'กองทัพบก'กำหนดแนวทางปฏิบัติป้องกันการแพร่ระบาดเชื้อโรค COVD - 19 ในส่วนกำลังพล-ครอบครัว ไม่อนุมัติให้เดินทางไปหรือแวะผ่านประเทศเสี่ยงติดเชื้อ 32 แห่ง 5 ทวีป หลีกเลี่ยงเดินทางไปที่มีคนจำนวนมาก หากจำเป็นต้องสวมหน้ากากอนามัยล้างมือด้วยแอลกอฮอล์เจลสบู่น้ำสะอาดอย่างน้อย 20 ว. สม่ำเสมอ ชี้แจงทำความเข้าใจทหารกองประจำการก่อนปล่อยพัก มีอาการผิดปกติแจ้งให้ผบช.ทราบโดยด่วน
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 28 ก.พ.2563 กองทัพบก ได้กำหนดแนวทางปฏิบัติเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ในส่วนของกำลังพล ทบ. และครอบครัว โดยไม่อนุมัติหรืออนุญาตให้กำลังพลเดินทางไปหรือแวะผ่านประเทศหรือเขตการปกครองที่มีการระบาดของโรคติดเชื้อ COND - 19 จำนวน 32 แห่ง ใน 5 ทวีป
ระบุว่า ตามที่ กระทรวงสาธารณสุข ได้ประกาศให้โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVD - 19) เป็นโรคติดต่ออันตราย เพื่อเป็นการลดความเสี่ยงในการติดเชื้อและการแพร่กระจายเชื้อโรคของกำลังพล ทบ. และครอบครัว
ทบ. ได้กำหนดแนวทางการปฏิบัติสำหรับป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อ COVD - 19 ดังนี้
1. ให้ ผู้บังคับหน่วยชี้แจงทำความเข้าใจกำลังพลและครอบครัวให้ตระหนักและให้ความสำคัญในการปฏิบัติตนเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อ COVD - 19 ตามมาตรการที่ สธ., พบ. หรือ รพ.ทบ. ในพื้นที่กำหนดอย่างเคร่งครัด
2. การดูแลตนเองเพื่อการป้องกันโรคติดเชื้อ COVD - 19 สำหรับกำลังพลและครอบครัว ควรหลีกเลี่ยงการเดินทางไปในที่ที่มีคนอยู่จำนวนมาก หรือสถานที่ปิด หากมีความจำเป็นต้องไปควรมีมาตรการป้องกันโดยสวมหน้ากากอนามัย และล้างมือด้วยแอลกอฮอล์เจลหรือลงมือด้วยสบู่และน้ำสะอาดอย่างน้อย 20 วินาทีอย่างสม่ำเสมอ
3. สำหรับทหารกองประจำการก่อนปล่อยพักทุกครั้ง ให้ผู้บังคับบัญชาชี้แจงทำความเข้าใจในการปฏิบัติตนตามแนวทางการปฏิบัติเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อ COND - 19 โดยเน้นการปฏิบัติตามหลักสุขอนามัยส่วนบุคคล ล้างมือบ่อย ๆ ไม่ใช้ของใช้ส่วนตัวร่วมกัน และหากมีอาการผิดปกติต้องแจ้งให้ผู้บังคับบัญชาทราบโดยด่วน
4. สำหรับสถานที่ราชการ ให้ติดตั้งแอลกอฮอล์เจลตามจุดที่กำลังพลที่ปฏิบัติหน้าที่ภายในสำนักงานเข้าถึงได้ เช่น หน้าห้องประชุม หน้าลิฟต์ หน้าโรงนอน รวมถึงจัดสบู่ล้างมือในห้องน้ำให้เพียงพอ ทำความสะอาดพื้นผิวในสำนักงานด้วย น้ำสบู่ผสมน้ำ หรือน้ำยาฟอกขาว (6% โซเดียมไฮโปคลอไรท์ หรือ ไฮเตอร์ ไฮยีน) กำหนดอัตราส่วนผสม 1: น้ำ 99 ส่วน เพื่อลดการแพร่ของโรคภายในหน่วย
5. ไม่อนุมัติหรืออนุญาตให้กำลังพลเดินทางไปหรือแวะผ่านประเทศหรือเขตการปกครองที่มีการระบาดของโรคติดเชื้อ COND - 19 ได้แก่
5.1 ทวีปเอเชีย (สาธารณรัฐประชาชนจีน, สาธารณรัฐสิงคโปร์, ญี่ปุ่น, สาธารณรัฐเกาหลี,มาเลเซีย, สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม, สาธารณรัฐฟิลิปปินส์, ราชอาณาจักรกัมพูชา, สาธารณรัฐอินเดีย,ราชอาณาจักรเนปาล, สาธารณรัฐสังคมนิยมประชาธิปไตยศรีลังกา, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์, สาธารณรัฐอิสลามอิหร่าน, รัฐอิสราเอล, สาธารณรัฐเลบานอน และรัฐคูเวต)
5.2 ทวีปอเมริกา (สหรัฐอเมริกา และแคนาดา)
5.3 ทวีปยุโรป (สหพันธ์สาธารณรัฐยอรมนี, สาธารณรัฐฝรั่งเศส, สหราชอาณาจักรบริเตนใหญ่และไอร์แลนด์เหนือ, สาธารณรัฐอิตาลี, สหพันธรัฐรัสเซีย, ราชอาณาจักรสเปน, ราชอาณาจักรเบลเยี่ยม, สาธารณรัฐฟินแลนด์ และราชอาณาจักรสวีเดน)
5.4 ทวีปแอฟริกา (สาธารณรัฐอาหรับอียิปต์)
5.5 ทวีปออสเตรเลีย (เครือรัฐออสเตรเลีย)
5.6 เขตปกครองพิเศษ (ไต้หวัน, เขตบริหารพิเศษฮ่องกง และเขตบริหารพิเศษมาเก๊า)
6. ตามข้อ 5 กรณีที่มีเหตุผลหรือความจำเป็นอย่างยิ่งยวด หรือเป็นการเข้าร่วมการประชุมตามพันธกรณีระหว่างประเทศ ซึ่งหากไม่เข้าร่วมจะก่อให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงไม่อาจหลีกเลี่ยงการเดินทางไปยังประเทศหรือเขตปกครองที่มีการระบาดของโรคติดเชื้อ COVD - 19 ให้กำลังพลชี้แจงเหตุผลความจำเป็นดังกล่าวต่อผู้บังคับบัญชาโดยตรงเพื่อพิจารณา รวมทั้งผู้ที่เดินทางไปยังหรือแวะผ่านประเทศหรือเขตปกครองที่มีการระบาดของโรคติดเชื้อ COVD - 19 เมื่อเดินทางกลับมาถึงประเทศไทยแล้ว ให้ดำเนินการ ดังนี้
6.1 ให้รายงานตัวกับผู้บังคับบัญชาของตนเอง และหยุดปฏิบัติงานเป็นระยะเวลา 1 วัน นับตั้งแต่วันเดินทางกลับ ทั้งนี้ หากมีงานเร่งด่วนให้ปฏิบัติงานที่ได้รับมอบหมายจากผู้บังคับบัญชาที่บ้านพักอาศัยส่วนตัวเพื่อหลีกเลี่ยงการใกล้ชิดกับผู้อื่น และเป็นการเฝ้าติดตามอาการของตนเอง
6.2 หากระหว่างเฝ้าติดตามอาการ ตามข้อ 6.1 มีอาการ เช่น มีไข้ (อุณหภูมิร่างกายตั้งแต่ 37.5 องศาเซลเซียสขึ้นไป) ไอ จาม เจ็บคอ มีน้ำมูก หายใจเหนื่อย หอบ อย่างใดอย่างหนึ่ง ให้กำลังพลเข้ารับการคัดกรองและเฝ้าระวังโรคติดเชื้อ COVD - 19 ณ รพ.พระมงกุฎกล้า หรือสถานพยาบาลอื่นที่มีมาตรฐานในการตรวจคัดกรองและเฝ้าระวังโรคติดเชื้อ CVD- 19 พร้อมทั้งรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบโดยทันที
7. สำหรับส่วนราชการที่กำหนดให้มีการประชุม สัมมนา อบรม ที่มีผู้เข้าร่วมจำนวนมากควรงดหรือเลื่อนการปฏิบัติไปก่อน หากไม่สามารถเลื่อนได้ ควรมีการจัดเตรียมจุดล้างมือหรือแอลกอฮอล์เจลให้บริการหรือมีการตรวจคัดกรองผู้เข้าร่วมกิจกรรม
8. ให้ รพ.ทบ. ในพื้นที่ให้ความรู้ หรือเผยแพร่คำแนะนำให้กำลังพลและครอบครัวชุมชนทหาร ในรูปแบบที่ รพ.ทบ. สามารถปฏิบัติได้โดยไม่กระทบการดูแลรักษาพยาบาลปกติ ทั้งนี้ กำลังพลและครอบครัว สามารถติดตามสถานการณ์การระบาดของโรคได้ทางเว็บไซต์ กรมควบคุมโรคกระทรวงสาธารณสุข
จึงแจ้งมาเพื่อยึดถือเป็นแนวทางปฏิบัติต่อไป
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/