ราชกิจจาฯเผยแพร่ประกาศบีโอไอ 5 ฉบับ ใช้มาตรการภาษีจูงใจเอกชนลงทุน 'อุตฯเป้าหมาย-เศรษฐกิจฐานราก' พร้อมหนุนเอสเอ็มอีลงทุนเปลี่ยนเครื่องจักร เปิดทางกิจการสร้างที่อยู่อาศัยผู้มีรายได้น้อยในราคาไม่เกิน 1.2 ล้านบาท ยื่นขอบีโอไอภายในปี 63 รับสิทธิเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลนาน 3 ปี
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) เมื่อวันที่ 5 พ.ค.ที่ผ่านมา เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ประกาศคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน 4 ฉบับ ลงนามโดยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการส่งเสริมการลงทุน โดยประกาศทั้ง 4 ฉบับ จะกำหนดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขเกี่ยวกับมาตรการภาษี เพื่อกระตุ้นการลงทุนโครงการขนาดใหญ่ในอุตสาหกรรมเป้าหมายของภาคเอกชน
การส่งเสริมการลงทุนของวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ,การส่งเสริมการลงทุนเศรษฐกิจฐานราก และการส่งเสริมการลงทุนสำหรับกิจการที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อย กิจการกระเช้าไฟฟ้าหรือรถรางไฟฟ้าเพื่อการท่องเที่ยว และกิจการโรงแรม รวมถึงหลักเกณฑ์การพิจารณาอนุมัติตำแหน่งคนต่างด้าว และการบรรจุคนต่างด้าวในตำแหน่งที่ได้รับอนุมัติ ประกอบด้วย
1.ประกาศคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน ที่ 1/2563 เรื่อง มาตรการกระตุ้นการลงทุน เพื่อกระตุ้นให้โครงการขนาดใหญ่ในอุตสาหกรรมเป้าหมายมีการลงทุนในประเทศโดยเร็ว โดยให้กิจการที่เข้าเงื่อนไข เช่น ต้องเป็นกิจการในกลุ่ม A1 A2 และ A3 ยกเว้นกิจการที่ไม่มีที่ตั้งสถานประกอบการ อาทิ กิจการขนส่งทางอากาศ กิจการขนส่งทางเรือ เป็นต้น ,เป็นโครงการที่ได้รับสิทธิและประโยชน์การยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลตามมาตรการส่งเสริมการลงทุนต่างๆ รวมกันแล้วไม่เกิน 8 ปี
เป็นกิจการที่มีเงินลงทุน โดยไม่รวมค่าที่ดินและทุนหมุนเวียน คือ กรณีที่ 1 มีการลงทุนจริงไม่น้อยกว่า 500 ล้านบาท ตั้งแต่วันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2563 ถึงวันที่ 30 ธันวาคม 2563 หรือกรณีที่ 2 มีการลงทุนจริงไม่น้อยกว่า 1,000 ล้านบาท ตั้งแต่วันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2563 ถึงวันที่ 30 ธันวาคม 2564 เป็นต้น ให้กิจการเหล่านี้ได้รับการเพิ่มการลดหย่อนภาษีเงินได้นิติบุคคล 50% เป็นระยะเวลา 5 ปี นับแต่วันที่กำหนดระยะเวลาการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลสิ้นสุดลง
ทั้งนี้ ประกาศฉบับดังกล่าวใช้กับโครงการที่ยื่นขอรับการส่งเสริมตั้งแต่วันที่ 2 ม.ค.2562 ถึงวันทำการสุดท้ายของปี 2563 (อ่านรายละเอียด : ประกาศคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน ที่ 1/2563 เรื่อง มาตรการกระตุ้นการลงทุน)
2.ประกาศคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน ที่ 4/2563 เรื่อง มาตรการส่งเสริมการลงทุนสำหรับวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) โดยให้ SMEs ที่มีบุคคลธรรมดาสัญชาติไทยถือหุ้นไม่น้อยกว่า 51% มีหนี้สินต่อทุนไม่เกิน 4 ต่อ 1 มีเงินลงทุนขั้นต่ำแต่ละโครงการไม่น้อยกว่า 5 แสนบาท (ไม่รวมค่าที่ดินและทุนหมุนเวียน) และมีการลงทุนในเครื่องจักรใหม่ไม่น้อยกว่า 50% ของมูลค่าเครื่องจักรที่ใช้ในโครงการ เป็นต้น
ได้รับยกเว้นอากรขาเข้าสำหรับเครื่องจักร ได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลสำหรับประเภทกิจการในกลุ่ม A เป็นสัดส่วน 200% ของเงินลงทุน (ไม่รวมค่าที่ดินและทุนหมุนเวียน) และสิทธิและประโยชน์อื่นให้ได้รับตามหลักเกณฑ์ประกาศคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน ที่ 2/2557 ลงวันที่ 3 ธันวาคม 2557 นอกจากนี้ หากตั้งสถานประกอบการในพื้นที่ 20 จังหวัดตามประกาศ ให้ได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลเพิ่มเติมอีก 3 ปี แต่รวมกันแล้วไม่เกิน 8 ปี เป็นต้น
สำหรับมาตรการตามประกาศฉบับนี้ให้มีผลใช้บังคับกับคำขอรับการส่งเสริมที่ยื่นตั้งแต่วันที่ 2 มี.ค.2563 จนถึงวันทำการสุดท้ายของปี 2564 (อ่านรายละเอียด : ประกาศคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน ที่ 4/2563 เรื่อง มาตรการส่งเสริมการลงทุนสำหรับวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs))
3.ประกาศคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน ที่ 5/2563 เรื่อง มาตรการส่งเสริมการลงทุนเศรษฐกิจฐานราก เพื่อสนับสนุนให้ผู้ประกอบการที่มีศักยภาพเข้าไปมีส่วนร่วมในการสนับสนุนกิจการขององค์กรท้องถิ่น และยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับเศรษฐกิจในระดับฐานรากมากยิ่งขึ้น
โดยกำหนดให้กิจการที่คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บอร์ดบีโอไอ) ประกาศ และอยู่ในเงื่อนไขที่กำหนด ได้แก่ 1.มีเงินลงทุนขั้นต่ำของแต่ละโครงการไม่น้อยกว่า 1 ล้านบาท (ไม่รวมค่าที่ดินและทุนหมุนเวียน) และสนับสนุนองค์กรท้องถิ่นไม่น้อยกว่า 2 แสนบาทต่อราย 2.ดำเนินการแล้วเสร็จภายใน 3 ปีตั้งแต่วันออกบัตรส่งเสริม
และ3.องค์กรท้องถิ่นผู้รับการสนับสนุน ต้องเป็นสหกรณ์ หรือวิสาหกิจชุมชนในท้องถิ่นที่ขึ้นทะเบียนกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งดำเนินกิจการอย่างน้อยด้านใดด้านหนึ่งตามขอบข่าย ได้แก่ กิจการด้านการเกษตรและเกษตรแปรรูป กิจการในอุตสาหกรรมเบา และกิจการท่องเที่ยวชุมชน
ให้กิจการดังกล่าวได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลเป็นระยะเวลา 3 ปี เป็นสัดส่วนไม่เกิน 120% ของเงินลงทุน (ไม่รวมค่าที่ดินและทุนหมุนเวียน) และให้ได้สิทธิและประโยชน์ที่มิใช่ภาษีอากรให้ได้รับตามหลักเกณฑ์ประกาศ คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน ที่ 2/2557 ลงวันที่ 3 ธันวาคม 2557 เป็นต้น
ส่วนโครงการที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนตามมาตรการนี้ จะต้องยื่นคำขอรับการส่งเสริมการลงทุนภายในวันทำการสุดท้ายของปี 2564 (อ่านรายละเอียด : ประกาศคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน ที่ 5/2563 เรื่อง มาตรการส่งเสริมการลงทุนเศรษฐกิจฐานราก)
4.ประกาศคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน ที่ ส.2/2563 เรื่อง การแก้ไขเพิ่มเติมบัญชีประเภทกิจการที่ให้การส่งเสริมการลงทุน ตามประกาศคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน ที่ 2/2557 โดยมีสาระสำคัญ คือ
ให้กิจการที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อย คือ เป็นอาคารชุดที่มีพื้นที่ใช้สอยต่อหน่วยไม่น้อยกว่า 24 ตารางเมตร หรือกรณีบ้านแถวหรือบ้านเดี่ยวต้องมีพื้นที่ใช้สอยต่อหน่วยไม่น้อยกว่า 70 ตารางเมตร ราคาต่อหน่วยไม่เกิน 1.2 ล้านบาท (รวมที่ดิน) สำหรับพื้นที่กรุงเทพฯ นครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ และสมุทรสาคร และไม่เกิน 1 ล้านบาท กรณีเป็นพื้นที่จังหวัดอื่น ยื่นขอรับการส่งเสริมภายในวันทำการสุดท้ายของปี 2563 เป็นต้น ให้ได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลเป็นเวลา 3 ปี
นอกจากนี้ ประกาศฉบับดังกล่าวยังกำหนดแนวทางส่งเสริมการลงทุนในกิจการกระเช้าไฟฟ้าหรือรถรางไฟฟ้าเพื่อการท่องเที่ยว และกิจการโรงแรมอีกด้วย (อ่านรายละเอียด : ประกาศคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน ที่ ส.2/2563 เรื่อง การแก้ไขเพิ่มเติมบัญชีประเภทกิจการที่ให้การส่งเสริมการลงทุน ตามประกาศคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน ที่ 2/2557)
5.ประกาศสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน ที่ ป. 2/2563 เรื่อง หลักเกณฑ์การพิจารณาอนุมัติตำแหน่งคนต่างด้าว การบรรจุคนต่างด้าวในตำแหน่งที่ได้รับอนุมัติ และการขยายระยะเวลาตำแหน่งและตัวบุคคล ตามมาตรา 25 และมาตรา 26 เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวก และสร้างความชัดเจนให้แก่นักลงทุนในการขออนุมัติตำแหน่งหน้าที่การทำงานคนต่างด้าว การขอบรรจุคนต่างด้าวในตำแหน่งที่ได้รับอนุมัติ
ตลอดจนการขยายระยะเวลาตำแหน่งและตัวบุคคลที่ได้รับอนุมัติตามมาตรา 25 และมาตรา 26 แห่งพระราชบัญญัติส่งเสริมการลงทุน พ.ศ. 2520 (อ่านรายละเอียด : ประกาศสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน ที่ ป. 2/2563 เรื่อง หลักเกณฑ์การพิจารณาอนุมัติตำแหน่งคนต่างด้าว การบรรจุคนต่างด้าวในตำแหน่งที่ได้รับอนุมัติ และการขยายระยะเวลาตำแหน่งและตัวบุคคล ตามมาตรา 25 และมาตรา 26)
กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage