‘ลูกเขยสุเทพ’ติดเชื้อโควิดฯ-‘ถาวร’ตรวจแล้วปลอดภัยหลังร่วมงานสนามมวย'แมทธิว ดีน'

‘ถาวร เสนเนียม’ เผยผลตรวจโควิด-19 ปลอดภัยไม่มีอาการ แต่จะกักตัวเอง 14 วัน ส่วน ‘แทน เทือกสุบรรณ’ เผย ‘ลูกเขยสุเทพ’ ติดเชื้อแล้ว พร้อมกักตัวเองเช่นกัน แต่ยืนยันครอบครัว 'เทือกสุบรรณ' ปลอดภัย

ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์ความคืบหน้าการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 ว่า เมื่อวันที่ 16 มี.ค. 2563 มีบุคคลดังในแวดวงการเมืองอย่างน้อย 2 ราย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กระบุถึงสถานการณ์ดังกล่าว โดยนายแทน เทือกสุบรรณ บุตรชายนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ผู้ก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) ระบุว่า นายนิโคลัส โฮ ชาวฮ่องกง สามีนางน้ำทิพย์ เทือกสุบรรณ น้องสาวนายแทน และบุตรสาวของนายสุเทพ ตรวจพบเชื้อโควิด-19 ในคืนวันที่ 15 มี.ค. 2563 ที่ผ่านมา โดยที่ไม่ได้กลับไปฮ่องกง 2 เดือนแล้ว แต่บินทำงานที่นิวยอร์ค สหรัฐอเมริกา ช่วงสั้น ๆ (ขณะนั้นไม่ใช่พื้นที่เสี่ยง) กลับมาเมื่อปลายเดือน ก.พ. 2563 และใช้ชีวิตส่วนใหญ่อยู่ใน กทม. จึงไม่แน่ใจว่าติดมาจากไหน เบื้องต้นนางน้ำทิพย์ และลูก ๆ ได้กักตัวเอง และดำเนินการตรวจอยู่ ส่วนตนและภรรยาอยู่ จ.สุราษฎร์ธานี ไม่ได้พบกับน้องสาวและครอบครัวมากว่า 2 เดือนแล้ว ส่วนนายสุเทพ ต้องขึ้นศาลตลอด ไม่ได้พบกับทั้ง 2 ราย เช่นกัน ส่วน น.ส.แขแสง เทือกสุบรรณ น้องสาวอีกคน ไปพบกับครอบครัวนี้ครั้งสุดก่อนนายนิโคลัสไปนิวยอร์ค และตรวจผลเมื่อสัปดาห์ที่แล้วไม่พบเชื้อ

ขณะที่นายถาวร เสนเนียม รมช.คมนาคม เปิดเผยผ่านสื่อมวลชนหลายสำนักว่า ได้ไปตรวจหาเชื้อโควิด-19 กับแพทย์แล้ว ผลการตรวจสอบออกมาว่าตนปลอดภัย อย่างไรก็ดีจะกักตัวเอง 14 วันตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข หลังจากก่อนหน้านี้นายถาวร ได้ร่วมงานอยู่ในสนามมวยลุมพินีที่ตรวจพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 อย่างน้อย 19 ราย ทั้งนายแมทธิว ดีน ดาราชื่อดัง และเจ้ากรมสวัสดิการทหารบก เป็นต้น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 15 มี.ค. 2563 ที่ผ่านมา ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ ได้เดินทางไปตรวจหาเชื้อโควิด-19 กับโรงพยาบาลพระรามเก้า เนื่องจากเป็นหนึ่งในผู้ร่วมเดินทางไปสักการะพระธาตุพนมวรมหาวิหาร จ.นครพนม เมื่อวันที่ 11 มี.ค. 2563 ที่ผ่านมา โดย ร.อ.ธรรมนัส ได้กักตัวเองเป็นเวลา 14 วัน ตามมาตรการกระทรวงสาธารณสุข และอยู่ระหว่างรอผลตรวจจากโรงพยาบาลพระรามเก้า

หมายเหตุ : ภาพประกอบจาก https://praew.com/

# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/