ป.ป.ช. ชี้มูลผิด ‘อภิชิต วิโนทัย’ นายกเทศมนตรีนครตรัง-พวกรวม 3 ราย คดีจ้างเหมาจัดงานเทศกาลตรุษจีนปี 56 ยอมให้ผู้รับจ้างเรียกเก็บเงินค่าเช่าพื้นที่ขายของโดยไม่มีการนำเงินส่งเป็นรายได้เทศบาล-จัดจ้างวิธีพิเศษเอื้อเอกชน แต่รอด 2 ราย วิศวกรโยธา-ผอ.กองสวัสดิการสังคม
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อวันที่ 18 ธ.ค. 2562 คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติชี้มูลความผิดนายอภิชิต วิโนทัย นายกเทศมนตรีนครตรัง นายปัญญา ภิรมย์ รองปลัดเทศบาลนครตรัง กรณีถูกกล่าวหาว่า ทุจริตดำเนินการจ้างเหมาจัดงานเทศกาลตรุษจีนนครตรัง โครงการอนุรักษ์สืบสานส่งเสริมเอกลักษณ์จารีตประเพณีท้องถิ่น ในการยินยอมให้ผู้รับจ้างเรียกเก็บเงินค่าเช่าพื้นที่ขายของจากผู้ที่มาเปิดร้านโดยไม่มีการนำเงินส่งเป็นรายได้ของเทศบาลนครตรังและจัดจ้างโดยวิธีพิเศษ เพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับนายสุพร ตุลาธน ได้มีสิทธิเข้าทำสัญญากับเทศบาลนครตรัง
โดยตามสำนวนการไต่สวนของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ระบุว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นระหว่างวันที่ 9 - 11 ก.พ. 2556 โดยเทศบาลนครตรังมี ดำเนินการตามสัญญาจ้างเลขที่ 20/2556 ลงวันที่ 1 ก.พ. 2556 วงเงิน 2,600,000 บาท มีนายสุพร ตุลาธน เป็นผู้รับจ้าง ปรากฏว่าข้อเท็จจริงว่า การขออนุมัติดำเนินการจัดจ้างโดยวิธีพิเศษ โดยไม่เป็นไปตามระเบียบที่กำหนด การจัดทำรายละเอียดประมาณค่าใช้จ่าย จำนวน 2,639,000 บาท เป็นวงเงินสูงเกินความเป็นจริง และไม่ได้จัดทำรายละเอียด รายการวัสดุ ค่าแรง ค่าดำเนินการต่าง ๆ ขณะเดียวกันเทศบาลนครตรังมีหนังสือลงวันที่ 26 ม.ค. 2556 แจ้งให้นายสุพร ตุลาธน ผู้รับจ้าง ไปเสนอราคาในวันเดียวกันเพียงหนึ่งราย อันเป็นการไม่ปฏิบัติตามระเบียบ
นอกจากนี้ยังให้ผู้รับจ้างดำเนินการก่อสร้างล่วงหน้า ก่อนลงนามในสัญญาจ้าง และติดตั้งโคมไฟเต็งลั้ง มังกร 2 ตัว และอื่น ๆ ในราคาที่สูงกว่าความเป็นจริง รวมถึงให้ผู้รับจ้างทำบันทึกตกลงแทนการนำสัญญาจ้างเพื่อเลี่ยงไม่ให้ผู้รับจ้างต้องวางหลักประกันสัญญา ในอัตราร้อยละ 5 ตามโครงการ ขณะเดียวกันไม่มีการจัดให้เช่าพื้นที่ขายของ แต่ปล่อยให้ผู้รับเหมางานทำซุ้มให้เช่า ซุ้มละ 20,000 บาท โดยไม่ได้นำรายได้เข้าเทศบาลฯ และสัญญาจ้างไม่ได้จัดทำตามรูปแบบที่ราชการกำหนดทำให้เทศบาลฯ เสียเปรียบ เพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับผู้รับจ้าง
คณะกรรมการ ป.ป.ช. ในการประชุมครั้งที่ 116/2562 มีมติว่านายอภิชิต วิโนทัย ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 มีมูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 (ฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้ใดผู้หนึ่ง) ประกอบมาตรา 83 และมีมูลความผิดฐานปฏิบัติการฝ่าฝืนต่อความสงบเรียบร้อยหรือสวัสดิภาพของประชาชน ละเลยไม่ปฏิบัติตามหรือปฏิบัติการไม่ชอบด้วยอำนาจหน้าที่ ตามพระราชบัญญัติเทศบาล พ.ศ. 2496 และที่แก้ไขเพิ่มเติม
นายปัญญา ภิรมย์ รองปลัดเทศบาลนครตรัง ผู้ถูกกล่าวหาที่ 2 มีมูลความผิดทางอาญาตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 (ฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้ใดผู้หนึ่ง) ประกอบมาตรา 83 และมีมูลความผิดวินัยร้ายแรง ฐานทุจริตต่อหน้าที่ราชการ ฐานปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยจงใจไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบของทางราชการ มติคณะรัฐมนตรี หรือนโยบายของรัฐบาล อันเป็นเหตุให้เสียหายแก่ราชการอย่างร้ายแรง
นายสุพร หรือกรธวัฒน์ ตุลาธน ผู้ถูกกล่าวหาที่ 5 มีมูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ประกอบมาตรา 86 (ฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้ใดผู้หนึ่ง)
ส่วนนายยงยุทธ เบญจวรางกูล วิศวกรโยธา 8 เทศบาลนครตรัง ผู้ถูกกล่าวหาที่ 3 และนายรณรงค์ ทรัพย์ปรุง ผอ.กองสวัสดิการสังคม ผู้ถูกกล่าวหาที่ 4 ไม่ปรากฏพยานหลักฐานเพียงพอที่จะฟังได้ว่า ผู้ถูกกล่าวหาทั้งสองราย ได้กระทำความผิดตามที่กล่าวหา ข้อกล่าวหาไม่มีมูล ให้ข้อกล่าวหาตกไป
สำนักงาน ป.ป.ช. ได้ส่งรายงาน สำนวนการไต่สวน เอกสารหลักฐาน สำเนาอิเล็กทรอนิกส์ และคำวินิจฉัย ไปยังอัยการสูงสุด เพื่อดำเนินคดีอาญาในศาลซึ่งมีเขตอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีกับนายอภิชิต วิโนทัย นายปัญญา ภิรมย์ และนายสุพร หรือกรธวัฒน์ ตุลาธน และส่งรายงาน สำนวนการไต่สวน เอกสารหลักฐาน และคำวินิจฉัยไปยังผู้บังคับบัญชา เพื่อดำเนินการทางวินัยกับนายปัญญา ภิรมย์ และส่งสำนวนการไต่สวน ไปยังผู้มีอำนาจแต่งตั้งถอดถอน เพื่อดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจกับนายอภิชิต วิโนทัย ตามหลักฐานความผิดดังกล่าว ตามพระราชบัญญัติประกอบธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 91 (1) และ (2) และมาตรา 98 วรรคสี่ และได้แจ้งผลการพิจารณาของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ให้สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งทราบเป็นที่เรียบร้อยแล้ว อย่างไรก็ดีการดำเนินการของคณะกรรมการ ป.ป.ช. เป็นการดำเนินการขั้นต้น ผู้ถูกกล่าวหายังสามารถพิสูจน์ความบริสุทธิ์ได้ในชั้นอัยการ และชั้นศาลต่อไป
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/