กกต.สอยอีก 2 ราย ไร้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งนายก อบจ. ‘เติมสิน มีสุข’พิษณุโลก ถือครองหุ้นสื่อ ‘นันทิยา วงศ์วานิชย์’แม่ฮ่องสอน อยู่ในพื้นที่น้อยกว่า 1 ปี รอด 7 ราย ‘น้องชายเสี่ยแฮงก์’ด้วย แม้เคยถูก สตง.สอบ-คำสั่ง คสช.พักราชการ
..................................
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เผยแพร่คำสั่ง กกต. กรณีผู้สมัครรับเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (นายก อบจ.) อย่างน้อย 9 ราย กรณีถูกกล่าวหาว่า ไม่มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งตาม พ.ร.บ.เลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2562 มาตรา 50 โดยมี 2 รายที่ถูก กกต. วินิจฉัยตัดสิทธิการเป็นผู้สมัครนายก อบจ. ได้แก่
นายเติมสิน มีสุข ผู้สมัครรับเลือกตั้งนายก อบจ.พิษณุโลก โดยถูกกล่าวหาว่าว่า เป็นบุคคลผู้มีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งตาม พ.ร.บ.เลือกตั้งท้องถิ่นฯ พ.ศ. 2562 มาตรา 50 (3) เพราะเป็นเจ้าของหรือผู้ถือหุ้นในกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนใด ๆ
โดย กกต. ได้พิจารณาพยานหลักฐานแล้วได้ความว่า นายเติมสิน เป็นหุ้นส่วนผู้จัดการ เอสที แอนด์ ที อีควิปเมนต์ และเป็นกรรมการและผู้ถือหุ้นของบริษัท เนเวอร์ดาย โปรดักชั่น เฮ้าส์ จำกัด จากการตรวจสอบหนังสือรับรองของสำนักงานพาณิชย์จังหวัดพิษณุโลก พบว่า หจก.เอสที แอนด์ ทีฯ ปรากฏวัตถุประสงค์ “ประกอบกิจการจัดสร้างและจัดจำหน่ายภาพยนตร์ โรงภาพยนตร์ และโรงมหรสพอื่น ฯลฯ” ส่วนบริษัท เนเวอร์ดาย โปรดักชั่นฯ ปรากฏวัตถุประสงค์ข้อ 23 “ประกอบกิจการผลิตสื่อโฆษณา รับจ้างผลิตรายการ ผลิตงานโฆษณา การวางแผนโฆษณา ให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการโฆษณาทุกชนิด และการจัดรายการวิทยุโทรทัศน์”
นายเติมสิน ให้ถ้อยคำว่า กรณี หจก.เอสที แอนด์ ทีฯ มิได้ดำเนินการตามวัตถุประสงค์ข้อ 27 โดยอ้างเอกสารจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า สสช.1 และ ส.บช.3 ปี 2560-2562 ระบุประเภทธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง ส่วนบริษัท เนเวอร์ดาย โปรดักชั่นฯ อ้างแบบ บอจ.5 เมื่อ 25 พ.ย. 2563 ว่าได้ลาอกจากกรรมการและผู้ถือหุ้นแล้ว พร้อมกับส่งแบบ ส.บช.3 ปี 2558 ว่า บริษัทแห่งนี้ผลิตรายการงานโฆษณาวิทยุโทรทัศน์สื่อทุกชนิด และปี 2559 เป็นกิจกรรมของบริษัทโฆษณา ส่วนปี 2560 มีรายได้จากดอกเบี้ย 10 บาท และปี 2561 ไม่มีรายได้จากการประกอบกิจการ
ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า หจก.เอสที แอนด์ ทีฯ ประกอบกิจการรับเหมาก่อสร้าง ส่วนบริษัท เนเวอร์ดาย โปรดักชั่นฯ เป็นกิจการสื่อมวลชนใด ๆ เมื่อยังมิได้จดทะเบียนเลิกบริษัท จึงยังสามารถประกอบกิจการตามวัตถุประสงค์ดังกล่าวได้ ประกอบกับ บอจ.5 ที่คัดจากสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นเมื่อ 25 พ.ย. 2563 ยังไม่อาจพิสูจน์ได้ว่านายเติมสินได้ลาออกจากกรรมการและไม่ได้เป็นผู้ถือหุ้นในบริษัท เนเวอร์ดาย โปรดักชั่นฯ ในชั้นนี้จึงฟังได้ว่า นายเติมสิน ยังเป็นผู้ถือหุ้นในบริษัท เนเวอร์ดาย โปรดักชั่นฯ ที่ประกอบกิจการสื่อมวลชนใด ๆ ในวันสมัครรับเลือกตั้ง จึงเป็นบุคคลผู้มีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งนายก อบจ.พิษณุโลก ตาม พ.ร.บ.เลือกตั้งท้องถิ่นฯ มาตรา 50 (3) จึงมีคำสั่งให้ถอนชื่อนายเติมสุข ออกจากประกาศรายชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้งนายก อบจ.พิษณุโลก
อีกรายที่น่าสนใจ ได้แก่ กรณีนางนันทิยา วงศ์วานิชย์ ผู้สมัครนายก อบจ.แม่ฮ่องสอน โดยก่อนหน้านี้ กกต.พบว่า นางนันทิยา ไม่มีคุณสมบัติสมัครรับเลือกตั้งนายก อบจ.แม่ฮ่องสอน เนื่องจากขาดคุณสมบัติเพราะอาศัยอยู่ในพื้นที่ไม่ครบ 1 ปี ต่อมานางนันทิยาอุทธรณ์ต่อ กกต. โดย กกต. พิจารณาแล้วเห็นว่า เอกสารจากศูนย์บริหารการทะเบียนภาคสาขา จ.แม่ฮ่องสอน พบว่า นางนันทิยามีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านใน จ.แม่ฮ่องสอน โดยย้ายเข้าเมื่อ 8 พ.ย. 2562 หากนับจากวันดังกล่าวถึงวันที่สมัครรับเลือกตั้งเมื่อ 6 พ.ย. 2563 มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านน้อยกว่า 1 ปี แม้นางนันทิยาจะอ้างหลักฐานเป็นหนังสือรับรองของนายอำเภอเมืองแม่ฮ่องสอนที่รับรองว่าอยู่บ้านใน จ.แม่ฮ่องสอน เป็นเวลา 365 วัน หากนับแต่ 8 พ.ย. 2562-6 พ.ย. 2563 ตามาตรฐานการนับเวลาสากลก็ตาม แต่การนับเวลาการมีชื่ออยู่ในเขตเลือกตั้งตาม พ.ร.บ.เลือกตั้งท้องถิ่นฯ มิได้กำหนดวิธีการนับระยะเวลาไว้ จึงต้องนับเวลาตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 193/1 ที่มิให้นับวันแรกแห่งระยะเวลานั้นรวมเข้าด้วยกัน ดังนั้นนางนันทิยาจึงมีชื่อในทะเบียนบ้าน จ.แม่ฮ่องสอน น้อยกว่า 1 ปี จึงไม่มีคุณสมบัติสมัครรับเลือกตั้งนายก อบจ.แม่ฮ่องสอน
@ยกคำร้อง 6 ราย- ‘น้องเสี่ยแฮงก์’รอดด้วย แม้เคยถูก สตง.สอบ-คำสั่ง คสช.พักงาน
อย่างไรก็ดียังมีผู้สมัครนายก อบจ. อีก 7 ราย ที่ กกต.มีคำสั่งยกคำร้อง ได้แก่ 1.นายอนุสรณ์ นาคาศัย (น้องชายนายอนุชา นาคาศัย รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และ ส.ส.ชัยนาท พรรคพลังประชารัฐ) ผู้สมัครนายก อบจ.ชัยนาท กรณีถูกกล่าวหาว่า โดนสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ตรวจสอบกรณีการใช้จ่ายงบประมาณ 54.8 ล้านบาทเศษไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์กระทรวงมหาดไทย และถูกสั่งให้คืนเงินดังกล่าวแก่ อบจ.ชัยนาท นอกจากนี้ยังถูกคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 43/2559 ให้ถูกระงับการปฏิบัติราชการ อย่างไรก็ดีต่อมาเมื่อปี 2561 มีคำสั่งนายกรัฐมนตรีที่ 10/2561 ให้นายอนุสรณ์ กลับคืนตำแหน่งเดิม และไม่ปรากฏว่าจังหวัดชัยนาทเคยมีคำสั่งให้พ้นจากตำแหน่งนายก อบจ.ชัยนาท แต่อย่างใด จึงไม่เป็นบุคคลผู้มีลักษณะต้องห้าม
2.นายชุมพล กาญจนะ (อดีต ส.ส.สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์) ผู้สมัครนายก อบจ.สุราษฎร์ธานี ถูกกล่าวหาว่าเคยต้องคำพิพากษาศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองเมื่อปี 2553 จำคุก 2 เดือน รอการลงโทษ 1 ปี คดียื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินอันเป็นเท็จ โดย กกต.เคยพิจารณาแล้วว่า กรณีนี้ถือว่ามิได้มีการจำคุกจริง จึงเป็นบุคคลไม่มีลักษณะต้องห้าม
3.นายรังสรรค์ รัศมีฤกษ์เศรษฐ์ (อดีตนายก อบจ.กาญจนบุรี) ผู้สมัคร นายก อบจ.กาญจนบุรี ถูกกล่าวหาว่าไม่สำเร็จการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น เนื่องจาก กศน.ยกเลิกอนุมัติจบหลักสูตร โดยปัจจุบันมีการฟ้องคดีต่อศาลปกครอง และอยู่ระหว่างพิจารณาของศาลปกครองสูงสุด อย่างไรก็ดี กกต.พบว่า นายรังสรรค์เคยเป็นนายก อบจ.กาญจนบุรี 2 สมัย โดยใช้คุณสมบัติเดียวกันในการสมัครครั้งนี้ จึงเป็นบุคคลไม่มีลักษณะต้องห้าม
4.นายสำเริง แหยงกระโทก (อดีตผู้ช่วย รมว.สาธารณสุข, อดีตสมาชิกพรรคภูมิใจไทย) ผู้สมัครนายก อบจ.นครราชสีมา ถูกกล่าวหาว่า เคยเป็นผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ลำดับที่ 20 อย่างไรก็ดีนายสำเริง ระบุว่า ได้ทำหนังสือลาออกจากพรรคภูมิใจไทยก่อนหน้าสมัครับเลือกตั้งนายก อบจ.นครราชสีมา ตั้งแต่วันที่ 26 ต.ค. 2563 จึงเป็นบุคคลไม่มีลักษณะต้องห้าม
5.นายพยุงศักดิ์ วงศ์วานิชย์ (กรรมการบริษัท ประชารัฐรักษาสามัคคีแม่ฮ่องสอนฯ) และ 6.นายอัครเดช วันไชยธนวงศ์ (อดีตนายก อบจ.แม่ฮ่องสอน) 2 ผู้สมัครนายก อบจ.แม่ฮ่องสอน ถูกกล่าวหาว่าถือครองหุ้นสื่อ อย่างไรก็ดี กกต.พบว่า บุคคลทั้ง 2 รายถือครองหุ้นในบริษัท ประชารัฐรักสามัคคีแม่ฮ่องสอน (วิสาหกิจเพื่อสังคม) จำกัด โดยบริษัทดังกล่าวมิได้ประกอบกิจการธุรกิจสื่อ ทั้ง 2 ราย จึงไม่มีลักษณะต้องห้าม
7.นายศักดา เกตุแก้ว (นักธุรกิจด้านการเงินดิจิตอล) ผู้สมัครนายก อบจ.อุดรธานี ถูกกล่าวหาว่าถือครองหุ้นสื่อ กรณีเป็นกรรมการบริษัท สมุยวันสต๊อป จำกัด มีวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการโฆษณา อย่างไรก็ดีนายศักดาชี้แจงว่า วัตถุประสงค์ดังกล่าวเป็นแบบมาตรฐานของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า มิได้ประกอบกิจการด้านสื่อมวลชนใด ๆ และบริษัทแห่งนี้มิได้มีการยื่นนำส่งงบการเงินมากว่า 3 ปี จึงไม่มีรายได้ที่จะแสดงให้เห็นว่ามีการดำเนินกิจการใด จึงไม่มีลักษณะต้องห้าม
อ่านประกอบ :
กกต.ถอนชื่ออีก 19 ผู้สมัคร ส.อบจ. ถือหุ้นสื่อ-ต้องคำพิพากษา-ไม่ไปเลือกตั้ง 24 มี.ค.
พบอีก 6 ผู้สมัคร ส.อบจ.ขาดคุณสมบัติ โดนคดีพนัน-ฉ้อโกง-ลักทรัพย์-ผู้ช่วย ส.ส.ด้วย
ประเดิม! กกต.ตัดสิทธิผู้สมัคร ส.อบจ.อุตรดิตถ์ พ้นโทษจำคุกไม่ถึง 5 ปีก่อนวันเลือกตั้ง
มี 4 ผู้สมัครนายก อบจ.-116 สมาชิกฯขาดคุณสมบัติ-ร้องทุจริต 21 เรื่อง-ซื้อเสียง 4 แห่ง
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/