'อิศรา' อัพเดตความเคลื่อนไหวสถานการณ์โคโรน่าไวรัสทั่วโลกล่าสุด ยอดติดเชื้อสะสม 2.3 ล้าน - 'ทรัมป์' เอาจริงสั่งเปิดเมืองหลายรัฐ ชี้ยอดตรวจ-ตายต่อประชากรทั้งหมดยังน้อยกว่าหลายปท. โทษผู้บริหารชุดโอบามาทำเครื่องช่วยหายใจไม่พอระบบการตรวจไม่มีคุณภาพ โวหาทีมคนรุ่นใหม่กู้สถานการณ์ได้ ด้านสิงคโปร์ติดเชื้อรายวันพุ่งเกือบพัน ญี่ปุ่นติดเชื้อทะลุหมื่น สเปนขอขยายเวลาปิดเมืองถึง 9 พ.ค. ส่วนอังกฤษยอดตายสะสมเกิน 1.5 หมื่น 'ควีนอลิซาเบธที่ 2' งดยิงปืนฉลองครบรอบวันเกิด - 'ตุรกี' หนักผู้ติดเชื้อสะสมจ่อแซงหน้าจีน
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานความคืบหน้าสถานการณ์การระบาดของเชื้อโรคโควิด 19 หรือโคโรน่าไวรัสทั่วโลกล่าสุดว่า ในช่วงค่ำวันที่ 18 เม.ย.2563 เว็บไซต์ World Meters รายงานจำนวนผู้ติดเชื้อทั่วโลก ว่า มียอดรวมทั้งสิ้น 2,324,731 ราย เป็นผู้ติดเชื้อใหม่ 75,868 ราย มีผู้เสียชีวิต 160,434 ศพ เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 6,289 ศพ
โดยประเทศที่มีผู้ติดเชื้ออันดับ 1 ยังคงเป็นสหรัฐอเมริกา มีผู้ติดเชื้อสะสมทั้งสิ้น 736,790 ราย ผู้ติดเชื้อใหม่ 27,055 ราย ผู้เสียชีวิตสะสม 38,920 ศพ ผู้เสียชีวิตรายใหม่ 1,766 ศพ ทำให้สหรัฐฯ ยังคงเป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสะสม ผู้ติดเชื้อรายวัน ผู้เสียชีวิตสะสม ผู้เสียชีวิตรายวันสูงที่สุดในโลก
ที่ทำเนียบขาว นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้เปิดแถลงข่าวยืนยันว่า ทั้งในรัฐหลุยส์เซียน่า, แมสซาชูเซตส์ และในจุดเสี่ยงต่อการแพร่เชื้ออื่นๆนั้น รัฐบาลสหรัฐฯได้ตรวจหาผู้ติดเชื้อในรัฐเหล่านี้ คิดเป็นจำนวนเปอร์เซ็นต์แล้วถือว่ามากกว่าประเทศอื่นในโลก และถ้าหากเทียบจำนวนผู้เสียชีวิตต่อประชากรนั้น ยอดผู้เสียชีวิตของสหรัฐฯยังถือว่าน้อยกว่าหลายๆประเทศในภูมิภาคยุโรป และผู้เสียชีวิตรวมน่าจะน้อยกว่าอิหร่านและจีน ซึ่งเขาเชื่อว่ามีการปกปิดตัวเลขผู้เสียชีวิตที่แท้จริง
ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ยังย้ำด้วยว่า รัฐนิวยอร์ก มีการตรวจพบผู้ติดเชื้อไปแล้ว 67 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งปริมาณการตรวจคิดเป็นเปอร์เซ็นต์มากกว่า ประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ทั้งนี้ ในระหว่างการแถลงข่าว ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ยังได้กล่าวโทษทีมบริหารประธานาธิบดีชุดก่อน (บารัก โอบามา) ที่ทำให้สหรัฐฯมีเครื่องช่วยหายใจสำรองเก็บไว้ในคลังไม่เพียงพอต่อเหตุการณ์ และทำให้ระบบการตรวจหาโรคนั้นไม่มีคุณภาพ ซึ่งเขาได้แก้ปัญหาด้วยการรวบรวมคนหนุ่มสาวที่มีความสามารถมาช่วยเหลือทั้งในด้านการตรวจหาโรคโควิด 19 และช่วยผลิตเครื่องช่วยหายใจให้เพียงพอต่อความต้องการแล้ว ซึ่งถ้าหากมีกรณีการระบาดอย่างรุนแรงขึ้นมา มีเครื่องช่วยหายใจอย่างน้อย 10,000 เครื่อง ที่พร้อมจะใช้งานได้ภายใน 1 ชั่วโมง
อนึ่งก่อนหน้านั้น ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้เคยกล่าวว่า ขีดความสามารถในการตรวจหาผู้ป่วยในสหรัฐฯนั้น จะเป็นกลไกที่สำคัญที่สุดในการที่เขาจะตัดสินใจยกเลิกนโยบายปิดเมืองและเว้นระยะห่างทางสังคม เพราะถ้าหากการตรวจนั้นรวดเร็วและได้จำนวนมากเท่าไร ก็จะเจอตัวผู้ติดเชื้อก่อนที่จะไปแพร่เชื้อมากขึ้นเท่านั้น
นายทรัมป์ ยังกล่าวถึงการเปิดเมืองในรัฐต่างๆว่า รัฐเท็กซัสและรัฐเวอร์มอนท์ จะมีการอนุญาตให้ดำเนินกิจการธุรกิจต่างๆ ได้ในวันที่ 20 เม.ย. นี้ ขณะที่รัฐมอนทาน่าจะเริ่มยกเลิกมาตรการการห้ามออกจากบ้านในวันที่ 24 เม.ย.
ขณะที่รัฐโอไฮโอ,นอร์ธ ดาโกต้าและไอดาโฮ ได้แนะนำให้ธุรกิจที่ไม่สำคัญได้เตรียมตัวเข้าสู่ขั้นตอนแรกของการเปิดกิจการ เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค. เป็นต้นไป
สำหรับสถานการณ์ทั่วไปในสหรัฐฯ นั้น รัฐนิวยอร์ก ยังเป็นรัฐที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อสูงสุดเป็นอันดับ 1 ของประเทศ มีผู้ติดเชื้อทั้งสิ้น 236,743 ราย และมีผู้เสียชีวิต 13,362 ศพ
การแถลงข่าวของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ (อ้างอิงวิดิโอจากช่องเอ็นบีซี)
ส่วนสถานการณ์รอบโลกนั้น ที่ประเทศสิงคโปร์ มีจำนวนผู้ติดเชื้อสะสม 5,992 ราย ผู้ติดเชื้อรายใหม่ 942 ราย ผู้เสียชีวิตสะสม 11 ศพ ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตรายใหม่ ซึ่งจำนวนผู้ติดเชื้อรายวันดังกล่าว ทำให้สิงคโปร์มีตัวเลขผู้ติดเชื้อรายวันสูงที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน)
ที่อินโดนีเซีย มีรายงานยอดผู้ติดเชื้อสะสมทั้งสิ้น 6,248 ราย เป็นผู้ติดเชื้อใหม่ 325 ราย มีผู้เสียชีวิต 535 ศพ เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 15 ศพ ทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อ ผู้เสียชีวิตสะสมและผู้เสียชีวิตรายวันของอินโดนีเซียสูงที่สุดในอาเซียน
อย่างไรก็ตาม นาย Daeng Faqih ประธานสมาคมการแพทย์ของอินโดนีเซีย ได้ออกมาให้สัมภาษณ์สื่อท้องถิ่นว่า ประเทศอินโดนีเซียอาจจะมีผู้เสียชีวิตของไวรัสแท้จริงแล้วอยู่ที่เกือบ 1,000 ศพ
นาย Daeng Faqih ประธานสมาคมการแพทย์ของอินโดนีเซีย (อ้างอิงรูปภาพจาก https://health.detik.com/)
ที่ฟิลิปปินส์ มีรายงานว่ามีติดเชื้อสะสมทั้งสิ้น 6,087 ราย เป็นผู้ติดเชื้อใหม่ 209 ราย มีผู้เสียชีวิต 397 ศพ เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 10 ศพ
ส่วนญี่ปุ่น มีรายงานว่า มีจำนวนผู้ติดเชื้อ 10,296 ราย เป็นผู้ติดเชื้อใหม่ 509 ราย มีผู้เสียชีวิต 222 ศพ เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 32 ศพ เฉพาะที่กรุงโตเกียวแห่งเดียวมีผู้ติดเชื้อใหม่จำนวน 181 รายต่อวัน
ขณะที่ นายแพทย์ที่รักษาผู้ป่วยในพื้นที่ ได้ออกมาเปิดเผยข้อมูลว่าระบบสาธารณสุขของญี่ปุ่นอาจล่มสลายได้ถ้าหากเกิดการระบาดใหญ่ขึ้นมาอีกรอบ และมีรายงานว่า รถพยาบาลที่บรรทุกผู้ป่วยซึ่งมีอาการป่วยโรคโควิด 19 ถูกปฏิเสธไม่ให้เข้าโรงพยาบาลอย่างน้อย 80 แห่งด้วยกัน
สำหรับสถานการณ์ประเทศในแทบยุโรปนั้น มีรายงานว่า ที่สเปน รายงานยอดผู้ติดเชื้อสะสมทั้งสิ้น 194,416 ราย เป็นผู้ติดเชื้อใหม่ 3,577 ราย มีผู้เสียชีวิต 20,043 ศพ เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 565 ศพ โดยนายเปโดร ซานเชซ นายกรัฐมนตรีสเปน ได้ออกคำสั่งให้ขยายมาตรการปิดเมืองไปอีกจนถึงวันที่ 9 พ.ค. เพื่อบรรเทาสถานการณ์ระบาดรายวัน
ที่อิตาลี มีรายงานยอดผู้ติดเชื้อสะสมทั้งสิ้น 175,925 ราย เป็นผู้ติดเชื้อใหม่ 3,491 ราย มีผู้เสียชีวิต 23,227ศพ เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 482 ศพ
ฝรั่งเศส มีรายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสม 151,793 ราย เป็นผู้ติดเชื้อรายใหม่ 3,824 ราย มีผู้เสียชีวิตสะสม 19,323 ศพ เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 642 ศพ
สำหรับสถานการณ์ที่เยอรมนี มีผู้ติดเชื้อสะสม 143,342 ราย เป็นผู้ติดเชื้อรายใหม่ 1,945 ราย มีผู้เสียชีวิต 4,459 ศพ และมีรายงานตัวเลขผู้เสียชีวิตใหม่ 107 ศพ
ส่วนที่อังกฤษ มีผู้ติดเชื้อสะสม 114,217 ราย เป็นผู้ติดเชื้อรายใหม่ 5,525 ราย มีผู้เสียชีวิต 15,464 ศพ และมีรายงานตัวเลขผู้เสียชีวิตใหม่ 888 ศพ ทำให้อังกฤษมีผู้ติดเชื้อรายวันและผู้เสียชีวิตรายวันมากที่สุดเป็นอันดับ 1 ในยุโรป
ขณะที่สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ของอังกฤษได้ทรงออกมาเรียกร้องให้งดการยิงปืนฉลอง ในวันเฉลิมพระชนมพรรษาครบพระชนมายุ 94 พรรษา ที่จะถึงในวันที่ 21 เม.ย.นี้
ส่วนสถานการณ์ในเดนมาร์ก มีผู้ติดเชื้อสะสม 7,242 ราย เป็นผู้ติดเชื้อรายใหม่ 169 ราย มีผู้เสียชีวิต 346 ศพ เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 10 ศพ
ทั้งนี้ เว็บไซต์ https://www.worldometers.info/coronavirus/#countries ได้รายงานว่า เดนมาร์กสามารถรักษาผู้ป่วยให้หายได้ 3,847 ราย จากจำนวนผู้ป่วยในปัจจุบัน 3,049 ราย จึงนับเป็นประเทศที่ 12 ต่อจาก จีน เกาหลีใต้ อิหร่าน ออสเตรเลีย สวิตเซอร์แลนด์ ออสเตรีย ไอซ์แลนด์ ไทย เยอรมนี มาเลเซีย และนิวซีแลนด์ที่ได้รับผลกระทบจากเชื้อไวรัสอย่างรุนแรง (ติดเชื้อเกิน 1,000 คน) แต่สามารถพลิกสถานการณ์ รักษาผู้ป่วยให้หายได้มากกว่าจำนวนผู้ป่วยที่กำลังป่วยอยู่
*หมายเหตุ ตัดบราซิลออก เนื่องจากสถานการณ์กลับไปมีผู้ป่วยที่ยังคงมีอาการมากกว่าผู้รักษาหายสะสมอีกครั้งหนึ่ง
ส่วนสถานการณ์ที่ตุรกีมีผู้ติดเชื้อสะสม 82,329 ราย เป็นผู้ติดเชื้อรายใหม่ 3,783 ราย มีผู้เสียชีวิต 1,890ศพ และมีรายงานตัวเลขผู้เสียชีวิตใหม่ 121 ศพ
ซึ่งถ้าหากยึดตัวเลขดังกล่าว หมายความว่า ณ เวลานี้ ตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสมของตุรกีนั้นได้แซงหน้าอิหร่านที่มีผู้ติดเชื้อสะสม 80,868 ราย เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และกำลังจะแซงหน้าจีนที่มีผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 82,719 ราย
ขณะที่อิหร่าน ล่าสุดมียอดผู้ติดเชื้อใหม่ 1,374 ราย ยอดผู้เสียชีวิตรวม 5,031 ศพ มีผู้เสียชีวิตใหม่ 73 ศพ ซึ่งยอดผู้เสียชีวิตรายวันดังกล่าวถือว่าต่ำที่สุดในรอบ 1 เดือนที่ผ่านมา และเริ่มทยอยให้ร้านค้าในกรุงเตหะรานสามารถเปิดทำการได้ตามปกติแล้ว
เรียบเรียงจาก:https://www.straitstimes.com/,https://www.japantimes.co.jp/news/2020/04/18/national/covid-19-infections-10000/#.XpuSGcgzZPY,https://www.bbc.com/news/live/world-52336209,https://www.theguardian.com/world/live/2020/apr/19/coronavirus-live-news-europe-deaths-approach-100000-as-us-looks-to-lift-restrictions
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/