เปิดคำสั่ง 'สมคิด จาตุศรีพิทักษ์' รองนายกฯ ลงนามตั้งคณะอนุฯ กลั่นกรองงบกองทุนอนุรักษ์พลังงาน มีชื่อ 'วณี ปิ่นประทีป' ภรรยา หมอพลเดช ปิ่นประทีป ส.ว. -อนุรุทธิ์ นาคาศัย เลขาฯ รมว.พลังงาน เข้าร่วม เผยอำนาจหน้าที่เพียบ เสนอความเห็นงบประมาณแผนงานโครงการขยายระยะเวลาเบิกจ่ายเงินด้วย
สืบเนื่องจากนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ที่กำกับดูแลการบริการงานกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานวงเงินนับหมื่นล้าน ออกมาชี้แจงถึงการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการกลั่นกรองโครงการที่ได้รับการสนับสนุนงบประมาณกองทุนฯ ที่เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์เรื่องการแต่งตั้งบุคคลใกล้ชิดตนเอง ทั้งในส่วนของ นางวณี ปิ่นประทีป ภรรยา นายแพทย์พลเดช ปิ่นประทีป สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) คณะทำงานดูแลงานประชาสังคมของพรรคพปชร. และนายอนุรุทธิ์ นาคาศัย เลขานุการ รมว.พลังงาน เข้าร่วมเป็นคณะอนุฯ ด้วย ว่า เป็นเจตนาดี ในการแต่งตั้งผู้ทรงคุณวุติ ที่มาจากองค์กรภาคประชาชน และตัวแทนฝ่ายการเมืองเข้าไปร่วมกันกลั่นกรองโครงการให้มีความรัดกุมรอบคอบ เพื่อแก้ไขปัญหาการชงเองกินเอง เหมือนที่เคยเกิดขึ้นในอดีตที่ผ่านมา พร้อมปฏิเสธกระแสข่าวการนำเงินกองทุนออกมาใช้ทำโครงการอนุรักษ์พลังงานต่างๆ เพื่อสร้างฐานคะแนนเสียงให้กับ ส.ส. ของพรรคพปชร. ว่าไม่เป็นความจริงด้วยนั้น (อ่านประกอบ : ไม่เกี่ยวหาเสียงพปชร.! 'สนธิรัตน์' ยันเจตนาดีตั้งคนใกล้ชิดช่วยกลั่นกรองงบกองทุนพลังงาน)
ล่าสุด สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ตรวจสอบข้อมูลที่มาเกี่ยวกับการแต่งตั้งคณะอนุฯ กลั่นกรองโครงการที่ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานดังกล่าว พบว่า ในช่วงเดือนพ.ย.2563 นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน ได้ลงนามในคำสั่งแต่งตั้งคณะอนุกรรมการกลั่นกรองงบประมาณของกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน จำนวน 10 ราย มี ปลัดกระทรวงพลังงาน เป็นประธานอนุกรรมการ รองปลัดกระทรวงพลังงานที่ได้รับมอบหมาย ผู้แทนกรมบัญชีกลาง ผู้แทนสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ศาสตราจารย์สกนธ์ วรัญญวัฒนา นายอนุรุทธิ์ นาคาศัย นางวณี ปิ่นประทีป และผู้แทนสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน เป็นอนุกรรมการ
ส่วน ผู้จัดการสำนักงานบริหารกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน เป็นอนุกรรมการและเลขานุการ ผู้อำนวยการกลุ่มงานวิเคราะห์โครงการ สำนักงานบริหารกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน เป็นอนุกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ
กำหนดให้มีหน้าที่และอำนาจดังต่อไปนี้
1. พิจารณากลั่นกรองโครงการและเสนอความเห็นที่เกี่ยวกับงบประมาณรายจ่ายประจำปีแผนงานโครงการ และให้หมายรวมถึงเงินสมทบเพื่อดำเนินโครงการด้วย โดยพิจารณาความพร้อมของเจ้าของโครงการ ผู้ร่วมโครงการ ความเหมาะสมของโครงการ ความซ้ำซ้อนของโครงการ ระยะเวลาดำเนินการ ความเหมาะสมของเทคโนโลยี ผลผลิตที่คาดว่าจะได้รับ ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย/ความพร้อมของพื้นที่ กรอบวงเงินที่เหมาะสม แผนการปฏิบัติงาน และแผนการใช้จ่ายเงิน ทั้งนี้ ต้องสอดคล้องกับยุทธศาสตร์จัดสรรเงินกองทุนประจำปี ต่อคณะกรรมการอนุมัติ
2. พิจารณากลั่นกรองการขอเปลี่ยนแปลงรายละเอียดโครงการ ภายใต้กองกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน ในกรณีที่ผู้ได้รับการสนับสนุนเงินกองทุนฯ เสนอขอเปลี่ยนแปลงรายละเอียดและขยายระยะเวลาโครงการที่แตกต่างไปจากเดิมที่คณะกรรมการกองทุนฯ ได้เห็นชอบ/อนุมัติไว้ ให้เป็นไปตามระเบียบคณะกรรมการกองทุนฯและระเบียบที่เกี่ยวข้อง
3. พิจารณาการขอขยายระยะเวลาเบิกจ่ายเงินกองทุน กรณีที่ไม่สามารถดำเนินการได้ภายในระยะเวลาที่กำหนด ตามข้อ 44 ของระเบียบคณะกรรมการกองทุนฯ สำหรับโครงการที่คณะกรรมการมีมิติอนุมัติการสนับสนุนเงินกองทุนในวันเริ่มต้นงบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ.2562 เพื่อให้ความเห็นชอบ/อนุมัติ
4. เชิญผู้แทนของหน่วยงาน ตลอดจนเจ้าหน้าทีที่เกี่ยวข้อง เพื่อชี้แจงรายละเอียดในข้อเท็จจริง คำอธิบาย คำแนะนำ หรือจัดส่งเอกสาร ให้ความเห็นเกี่ยวกับรายละเอียดแผนงานโครงการของผู้ยื่นขอรับการสนับสนุนตามที่เห็นสมควร
5. มีอำนาจแต่งตั้งคณะทำงานเพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามที่คณะอนุกรรมการกลั่นกรองงบประมาณฯ มอบหมาย
6. ดำเนินการอื่นใดตามที่คณะกรรมการกองทุนฯ หรือประธานกรรมการกองทุนฯ มอบหมาย (ดูคำสั่งแต่งตั้งท้ายข่าว)
อนึ่ง ในการให้สัมภาษณ์ชี้แจงสื่อมวลชนของ นายสนธิรัตน์ ต่อกรณีนี้ นายสนธิรัตน์ ยืนยันว่า เหตุผลที่ต้องมีการแต่งตั้งตัวแทนผู้ทรงคุณวุฒิ ในส่วนของภาคประชาชน เป็นเพราะต้องการให้การทำงานมีการบูรณาการ เกิดความความร่วมมือจากหน่วยงานทุกภาคส่วนมากขึ้น โดยเฉพาะสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เนื่องจากการดำเนินงานโครงการอนุรักษ์พลังงานเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับภาคประชาชนโดยตรง
ส่วนการแต่งตั้งตัวแทนฝ่ายการเมืองที่เข้าไปร่วม 1 เสียง ก็เพื่อให้เข้าไปช่วยตั้งเกณฑ์การพิจารณาโครงการให้รอบคอบ ไม่มีอำนาจไปสั่งการหรืออนุมัติโครงการอะไร
นายสนธิรัตน์ ยังยืนยันด้วยว่า เกี่ยวกับเสียงวิพากษ์วิจารณ์ที่เกิดขึ้น ตนในฐานะที่ดูแลกระทรวงพลังงาน พร้อมน้อมรับ แม้ว่าจะมีความไม่สบายใจทุกครั้งกับทุกเรื่องที่ถูกมองว่าไม่โปร่งใส ซึ่งในส่วนของคณะอนุฯ ที่แต่งตั้งมาแล้วถูกมองว่า ไม่โปร่งใส ก็มีความไม่สบายใจเช่นกัน รู้สึก ถอดใจ ไม่อยากที่จะมาเป็นเป้าแล้ว ซึ่งขณะนี้ ก็กำลังมีการพูดคุยกันอยู่ว่าจะทำอย่างไรต่อไป
"แต่เพื่อเป็นการแก้ปัญหาการดำเนินอนุมัติงบกองทุนให้มีความโปร่งใสมากที่สุด ผมได้สั่งการไปแล้วว่า นับจากนี้ไปให้มีการเปิดเผยข้อมูลการอนุมัติโครงการทั้งหมดผ่านทางเว็บไซต์เพื่อให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการตรวจสอบด้วย" รมว.พลังงานระบุ
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/