สหภาพฯธอส. ร่อนหนังสือถึงธปท. พิจารณาคุณสมบัติของ ‘ฉัตรชัย ศิริไล’ ก่อนนั่งเก้าอี้ผู้จัดการ ธอส.สมัยที่ 2 ชี้ 5 ประเด็นบริหารผิดพลาด-ส่อไปในทางประพฤติมิชอบ

สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 29 พ.ค. สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ทำหนังสือถึงนายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ในฐานะรองประธานกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย เรื่อง ขอให้พิจารณาคุณสมบัติการแต่งตั้ง นายฉัตรชัย ศิริไล ก่อนเข้าดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.)
สำหรับหนังสือดังกล่าวระบุว่า สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ ธอส. ขอนำเรียนการบริหารที่ผิดพลาดและส่อไปในทางประพฤติมิชอบของอดีตกรรมกรผู้จัดการธนาคารอาคาสงเคราะห์ (นายฉัตรชัย ศีริไล) ในหลายเรื่อง อาทิ
1.ในขณะที่ดำรงตำแหน่งรองกรรมการผู้จัดการสายงานสินเชื่อ ไม่ปฏิบัติตามข้อตกลงที่ธนาคารทำไว้กับ ธปท.ในกรณีที่ห้ามธนาคารปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยกลุ่มลูกค้าที่ได้รับความเสียหายจากเหตุอุทกภัย ซึ่งธปท.ได้ให้เงินกู้แก่ธนาคารเพื่อช่วยเหลือลูกค้ากลุ่มดังกล่าว ซึ่งนายฉัตรชัย ซึ่งเป็นรองกรรมการผู้จัดการสายงานสินเชื่อในขณะนั้นทราบเรื่องดังกล่าวดี แต่ก็ไม่ออกระเบียบสินเชื่อกรณีการปรับเปลี่ยนดอกเบี้ยในกรณีต่างๆ ของลูกค้าสินเชื่อกลุ่มดังกล่าว เป็นเหตุให้ธนาคารมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยสูงกว่าข้อตกลง จนในที่สุดผู้ตรวจสอบของธปท.ไต้ตรวจพบและสั่งปรับธนาคารอาคารสงเคราะห์เป็นเงินหลายสิบล้านตามบันทึกธปท.ที่ ธปท.ฝกง.(23)2584/2561 ลว.30/1161
2.นายฉัตรชัย มีเจตนาที่จะฝืนต่อกฎหมาย โดยให้ลูกจ้างหรือพนักงานสัญญาจ้างที่ได้รับการบรจุเป็นพนักงานต้องยื่นใบลาออกและไม่ให้นับอายุงานต่อเนื่อง ซึ่งการกระทำดังกล่าวเป็นการขัดต่อ พรบ.แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ พ.ศ. 2543 และคณะกรรมการกิจการสัมพันธ์ ได้มีหนังสือหารือไปยังกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กระทรวงแรงงาน ซึ่งทางกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานได้มีหนังสือตอบและส่งมายังนายฉัตรชัย ให้ได้รับทราบว่า การที่บังคับให้ลูกจ้างและพนักงานสัญญาจ้างต้องเขียนหนังสือลาออกนั้นเป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ธนาคารจะต้องดำเนินการนับอายุงานและสิทธิประโยชน์อย่างต่อเนื่องให้แก่ลูกจ้าง และพนักงานสัญญาจ้าง แต่นายฉัตรชัยกลับเพิกเฉย
การกระทำดังกล่าวของนายฉัตรชัย จึงเข้าลักษณะต้องห้ามของกรรมการที่ไม่ใช่กรรมการโดยตำแหน่งผู้จัดการ ผู้มีอำนาจในการจัดการ และที่ปรึกษาของสถาบันการเงินเฉพาะกิจ ตามประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกศ. 13/2562 ข้อ 1.7 ที่กำหนดลักษณะต้องห้ามของบุคคลที่จะมาดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการที่จะต้องไม่มีหรือเคยมีพฤติกรรมที่ละเลยหรือฝ่าฝืนต่อกฎหมาย อันอาจจะทำให้เกิดความไม่เชื่อมั่นต่อสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ
3.การจัดซื้อจัดจ้างระบบ GHB ALL มีการเปลี่ยนแปลงแผนการจัดซื้อจัดจ้างประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2561 ซึ่งมีการใช้งบประมาณต่างกันมากเปลี่ยนจาก 7 ล้านบาท เป็น 88 ล้านบาท และมีการจ้างจัดจ้างในเฟส 2 อีกกว่า 26 ล้านบาท แต่ประสิทธิภาพการใช้งานต่ำ มีลักษณะเป็นการแบ่งซื้อแบ่งจ้าง ซึ่งมีความผิดปกติ
4.การใช้อำนาจในฐานะกรรมการผู้จัดการและประธานคณะกรรมการตลาดจัดสรรเงินคุ้มนิรันดร์ เงินรายได้จากเป็นนายหน้าประกันชีวิต (โครงการคุ้มนิรันดร์) ให้อยู่ในอำนาจของตนเอง
5.การใช้เงินของธนาคารไปอย่างฟุ่มเฟือย มีการปรับปรุงห้องทำงานส่วนตัว ห้องน้ำเฟอร์นิเจอร์ และลิฟท์ส่วนตัว (ชั้น 21 อาคาร 2) การปรับปรุงโครงสร้างหลังคาทางเชื่อมอาคารตามความเชื่อส่วนตัว แต่ใช้เงินของธนาคารไปอีกเกือบสิบล้านบาท โดยใช้งบประมาณของธนาคารสูงเกินความจำเป็น ซึ่งเรื่องนี้ก็มีพนักงานร้องเรียนให้มีตรวจสอบ
สำนักข่าวอิศรารายงานว่า เมื่อวันที่ 27 พ.ค.ที่ผ่านมา ที่ประชุมคณะกรรมการธนาคารอาคารสงเคราะห์ ที่มีนายปริญญา พัฒนภักดี เป็นประธาน มีมติเห็นชอบให้นายฉัตรชัย ศิริไล ให้ดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ ธอส. อีกวาระหนึ่งตามที่คณะกรรมการสรรหากรรมการผู้จัดการ ธอส. ที่มีนายยุทธนา หยิมการุณ เป็นประธานคณะกรรมการสรรหาฯ เสนอ
อ่านประกอบ :
คุก 2 ปี 6 ด.! อดีตพนง.อาวุโส ธอส. ทุจริตเรียกเงินค่าชี้ช่องซื้อทรัพย์ NPA ไปขายต่อ


กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา