ราชกิจจาฯประกาศใช้ พ.ร.ฎ.เงินประจำตำแหน่ง 'ปธ.สภาผู้แทนราษฎร-รองปธ.สภาผู้แทนราษฎร-ผู้นำฝ่ายค้าน-ประธานส.ว.-รองปธ.สว.-ส.ส.-ส.ว.-กรรมาธิการ' ฉบับใหม่ กำหนดแนวทางการจ่ายเงินประจำตำแหน่งและเงินเพิ่มให้ชัดเจนขึ้น
เมื่อวันที่ 29 ก.พ. เว็บไซด์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่พ.ร.ฎ.เงินประจำตำแหน่งและประโยชน์ตอบแทนอย่างอื่นของประธานและรองประธานสภาผู้แทนราษฎร ประธานและรองประธานวุฒิสภา ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา และกรรมาธิการ (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2563 โดยพ.ร.ฎ.นี้ ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
สำหรับสาระสำคัญของพ.ร.ฎ.ดังกล่าว ในมาตรา 3 ระบุว่า ให้ยกเลิกความในมาตรา 5 แห่งพ.ร.ฎ.เงินประจำตำแหน่งและประโยชน์ตอบแทนอย่างอื่นของประธานและรองประธานสภาผู้แทนราษฎร ประธานและรองประธานวุฒิสภา ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา และกรรมาธิการ พ.ศ.2555 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
“มาตรา 5 ให้ประธานและรองประธานสภาผู้แทนราษฎร ประธานและรองประธานวุฒิสภา ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และสมาชิกวุฒิสภา ได้รับเงินประจำตำแหน่งและเงินเพิ่มเป็นรายเดือนตามบัญชีอัตราเงินประจำตำแหน่งและเงินเพิ่มของประธาน และรองประธานสภาผู้แทนราษฎร ประธานและรองประธานวุฒิสภา ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และสมาชิกวุฒิสภา ท้ายพ.ร.ฎ.นี้ ดังต่อไปนี้
(1) ประธานและรองประธานสภาผู้แทนราษฎร ประธานและรองประธานวุฒิสภา และผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ให้ได้รับตั้งแต่วันที่มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง
(2) สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ให้ได้รับตั้งแต่วันเริ่มต้นมีสมาชิกภาพ
(3) สมาชิกวุฒิสภา ให้ได้รับตั้งแต่วันเริ่มต้นมีสมาชิกภาพ หรือวันถัดจากวันที่ประธานวุฒิสภา ประกาศเลื่อนบุคคลขึ้นดำรงตำแหน่งสมาชิกวุฒิสภาแทน แล้วแต่กรณี
ประธานและรองประธานสภาผู้แทนราษฎร ประธานและรองประธานวุฒิสภา และผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร เมื่อได้รับเงินประจำตำแหน่งและเงินเพิ่มสำหรับตำแหน่งดังกล่าวแล้ว ไม่มีสิทธิได้รับเงินประจำตำแหน่งและเงินเพิ่มสำหรับตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหรือสมาชิกวุฒิสภา แล้วแต่กรณีอีก
สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรซึ่งดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีด้วย เมื่อได้รับเงินเดือนและเงินประจำตำแหน่งในฐานะรัฐมนตรีแล้ว ไม่มีสิทธิได้รับเงินประจำตำแหน่งและเงินเพิ่มสำหรับตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรอีก”
สำหรับเหตุผลในการประกาศใช้พ.ร.บ.ฉบับนี้ คือ โดยที่มาตรา 183 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 บัญญัติให้เงินประจำตำแหน่งและประโยชน์ตอบแทนอย่างอื่นของประธานและรองประธานสภาผู้แทนราษฎร ประธานและรองประธานวุฒิสภา ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และสมาชิกวุฒิสภา ให้กำหนดโดยพ.ร.ฎ.โดยมิได้กำหนดเงื่อนไขในการจ่ายเงินที่ให้จ่ายได้ไม่ก่อนวันเข้ารับหน้าที่ ไว้ดังเช่นมาตรา 196 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550
จึงสมควรแก้ไขเพิ่มเติมพระราชกฤษฎีกาเงินประจำตำแหน่งและประโยชน์ตอบแทนอย่างอื่นของประธานและรองประธานสภาผู้แทนราษฎร ประธานและรองประธานวุฒิสภา ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา และกรรมาธิการ พ.ศ.2555 เพื่อกำหนดวันที่มีสิทธิได้รับเงินประจำตำแหน่งและเงินเพิ่มของผู้ดำรงตำแหน่งดังกล่าวให้เหมาะสมและสอดคล้องกับวันที่เข้าดำรงตำแหน่งและวันเริ่มสมาชิกภาพตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ แห่งราชอาณาจักรไทย จึงจำเป็นต้องตราพ.ร.ฎ.นี้
อ่านประกอบ :
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/
Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา 