สำนักงานศาลยุติธรรมแถลงโชว์ผลงานปี 62 ทุกศาลพิจารณาเสร็จแล้วกว่า 1.6 ล้านเรื่อง คดียาเสพติดสูงสุดกว่า 3.6 แสนข้อหา ขยายผลคดีกู้ยืมเพื่อการศึกษา 9.2 หมื่นข้อหา ใช้กำลัง EM ไปแล้ว 8,129 เครื่อง ปรับปรุงกฎหมายอำนวยการประชาชนมีประสิทธิภาพขึ้น นำเทคโนโลยีมาสนับสนุนการพิพากษาคดี-บูรณาการเชื่อมข้อมูลหน่วยงานต่าง ๆ
เมื่อวันที่ 19 ม.ค. 2563 นายสราวุธ เบญจกุล เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม แถลงผลการดำเนินงานของศาลยุติธรรมและสำนักงานศาลยุติธรรมในภาพรวม ประจำปี พ.ศ. 2562 ระหว่างเดือนมกราคม – ธันวาคม 2562 ณ ห้องประชุมใหญ่ สำนักงานศาลยุติธรรม อาคารศาลอาญา ชั้น 12 โดยเปิดเผยผลการดำเนินงานในด้านต่าง ๆ ดังนี้
@ปี 62 ทุกศาลพิจารณาคดีแล้วเสร็จกว่า 1.6 ล้านเรื่อง-คดียาเสพติดสูงสุด 3.6 แสนข้อหา-คดีเงินกู้ กยศ. กว่า 9.2 หมื่นข้อหา
สถิติคดีที่เข้าสู่การพิจารณาของศาลทั่วราชอาณาจักร แบ่งเป็น ศาลชั้นต้นทั่วประเทศ จำนวน1,889,080 คดี พิจารณาแล้วเสร็จ 1,627,752 คดี ศาลชั้นอุทธรณ์ จำนวน 64,225 คดี พิจารณาแล้วเสร็จ 57,924 คดี ศาลฎีกา จำนวน 10,466 คดีพิจารณาแล้วเสร็จ7,911คดี รวมทั้ง 3 ชั้นศาลมีคดีที่ศาลรับพิจารณาไว้ทั้งสิ้น 1,963,771 คดี พิจารณาแล้วเสร็จ 1,693,587 คดี(คิดเป็นร้อยละ 86) แบ่งเป็นประเภทคดีแพ่ง1,305,658 คดี (คิดเป็นร้อยละ 66) คดีอาญา 658,113 คดี (คิดเป็นร้อยละ 34)
นายสราวุธ กล่าวอีกว่า สำหรับสถิติจำนวนข้อหาที่ขึ้นสู่การพิจารณาสูงสุด 10 อันดับ ได้แก่ 1.พ.ร.บ. ยาเสพติดให้โทษ 363,125 ข้อหา 2.สินเชื่อบุคคล 293,899 ข้อหา 3.พ.ร.บ. จราจรทางบก 213,888 ข้อหา 4.บัตรเครดิต 168,347 ข้อหา 5.กู้ยืม 138,420 ข้อหา 6.ขอจัดการมรดก 103,711 ข้อหา 7.กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) 92,472 ข้อหา 8.เช่าซื้อ (รถยนต์) 86,406 ข้อหา 9.ละเมิด 34,426 ข้อหา 10.พ.ร.บ. การพนัน 32,936 ข้อหา
@ใช้กำลัง EM ไปแล้ว 8,129 เครื่อง-ส่วนใหญ่โดนกล่าวหาคดียาเสพติด
นายสราวุธ กล่าวว่า สถิติการใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ หรือกำไล EM สำหรับตรวจสอบหรือจำกัดการเดินทางของบุคคลมาใช้ในการปล่อยตัวชั่วคราว รวมทั้งสิ้น 8,129 เครื่อง แยกตามฐานความผิดสูงสุด 5 อันดับ ได้แก่ 1.)พระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ จำนวน 2,332 คดี 2.)ความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ จำนวน 1,609 คดี 3.)พระราชบัญญัติจราจรทางบก จำนวน 769 คดี 4.)ความผิดเกี่ยวกับชีวิตร่างกาย จำนวน 675 คดี 5.)พระราชบัญญัติอาวุธปืน ฯ จำนวน 356 คดี
นายสราวุธ กล่าวด้วยว่า สถิติศาลที่มีการใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ หรือกำไล EM สูงสุด 5 อันดับ ได้แก่ 1.)ศาลอาญา จำนวน 609 เครื่อง 2.)ศาลจังหวัดนนทบุรี จำนวน 269 เครื่อง 3.)ศาลจังหวัดภูเก็ต จำนวน 259 เครื่อง 4.)ศาลจังหวัดศรีสะเกษ จำนวน 211 เครื่อง 5.)ศาลอาญากรุงเทพใต้ จำนวน 207 เครื่อง
ทั้งนี้มีการจัดตั้งศาลใหม่ โดยเปิดทำการใหม่ในปี 2562 ได้แก่ 1. ศาลแขวงเชียงราย (เปิดทำการ 1 เมษายน 2562) 2. ศาลแขวงบางบอน (เปิดทำการ 1 เมษายน 2562) และมีการยกฐานะศาล แบ่งเป็นศาลจังหวัด 3 ศาล ได้แก่ ศาลจังหวัดมีนบุรี ศาลจังหวัดพระโขนง และศาลจังหวัดตลิ่งชั้น เป็นศาลแพ่งตลิ่งชัน ศาลแพ่งพระโขนง ศาลแพ่งมีนบุรี ศาลอาญาตลิ่งชัน ศาลอาญาพระโขนง และศาลอาญามีนบุรี (เปิดทำการ 1 สิงหาคม 2562) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการคดีให้สอดคล้องกับปริมาณคดีในแต่ละประเภทที่ถูกฟ้องเข้ามาในพื้นที่ดั่งกล่าวจำนวนมาก
@ปรับปรุงกฎหมายอำนวยการประชาชนมีประสิทธิภาพขึ้น
โฆษกสำนักงานศาลยุติธรรม กล่าวว่า ด้านกฎหมายได้ดำเนินการปรับปรุงกฎหมายเพื่อให้การอำนวยความยุติธรรมแก่ประชาชนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ สอดคล้องกับบริบททางสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป โดยได้จัดทำกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ โดยการรับฟังความคิดเห็นทางกฎหมายตามมาตรา 77 ของรัฐธรรมนูญ และการเสนอร่างกฎหมายที่สำคัญ ๆ รวมทั้งสิ้น 43 เรื่อง เช่น พระราชบัญญัติเจ้าพนักงานตำรวจศาล พ.ศ. 2562 (ประกาศในราชกิจจานุเบกษา ฉบับกฤษฎีกา เล่ม 136 ตอนที่ 50 ก วันที่ 16 เมษายน 2562), พระราชบัญญัติอนุญาโตตุลาการ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2562 (ประกาศในราชกิจจานุเบกษา ฉบับกฤษฎีกา เล่ม 136 ตอนที่ 49 ก วันที่ 14 เมษายน 2562), พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา (ฉบับที่ 34) พ.ศ. 2562 (หลักเกณฑ์เกี่ยวกับการปล่อยชั่วคราว และการใช้สิทธิฟ้องร้องดำเนินคดีหรือการดำเนินกระบวนพิจารณาในคดีอาญา) (ประกาศในราชกิจจานุเบกษา ฉบับกฤษฎีกา เล่ม 136 ตอนที่ 34 ก วันที่ 20 มีนาคม 2562), พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา (ฉบับที่ 33) พ.ศ. 2562 (ประกาศในราชกิจจานุเบกษา ฉบับกฤษฎีกา เล่ม 136 ตอนที่ 20 ก วันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2562), ระเบียบราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรมว่าด้วยการเปิดทำการศาลและพิจารณาคำร้องขอปล่อยชั่วคราวในวันหยุดราชการ พ.ศ. 2562 (ประกาศเมื่อวันที่ 25 ธ.ค. 62 และให้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 63), ร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (แก้ไขเพิ่มเติมหลักเกณฑ์และวิธีการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทก่อนฟ้องคดี) (คณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2562 เห็นชอบร่างพระราชบัญญัติฯ ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว ต่อมามีการประขุมรัฐสภาในวันที่ 26 ธ.ค. 62 โดยที่ประชุมมีมติตั้งคณะกรรมาธิการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติฯ และเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าชี้แจงต่อที่ประชุมสัปดาห์ละ 1 ครั้ง) และร่างพระราชบัญญัติวิธีพิจารณาคดีจราจร พ.ศ. .... (อยู่ระหว่างจัดเตรียมข้อมูลเพื่อประกอบการรับฟังและวิเคราะห์ผลกระทบช่วงเดือนมกราคม 2563) เป็นต้น
@นำเทคโนโลยีมาสนับสนุนการพิพากษาคดี-บูรณาการเชื่อมข้อมูลหน่วยงานต่าง ๆ
นายสราวุธ กล่าวว่า ในด้านการนำเทคโนโลยีมาสนับสนุนการอำนวยความยุติธรรมการพิจารณาพิพากษาคดี (D-Court) ได้ดำเนินการพัฒนาต่อยอดและขยายผลระบบให้บริการข้อมูลและอำนวยความยุติธรรมให้แก่ประชาชนที่มีใช้อยู่ในปัจจุบันให้มีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น ส่งเสริมและผลักดันให้ศาลยุติธรรมทั่วประเทศนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีมาใช้ในการบริหารจัดการคดีและสนับสนุนการพิจารณาพิพากษาคดีและการปฏิบัติงานให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน มีระบบงานที่ทันสมัย ลดการใช้กระดาษและลดภาระในการจัดเอกสาร พัฒนาระบบสารสนเทศศาลยุติธรรมบูรณาการความร่วมมือ รวมถึงขยายการเชื่อมโยงข้อมูลด้านต่างๆ กับหน่วยงานในกระบวนการยุติธรรมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กรมบังคับคดี(ข้อมูลหมายบังคับคดี) กรมคุมประพฤติ(ข้อมูลผลการสืบเสาะและพินิจอำนาจ) กรมราชทัณฑ์(ระบบข้อมูลผู้ต้องขัง) สำนักงานอัยการสูงสุดและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ข้อมูลสารบบคดีกับระบบ NSW ของสำนักงานอัยการสูงสุด และระบบ CRIMES ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ) สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ข้อมูลคำสั่งห้ามออกนอกราชอาณาจักร) สำนักงานตำรวจ กรมสอบสวนคดีพิเศษ ป.ป.ช. และ ป.ป.ท (ข้อมูลหมายจับระบบ AWIS) ซึ่งจะส่งผลให้การอำนวยความยุติธรรมมีความรวดเร็ว มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ก่อให้เกิดประโยชน์แก่ประชาชนผู้มีอรรถคดี
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/
หมายเหตุ : ภาพนายสราวุธ เบญจกุล จาก ฝ่ายประชาสัมพันธ์สำนักงานศาลยุติธรรม