มารวมกลุ่มกันทำดอกไม้จันทน์ โดยพรรคไทรักธรรมจะเป็นผู้ลงทุนซื้อวัสดุอุปกรณ์ต่าง ๆ ให้ประชาชนรวมกลุ่มกันทำดอกไม้จันทน์ และเมื่อทำแล้วเสร็จ พรรคไทรักธรรมจะรับซื้อคืนในราคาดอกละ 1 บาท โดยมีเงื่อนไขว่าต้องสมัครเข้าพรรคก่อน จึงมีสิทธิเข้าร่วมกลุ่มทำดอกไม้จันทน์
นายพีระวิทย์ หัวหน้าพรรคไทรักธรรม ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 ให้ถ้อยคำชี้แจงว่า การทำดอกไม้จันทน์ดังกล่าวเป็นไปตามนโยบายของพรรคด้านการศึกษา และนโยบายประชานิยมที่กำหนดไว้ในนโยบายพรรค และข้อบังคับพรรค อย่างไรก็ดีมีผู้ถูกกล่าวหาบางรายให้ถ้อยคำว่า ได้สมัครสมาชิกพรรคไทรักธรรม เพราะต้องการเข้าร่วมกลุ่มทำดอกไม้จันทน์ และได้ชัดชวนให้ญาติพี่น้องสมัครเป็นสมาชิกพรรคไทรักธรรมประมาณ 20 ราย ประกอบกับมีพยานเป็นสมาชิกพรรคไทรักธรรมให้ถ้อยคำสอดคล้องกันว่า ได้สมัครเป็นสมาชิกพรรคไทรักธรรม เพื่อต้องการทำดอกไม้จันทน์ โดยไม่ได้เสียค่าสมัครสมาชิกหรือค่าบำรุงพรรค
การให้ถ้อยคำของผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 ยังไม่อาจหักล้างข้อเท็จจริงที่ได้จากการให้ถ้อยคำของผู้ถูกกล่าวหารายอื่น ๆ และพยานที่ไต่สวนประกอบได้ พยานหลักฐานรับฟังได้ว่า ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1, 2, 4, 5, 6, 8, 9, 10 กระทำผิดตามมาตรา 30 แห่ง พ.ร.บ.พรรคการเมืองฯ ส่วนผู้ถูกกล่าวหาที่ 3, 7 ไม่ปรากฏพยานหลักฐานร่วมกับผู้ถูกกล่าวหารายอื่น
นอกจากนี้ กกต. ยังพบข้อเท็จจริงจากการไต่สวนว่า ผู้ถูกกล่าวหาที่ 2 ได้สำรองออกเงินค่าสมัครสมาชิก ค่าบำรุงพรรคให้แก่ผู้สมัครที่เป็นสมาชิกพรรคไทรักธรรมประมาณ 20-30 รายแบบตลอดชีพ รายละ 2,000 บาท และแบบรายปีรายละ 100 บาท โดยผู้สมัครสมาชิกพรรคส่วนใหญ่จะไม่เสียค่าบำรุงพรรค ส่วนผู้ถูกกล่าวหาที่ 4, 5, 6, 8, 9, 10 และพยานผู้สมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรค ให้ถ้อยคำสอดคล้องกันว่า การรับสมัครสมาชิกพรรคใน ต.ป่ามะคาบ อ.เมืองพิจิตร จ.พิจิตร ไม่มีการเก็บเงินค่าสมัครสมาชิก และไม่ปรากฏหลักฐานว่ามีการออกใบเสร็จรับเงิน (แบบ พ.ก.9) ให้แก่สมาชิกพรรค
ประกอบกับมีบันทึกเสียงการสนทนาระหว่างนายพีระวิทย์ (ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1) และกรรมการบริหารพรรค มีใจความกำชับให้กรรมการบริหารพรรคเร่งรัดหาบุคคลผู้สมัคร ส.ส.ให้ทันระยะเวลากำหนด โดยนายพีระวิทย์จะรับผิดชอบค่าสมัครสมาชิกพรรคหรือค่าบำรุงพรรคการเมืองแบบตลอดชีพ จำนวน 2,00 บาท ให้กับผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.เอง
พยานหลักฐานจึงรับฟังได้ว่า ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1, 2, 4, 5, 6, 8, 9, 10 กระทำผิดตามมาตรา 30 แห่ง พ.ร.บ.พรรคการเมืองฯ ส่วนผู้ถูกกล่าวหาที่ 3, 7 ไม่ปรากฏหลักฐานว่ามีส่วนเกี่ยวข้อง จึงมีคำสั่งให้ดำเนินคดีอาญาแก่นายพีระวิทย์ (ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1) รวมถึงผู้ถูกกล่าวหาที่ 2, 4, 5, 6, 8, 9, 10 ส่วนผู้ถูกกล่าวหาที่ 3, 7 ให้ยุติเรื่อง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ปัจจุบันนายพีระวิทย์ เรื่องลือดลภาค เป็นหัวหน้าพรรคไทรักธรรม และเป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อเพียงรายเดียวของพรรค โดยเข้าร่วมกับพรรคร่วมรัฐบาล
ทั้งนี้ ตาม พ.ร.บ.พรรคการเมืองฯ มาตรา 109 ระบุว่า ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา 30 หรือ 31 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้นมีกำหนด 5 ปี
ถ้าความผิดตามวรรคหนึ่ง เป็นการกระทำเพื่อให้ลงหรือขอลงสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส. ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 5-10 ปี หรือปรับตั้งแต่ 1 แสนบาท-2 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของผู้นั้น
หมายเหตุ : ภาพประกอบนายพีระวิทย์ จาก https://image.nationweekend.com/
อ่านประกอบ : บัญชีทรัพย์สิน 5.4 ล.‘พีระวิทย์’ไม่พบแจ้งหนี้เงินกู้ยืม 1 ล.จาก‘พิเชษฐ’
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage