ดีเอสไอยกคณะสอบสนามกอล์ฟดัง จ.ภูเก็ต อุบเงียบ สื่อห้ามเข้า

วิจารณ์แซด! ดีเอสไอ หลายหน่วยงานยกคณะ ตรวจสอบสนามกอล์ฟดัง จ.ภูเก็ต โครนบิน รปภ.ห้ามสื่อเข้า นักอนุรักษ์จี้หน่วยงานเปิดข้อมูลให้โปร่งใส 

สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 14 กรกฎาคม 2563 ที่สนามกอล์ฟบลูแคนยอน อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ร.ต.อ.ประสิทธิ์ ขันซ้าย ผู้อำนวยการศูนย์ปฎิบัติการคดีพิเศษเขตพื้นที่ 8 พร้อมเจ้าหน้าที่ป่าไม้ เจ้าหน้าที่สำนักงานที่ดิน เข้าตรวจสอบสนามกอล์ฟบลูแคนยอน และ ใช้อากาศยานไร้คนขับ(โดรน) จากกองเทคโนโลยีและศูนย์ข้อมูลการตรวจสอบแผนที่ กรมสอบสวนคดี กระทรวงยุติธรรม พิเศษ บินถ่ายภาพมุมสูง

นางสุวิมล สายสุวรรณ ผู้อำนวยการกองเทคโนโลยีและศูนย์ข้อมูลการตรวจสอบแผนที่ กล่าวว่า ทราบว่า มีทีมงานลงพื้นที่จังหวัดภูเก็ต แต่ยังไม่ได้รับรายงาน กลับมายังตนว่า จะใช้อากาศยานไร้คนขับบินตรวจสอบพื้นที่ใด แต่ถึงแม้ว่า พื้นที่ที่บินจะใกล้สนามบินจังหวัดภูเก็ต เจ้าหน้าที่ก็จะปฎิบัติตามกฎหมายทุกประการเชื่อว่า จะต้องได้รับการอนุญาตในการบินอากาศยานไร้คนขับแล้วจึงจะมีการบิน

“กองคดีเป็นผู้ขอสนับสนุนโดยเฉพาะกองคดีปฎิบัติการคดีพิเศษภาคขอสนับสนุนมากจนไม่ทราบว่า มีภารกิจที่ใดบ้าง” นางสุวิมลระบุ 

(ภาพถ่ายสนามกอล์ฟบลูแคนยอน/อิศรา)

นายวัฒนพงษ์ สุกใส ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ยังไม่ทราบว่าหน่วยงานราชการใดบ้างเข้าตรวจสอบสนามกอล์ฟบลูแคนยอน ซึ่งอาจจะเป็นเจ้าหน้าที่จากกรมป่าไม้ ซึ่งจะตรวจสอบสอบถามหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เนื่องจากจังหวัดภูเก็ตมีกฏหมายสิ่งแวดล้อมการก่อสร้างต่างๆ จะต้องขออนุญาตจากทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หากไม่มีการขออนุญาตอาจจะไม่ทราบฉะนั้นจะตรวจสอบเรื่องนี้ ต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากมีกระแสข่าวว่าเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบสนามกอล์แห่งดังกล่าว กลุ่มผู้สื่อข่าวท้องถิ่นทราบข่าว พร้อมกันเดินทางไปยังสนามกอล์ฟฯ แต่ปรากฏว่า เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ไม่อนุญาตให้เข้าไปด้านในแต่อย่างใด

“ให้รอก่อน ไม่อนุญาต สนามกอล์ฟไม่สะดวกที่จะให้สื่อมวลชนเข้าไปรายงานข่าวในพื้นที่ แต่มีเจ้าหน้าที่ได้เข้าไปตรวจสอบในพื้นที่แล้ว”

ผู้สื่อข่าวท้องถิ่นรายหนึ่งกล่าวว่า การเจ้าหน้าที่หลายหน่วยเข้าตรวจสอบพื้นที่แต่กลับไม่มีเปิดเผยข้อมูลต่อสื่อมวลชนทำให้เป็นประเด็นวิพาก์วิจารณ์และถูกตั้งคำถามถึงการทำงานของเจ้าหน้าที่ว่าปฏิบัติงานตรงไปตรงมาหรือไม่ และวิจารณ์กันว่าพื้นที่บริเวณใกล้สนามบินจังหวัดภูเก็ตในอดีตเป็นพื้นที่ป่าไม้ มีสภาพรกชัฏภูเขาสูงชันปัจจุบันถูกเปิดหน้าดินจนเหตุได้ชัดจากถนนสายสนามบินฯ

นักอนุรักษ์ในพื้นที่รายหนึ่งกล่าวว่า ในอดีตพื้นที่บริเวณหน้าสนามบินจังหวัดภูเก็ตมีสภาพเป็นสาธารณะ มีทั้งพื้นที่ ราชพัสดุและ พื้นที่ป่าไม้ หลังจากที่มีการตัดถนน ทางหลวงแผ่นดินช่วงสนามบินนานาชาติภูเก็ตบรรจบกับทางหลวงแผ่นดินสาย 402 ทำให้มีการครอบครองและออกเอกสารสิทธิ์ จนเป็นที่วิจารณ์ว่า ชาวบ้านที่ครอบครองไม่มีเอกสารสิทธิ์แต่กลุ่มทุนข้ามชาติสามารถทำเอกสารสิทธิ์ที่ดินได้ ปัจจุบันขึ้นป้ายขนาดใหญ่ขายในราคาไร่ละ 33 ล้านบาท ฉะนั้น เมื่อเจ้าหน้าที่รัฐเข้าตรวจสอบพื้นที่ก็ควรอย่างยิ่งที่จะต้องเปิดข้อมูลให้สาธารณะชนทราบ

# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/