'อิศรา' อัพเดตความเคลื่อนไหวสถานการณ์โคโรน่าไวรัสทั่วโลกล่าสุด ยอดติดเชื้อสะสมใกล้ 5.2 ล้าน -'ทรัมป์' ลดธงครึ่งเสา 3 วัน อาลัยผู้เสียชีวิต อดีตพ่อบ้านทำเนียบขาวผ่านงาน 11 ปธน.เหยื่อโควิดด้วย- 'บราซิล'จ้างสัปเหร่อเพิ่ม 220 ราย แก้ปัญหาฝังศพไม่ทัน- ล่าสุดผู้นำกลุ่ม 'เชเชน'ส่อติดเชื้อ-'อังกฤษ' เล็งแจกชุดตรวจโควิด 10 ล้านชุด- 'อิตาลี' เจอแฉรายงานยอดตายต่ำกว่าความเป็นจริง 1.9 หมื่นศพ
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานความคืบหน้าสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโรคโควิด-19 หรือโคโรน่าไวรัสทั่วโลกล่าสุด ว่า ในช่วงเช้าวันที่ 22 พ.ค.2563 ตามเวลาประเทศไทย เว็บไซต์ World Meters รายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อทั่วโลกว่า มียอดรวมทั้งสิ้น 5,186,837ราย ผู้ติดเชื้อรายใหม่ 103,426 ราย มีผู้เสียชีวิต 333,976 ศพ เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 4,737 ศพ
โดยประเทศที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อสูงอันดับ 1 ยังคงเป็นสหรัฐอเมริกา มียอดผู้ติดเชื้อสะสมทั้งสิ้น 1,618,687 ผู้ติดเชื้อรายใหม่ 25,964 ราย ผู้เสียชีวิตสะสม 96,220 ศพ ผู้เสียชีวิตรายใหม่ 1,284 ศพ ทำให้สหรัฐฯ ประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสะสม ผู้ติดเชื้อรายใหม่ ผู้เสียชีวิตสะสม ผู้เสียชีวิตรายวันสูงที่สุดในโลก
สำหรับสถานการณ์ทั่วไปในสหรัฐฯ นั้น รัฐนิวยอร์ก ยังคงเป็นรัฐที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อสูงสุดเป็นอันดับ 1 ของสหรัฐฯ มีผู้ติดเชื้อทั้งสิ้น 361,313 ราย และมีผู้เสียชีวิต 28,663 ศพ
ขณะที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า ภายใน 2 สัปดาห์นี้ จะเสร็จสิ้นการร่างกฎหมายว่าด้วยการใช้ยาคลอโรควินเพื่อใช้ในการรักษาไวรัสโควิด 19 ซึ่งล่าสุดหลังจากที่เขาได้กินยาตัวนี้ และได้เข้ารับการตรวจหาโรค เมื่อวันที่ 21 พ.ค. พบว่าผลการตรวจยังคงเป็นลบ
ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ยังเรียกร้องให้มีการเปิดทำการของโบสถ์ทั่วประเทศ โดยจะมีการออกแนวทางปฏิบัติในภายหลังต่อไป
นอกจากนี้ นายทรัมป์ยังได้ส่งข้อความผ่านทวิสเตอร์ว่า จะออกคำสั่งให้สถานที่ราชการและอนุสรณ์สถานทั่วประเทศลดธงครึ่งเสาเป็นระยะเวลา 3 วัน เพื่อเป็นเกียรติให้กับผู้ที่เสียชีวิตจากไวรัสโควิด-19
ทั้งนี้ มีรายงานเพิ่มเติมว่า นายวิลสัน รูสท์เวล เจอร์แมน อดีตพนักงานประจำทำเนียบขาว ได้เสียชีวิตจากไวรัสโควิด 19 แล้วในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งนายวิลสันถือได้ว่าเป็นพนักงานที่มีประวัติการทำงานในทำเนียบขาวยาวนานที่สุดหลายตำแหน่งนับตั้งแต่พนักงานเปิดประตูจนสิ้นสุดที่ตำแหน่งพ่อบ้านประจำทำเนียบ ระยะเวลาการทำงานนับตั้งแต่ปี 2518 ถึงปี 2555 ภายใต้ประธานาธิบดีสหรัฐฯ 11 คน
นายวิลสัน รูสท์เวล เจอร์แมน อดีตพนักงานประจำทำเนียบขาว (อ้างอิงรูปภาพจากบีบีซี)
นอกจากนี้มีรายงานว่ามหาวิทยาลัยโคลอมเบียได้เผยแพร่ผลงานวิจัยฉบับหนึ่งระบุว่า ถ้าหากสหรัฐฯ ประกาศปิดเมืองพร้อมกันทั่วประเทศ นับตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค.เป็นต้นไปมา น่าจะสามารถช่วยชีวิตชาวอเมริกันได้อีกอย่างน้อย 36,000 ราย
สำหรับสถานการณ์รอบโลก ที่ประเทศบราซิล มียอดผู้ติดเชื้อสะสม 310,087 ราย เป็นผู้ติดเชื้อรายใหม่ 16,730 ราย มีผู้เสียชีวิตสะสม 20,047 ศพ และมีรายงานตัวเลขผู้เสียชีวิตใหม่ 1,153 ศพ ทำให้บราซิลกลายเป็นประเทศที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่และมีผู้เสียชีวิตใหม่สูงเป็นอันดับ 2 ของโลก
มีรายงานว่า ที่กรุงเซาเปาโล สถานการณ์การระบาดเลวร้ายมากขึ้น มีการว่าจ้างพนักงานสำหรับฝังศพเพิ่มอีก 220 คน ประจำสุสาน 22 แห่งทั่วเมือง เพื่อแก้ปัญหาการฝังศพไม่ทัน
ที่รัสเซีย มีรายงานผู้ติดเชื้อสะสมทั้งสิ้น 317,554 ราย เป็นผู้ติดเชื้อรายใหม่ 8,849 ราย มีผู้เสียชีวิต 3,099 ศพ เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 127 ศพ ทำให้รัสเซียกลายเป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสะสมและผู้ติดเชื้อใหม่สูงเป็นอันดับหนึ่งในยุโรป
โดยในกลุ่มผู้ติดเชื้อสะสมนั้นพบว่า มีบุคลากรทางการแพทย์ติดเชื้อไปแล้วในช่วงเดือนที่ผ่านมาจำนวน 9,479 ราย เฉพาะเดือนเม.ย. เสียชีวิตมากกว่า 70 ศพ และคาดการณ์กันว่าจำนวนผู้เสียชีวิตใน 70 เขตการปกครองทั่วประเทศรัสเซียน่าจะมีจำนวนมากกว่านี้
ล่าสุดนายรามซาน คาดีลอฟ (Ramzan Kadyrov) ผู้นำกลุ่มเชเชนก็ต้องเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลในกรุงมอสโก เนื่องจากต้องสงสัยว่าจะติดเชื้อโควิด เช่นกัน
นายรามซาน คาดีลอฟ (Ramzan Kadyrov) ผู้นำกลุ่มเชเชน (อ้างอิงรูปภาพจากบีบีซี)
ในส่วนสถานการณ์ที่อังกฤษ มีรายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสม 250,908 ราย เป็นผู้ติดเชื้อรายใหม่ 2,615 ราย มีผู้เสียชีวิตสะสม 36,042 ศพ เป็นผู้เสียชีวิตใหม่ 338 ราย
ขณะที่นายแมท แฮนด์คอก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขอังกฤษได้ออกมาเปิดเผยว่าในสัปดาห์หน้าอังกฤษจะเริ่มมีการแจกชุดตรวจไวรัสโควิด ที่มีศักยภาพในการตรวจหาโรคโควิดได้ภายในระยะเวลา 20 นาที จำนวน 10 ล้านชิ้น ไปยังบุคลากรสาธารณสุขทั่วประเทศ และคาดว่าจะมีการส่งออกไปยังต่างประเทศด้วย
ส่วนสถานการณ์ในเอเชียนั้น ที่สิงคโปร์ มีจำนวนผู้ติดเชื้อสะสม 29,812 ราย ผู้ติดเชื้อรายใหม่ 448 ราย ผู้เสียชีวิตสะสม 23 ศพ เป็นผู้เสียชีวิตใหม่ 1 ศพ สิงคโปร์ ยังคงเป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสะสมสูงที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน)
โดยจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ 448 ราย ยังคงเป็นแรงงานต่างชาติ 434 ราย
ที่อินโดนีเซีย มีรายงานยอดผู้ติดเชื้อสะสมทั้งสิ้น 20,162 ราย เป็นผู้ติดเชื้อใหม่ 973 ราย มีผู้เสียชีวิตสะสม 1,278 ศพ เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 36 ศพ ทำให้อินโดนีเซียมีผู้ติดเชื้อรายวัน ผู้เสียชีวิตสะสมและรายวันสูงสุดในอาเซียน
ที่ฟิลิปปินส์ มีรายงานยอดผู้ติดเชื้อสะสมทั้งสิ้น 13,434 ราย เป็นผู้ติดเชื้อใหม่ 213 ราย มีผู้เสียชีวิตสะสม 846 ศพ เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 4 ศพ
ที่มาเลเซีย มีรายงานยอดผู้ติดเชื้อสะสมทั้งสิ้น 7,059 ราย เป็นผู้ติดเชื้อใหม่ 50 ราย มีผู้เสียชีวิต 114 ศพ ไม่มีผู้เสียชีวิตรายใหม่
ที่บังกลาเทศ มีรายงานยอดผู้ติดเชื้อสะสมทั้งสิ้น 28,511 ราย เป็นผู้ติดเชื้อใหม่ 1,773 ราย มีผู้เสียชีวิต 408 ศพ มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 22 ศพ
ทางด้านประเทศจีน มีรายงานการตรวจพบผู้ติดเชื้อสะสมทั้งสิ้น 82,967 ราย เป็นผู้ติดเชื้อรายใหม่ 2 ราย ผู้เสียชีวิตสะสม 4,634 ราย และไม่มีผู้เสียชีวิตใหม่
ที่อินเดียมีผู้ติดเชื้อสะสมทั้งสิ้น 118,226ราย เป็นผู้ติดเชื้อรายใหม่ 6,198 ราย มีผู้เสียชีวิต 3,584 ศพ เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 150 ศพ
ส่วนที่เกาหลีใต้มียอดผู้ติดเชื้อสะสม 11,122 ราย เป็นผู้ติดเชื้อรายใหม่ 12 ราย ผู้เสียชีวิตสะสม 264 ศพ มีผู้เสียชีวิตรายใหม่ 1 ศพ
ล่าสุดทางการเกาหลีใต้ได้ขยายเวลาสำหรับการออกประกาศเตือนชาวเกาหลีใต้ที่จะเดินทางกลับประเทศออกไป จนถึงวันที่ 19 มิ.ย. เพื่อป้องกันการนำเชื้อโรคนอกประเทศมาแพร่เชื้อเพิ่มเติม
ที่ญี่ปุ่น มีรายงานยอดผู้ติดเชื้อสะสมทั้งสิ้น 16,364ราย เป็นผู้ติดเชื้อใหม่ 41 ราย มีผู้เสียชีวิตสะสม 799 ศพ เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 5 ศพ
ที่อิหร่าน มีผู้ติดเชื้อสะสมทั้งสิ้น 129,341ราย เป็นผู้ติดเชื้อรายใหม่ 2,392 รายมีผู้เสียชีวิต 7,249 ศพ เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 66 ศพ
สำหรับสถานการณ์ในยุโรป นั้น ที่ประเทศสเปน มีรายงานยอดผู้ติดเชื้อสะสมทั้งสิ้น 280,117 ราย เป็นผู้ติดเชื้อใหม่ 593 ราย มีผู้เสียชีวิต 27,940 ศพ เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 52 ศพ
ที่อิตาลี มีรายงานยอดผู้ติดเชื้อสะสมทั้งสิ้น 228,006 ราย เป็นผู้ติดเชื้อใหม่ 642 ราย มีผู้เสียชีวิต 32,486 ศพ เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 156 ศพ
โดยล่าสุดมีรายงานจากสถาบัน The Istituto Nazionale della Previdenza Sociale (INPS) ซึ่งเป็นสถาบันด้านสวัสดิการสังคมระบุว่า ตัวเลขผู้เสียชีวิตของอิตาลีที่รายงานมาขาดความน่าเชื่อถือ โดยผู้เสียชีวิตที่แท้จริงของอิตาลีอาจจะสูงกว่าที่รายงานอย่างน้อย 18,971 ศพ
ที่ฝรั่งเศส มีรายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสม 181,826 ราย มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 251 ราย มีผู้เสียชีวิตสะสม 28,251 ศพ มีรายงานตัวเลขผู้เสียชีวิตรายใหม่ 83 ศพ
สำหรับสถานการณ์ที่เยอรมนี มีรายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสม 179,021 ราย มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 490 ราย มีผู้เสียชีวิตสะสม 8,309 ศพ เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 39 ศพ
เรียบเรียงจาก:,https://www.theguardian.com/world,https://www.bbc.com/news,https://mainichi.jp/english/,https://www.worldometers.info/coronavirus/,https://covid19japan.com/,https://www.nytimes.com/interactive/2020/us/coronavirus-us-cases.html,https://www.straitstimes.com/singapore,https://www.aljazeera.com/topics/events/coronavirus-outbreak.html,https://www.themoscowtimes.com/,http://www.arirang.com/News/News_Index.asp,https://www.thetablet.co.uk/news/12926/-terrifying-emergence-of-covid-19-in-refugee-camps,https://www.thejakartapost.com/,https://apnews.com/99b341e9be11ffc3b5436e2c4c719df6
กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage