ประเดิม! ศาลจังหวัดลำปางรับฟ้อง จำเลยรับสารภาพทุกข้อหา ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ กลับจากประเทศกลุ่มเสี่ยงโควิด-19 แต่ไม่ยอมกักตัว 14 วัน เจตนาจงใจฝ่าฝืนกฎหมาย ชักชวนคนในหมู่บ้านไปมั่วสุม อัยการบรรยายฟ้องขอให้ลงโทษสถานหนัก เหตุไม่รับผิดชอบต่อสังคมโดยรวม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 3 เม.ย. 2563 ที่ผ่านมา ศาลแขวงจังหวัดลำปาง ประทับรับฟ้องคดีหมายเลขดำที่ 496/2563 คดีที่พนักงานอัยการจังหวัดลำปางเป็นผู้ฟ้องกับ จำเลย (ขอสงวนชื่อ-สกุล) อายุ 24 ปี กรณีเป็นบุคคลที่มีเหตุอันควรสงสัยว่า เป็นโรคติดต่ออันตราย หรือเป็นผู้สัมผัสโรคหรือเป็นพาหนะ ฝ่าฝืนคำสั่งเป็นหนังสือของเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อที่ให้แยกกัก กักกัน หรือควบคุมไว้สังเกต ณ สถานที่ซึ่งเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อกำหนด
คดีนี้ จำเลยให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหาต่อ สภ.เวียงมอก จ.ลำปาง พนักงานอัยการ โจทก์ จึงยื่นฟ้อง ระบุสาระสำคัญว่า เมื่อวันที่ 30 มี.ค. 2563 ผู้อำนวยการโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านกุ่มเนิ้ง ต.แม่กอก อ.เถิน จ.ลำปาง ในฐานะคณะกรรมการคัดกรองโควิด-19 มีคำสั่งให้จำเลย ซึ่งเป็นบุคคลที่ร่วมเดินทางมากับบุคคลที่เดินทางกลับมาจากต่างประเทศที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) โรคติดต่ออันตรายซึ่งเป็นบุคคลที่มีเหตุอันควรสงสัยว่าเป็นโรคติดต่อร้ายแรง หรือโรคระบาด หรือเป็นผู้สัมผัสโรค หรือเป็นพาหะ โดยให้แยกกักตนเอง เป็นเวลา 14 วัน ณ ภูมิลำเนา ตั้งแต่วันที่ 28 มี.ค.-11 เม.ย. 2563
ต่อมาเมื่อวันที่ 30 มี.ค. 2563 เวลากลางคืนหลังเที่ยงคืน จำเลยได้บังอาจเดินออกจากบ้านพักของตัวเอง ไปพบปะกับบุคคลอื่นภายในหมู่บ้าน พร้อมชักชวนคนในหมู่บ้านไปมั่วสุมที่บ้านพักของจำเลยด้วย อันเป็นการฝ่าฝืนคำสั่งเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อที่ให้แยกกัก กักกัน หรือควบคุมไว้สังเกต โดยไม่ได้รับอนุญาต และไม่ได้รับการยกเว้นตามกฎหมายแต่อย่างใด อันเป็นการฝ่าฝืนกฎหมาย หลังจากนั้นเมื่อวันที่ 2 เม.ย. 2563 จำเลยเข้าพบพนักงานสอบสวนและพนักงานสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหาแก่จำเลย
ทั้งนี้ จำเลยมีเจตนาจงใจฝ่าฝืนคำสั่งเจ้าพนักงานควบคุมโรคซึ่งปัจจุบันมีการแพร่ระบาดอย่างกว้างขวาง ไม่คำนึงถึงผลกระทบ และไม่มีความรับผิดชอบต่อสังคมโดยรวม จึงขอศาลได้ลงโทษจำเลยในสถานหนักด้วย
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/