วิศวกร สวล. ชี้ห้ามรถบรรทุกวิ่งวันคี่ แก้ PM2.5 แค่ 10% -ระยะยาวให้ตรวจสภาพทุก 5 ปี

วิศวกรสิ่งแวดล้อมชี้ให้รถบรรทุกวิ่งวันคู่-คี่ ไม่แก้ ‘ฝุ่น PM2.5’ ยกข้อมูลอินเดีย ลดแค่ 10% แนะระยะยาว ตรวจสภาพทุก 5 ปี กรมขนส่งทางบกรู้ดีที่สุด

นายประเสริฐ ตปนียางกูร เลขาธิการสภาวิศวกร ในฐานะวิศวกรด้านสิ่งแวดล้อม เปิดเผยถึงแนวทางแก้ไขปัญหาฝุ่น PM2.5 ใน กทม. ว่า ต้องนำรถบรรทุก ซึ่งหมายรวมถึงรถโดยสารสาธารณะ เข้ารับการตรวจสภาพ 100% ซึ่งปัจจุบันเฉพาะใน กทม. มีรถบรรทุก 1.4 แสนคัน เชื่อว่าจะใช้งบประมาณไม่มากนัก

ทั้งนี้ แนวคิดให้รถบรรทุกวิ่งเฉพาะวันคู่หรือวันคี่นั้น เลขาธิการสภาวิศวกร ระบุข้อมูลการวิเคราะห์จากประเทศอินเดีย เมื่อปี 2010 พิสูจน์แล้วว่า ช่วยแก้ปัญหาเพียงร้อยละ 10 ฉะนั้นต้องหยุดเครื่องชำรุดของรถบรรทุกไว้ให้ได้ มิเช่นนั้น เด็ก คนชรา หญิงตั้งครรภ์ และผู้มีโรคประจำตัว อย่างหอบหืด หัวใจ และเบาหวาน จะมีโอกาสสุ่มเสี่ยงรับอันตรายจากฝุ่นมากกว่าคนธรรมดา

“ปี 2010 อินเดียมีผู้เสียชีวิตจากฝุ่น ประมาณ 6 แสนคน จากนั้นอีก 10 ปี จำนวนเพิ่มขึ้นเป็น 1 ล้านคน” นายประเสริฐ กล่าว และว่า ไทยต้องไม่ซ้ำรอยอินเดีย แต่ควรเอาแบบอย่างจีนที่มีการแก้ปัญหาจริงจัง ดังนั้น 8 เดือนหลังจากนี้ รัฐต้องเร่งระดมตรวจรถทุกคัน เน้นรถบรรทุก ซึ่งกรมขนส่งทางบกรู้ข้อมูลดีที่สุด

ส่วนที่มีการตั้งคำถามว่า นโยบายกับรถบรรทุกจะทำให้เศรษฐกิจเสียหาย เลขาธิการ สภาวิศวกร กล่าวว่า ระหว่างคนเสียชีวิตกับเศรษฐกิจเสียหาย ถามว่าอย่างไหนสำคัญมากกว่ากัน คุณภาพชีวิตคนไทยไม่ได้ถูกกว่าคนอเมริกา จึงไม่จำเป็นต้องตั้งมาตรฐานต่ำกว่าประเทศเหล่านั้น ในฐานะวิศวกรสิ่งแวดล้อม ยืนยันคุณภาพชีวิตคนไทยไม่ได้ถูกกว่าคนตาน้ำข้าว

“ห้ามนำรถบรรทุกใช้งานหนักมาวิ่ง หากไม่ได้รับการตรวจสภาพทุก 5 ปี เนื่องจากมีการใช้งานหนักกว่ารถยนต์ส่วนบุคคลที่ตรวจสภาพทุก 7 ปี จึงขึ้นอยู่กับภาครัฐแล้วจะตรวจจริง ซ่อมจริง และให้หยุดวิ่งจริงหรือไม่” นายประเสริฐ กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมเกี่ยวกับสภาพอากาศในกทม. เช้าวันที่ 18 ม.ค. 2563 โดยอ้างอิงข้อมูลจากกรมควบคุมมลพิษ พบว่า ปริมาณฝุ่นละอองในภาพรวมมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทุกพื้นที่เมื่อเทียบกับช่วงเช้าของเมื่อวาน โดยพบพื้นที่ที่มีปริมาณฝุ่นละอองอยู่ในระดับเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ (พื้นที่สีส้ม) 37 สถานี ประชาชนในพื้นที่ดังกล่าว ควรลดทำกิจกรรมกลางแจ้งและติดตามสถานการณ์ฝุ่นละอองอย่างใกล้ชิด

ทั้งนี้ คพ. ยังคงรายงานสถานการณ์และแจ้งประสานข้อมูล ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการควบคุม กำกับ ดูแล ภารกิจตามมาตรการ "ภายใต้แผนปฏิบัติการ ขับเคลื่อนวาระแห่งชาติ " อย่างเร่งด่วน เพื่อบรรเทาสถานการณ์ฝุ่นละอองให้กลับสู่ปกติ .

# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/