พ.อ.ภักดี แสงประเสริฐ ผอ.กอง 11 ศูนย์รปภ.กองบัญชาการกองทัพไทย แจงปม สตง.สอบสัญญาซื้อวัสดุยานพาหนะขนส่งยางรถยนต์ 26 รายการ เคลียร์ปัญหาหมดแล้ว ถูกลดบำเหน็จชดใช้พร้อมลูกน้องเฉียดล้านสอง ยันสืบราคาตามขั้นตอน ไม่เอื้อปย.เอกชน
สืบเนื่องจากสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org นำเสนอข้อมูลกรณีสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เคยตรวจสอบพบปัญหาการทำสัญญาซื้อวัสดุยานพาหนะและขนส่ง (ยางรถยนต์) 26 รายการ ของ ศูนย์รักษาความปลอดภัย กองบัญชาการกองทัพไทย อาทิ การประกาศราคากลางงานจัดซื้อวัสดุยานพาหนะและขนส่ง (ยางรถยนต์) ในระบบฐานข้อมูล อิเล็กทรอนิกส์ของกรมบัญชีกลาง (ระบบ e-GP) ไม่ระบุราคาต่อหน่วยของยางรถยนต์แต่ละรายการที่จัดซื้อ การขายเอกสารประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) ในราคาชุดละ 1,000 บาท ส่งผลให้ มีผู้สนใจมาซื้อเอกสารน้อยรายกว่าที่ควร และไม่เป็นการเพิ่มโอกาสทางการแข่งขัน รวมไปถึงการตรวจพบยางรถยนต์จํานวน 390 เส้น จากทั้งหมด 512 เส้น ยังไม่ได้นําไปเปลี่ยนใส่รถยนต์ แต่นําไปเก็บไว้ในคลังเก็บพัสดุ ทั้งที่ได้ตรวจรับยางรถยนต์มาแล้วกว่า 3 เดือน ส่วนยางรถยนต์ที่จัดซื้อมีราคาสูงกว่าท้องตลาดมากเป็นเหตุให้ทางราชการได้รับความเสียหายเป็นเงิน 1.18 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังมีการตรวจสอบสถานประกอบการของห้างหุ้นส่วนจํากัดแห่งหนึ่งที่เข้าร่วมการเสนอราคางาน พบว่า บ้านเลขที่ดังกล่าวมีป้ายหน้าร้าน ระบุชื่อเป็นสถานประกอบธุรกิจเกี่ยวกับสิ่งพิมพ์ รับออกแบบป้ายโฆษณา พิมพ์ป้ายอิงค์เจ็ท โดยไม่พบว่าได้เปิด เป็นร้านจําหน่ายยางรถยนต์หรือสิ่งอื่นใดที่เกี่ยวกับรถยนต์แต่อย่างใด
ขณะที่ พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกประจำรองนายกรัฐมนตรี และโฆษกกระทรวงกลาโหม ชี้แจงสำนักข่าวอิศราว่า กรณีนี้เป็นเรื่องเก่า เกิดขึ้นในช่วงปี 2558 คงต้องขอดูรายละเอียดอีกครั้ง แต่ได้ส่งเรื่องไปให้กับ พล.อ.พรพิพัฒน์ เบญญศรี ผู้บัญชาการทหารสูงสุดไปตรวจสอบข้อมูลแล้ว (อ่านประกอบ : ข้อมูลลับ สตง.อุบเงียบสอบซื้อยางรถยนต์กองทัพปัญหาเพียบ -'คงชีพ' แจงเรื่องเก่าปี 58)
ล่าสุด สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ได้รับการติดต่อจาก พ.อ.ภักดี แสงประเสริฐ ผู้อำนวยการกอง 11 ศูนย์รักษาความปลอดภัย กองบัญชาการกองทัพไทย ในฐานะผู้รับผิดชอบการทำสัญญาซื้อวัสดุยานพาหนะและขนส่ง (ยางรถยนต์) 26 รายการ ดังกล่าว เพื่อขอชี้แจงข้อเท็จจริง
พ.อ.ภักดี ระบุว่า เกี่ยวกับปัญหากรณีการทำสัญญาจัดซื้อยางรถยนต์ดังกล่าว ได้ทำเรื่องชี้แจง และดำเนินการตามข้อเสนอของ สตง.ไปหมดแล้ว โดยประเด็นเรื่องการจัดซื้อมีราคาสูงกว่าท้องตลาดมากเป็นเหตุให้ทางราชการได้รับความเสียหายเป็นเงิน 1.18 ล้านบาท นั้น สตง.มีมติให้คณะกรรมการกำหนดราคากลางชดใช้เงิน ซึ่งคณะกรรมการกำหนดราคากลางมี 3 คน เป็นลูกน้องของตน หารเงินรวมกัน ส่งเข้ากระทรวงการคลังมีใบเสร็จเรียบร้อย
"ตรงนี้เป็นเงินส่วนตัว ได้รายงานเรื่องนี้ไปให้เจ้านาย แล้วก็ส่งใบเสร็จไปให้ สตง. แล้ว แต่ทาง สตง.ก็ไม่พอใจ บอกว่าต้องเอาเจ้าหน้าที่ที่ผ่านหนังสือ และต้องมีการลดบำเหน็จด้วย ซึ่งคนผ่านหนังสือก็คือผม สรุปก็คือเรื่องนี้ผมกับลูกน้อง 5 คน โดนลดบำเหน็จไป รวมต้องมีการชดใช้เงินกันเกือบล้านสอง” พ.อ.ภักดี ระบุ
พ.อ.ภักดี กล่าวชี้แจงต่อว่า ส่วนประเด็นเรื่องการตรวจพบยางรถยนต์จํานวน 390 เส้น จากทั้งหมด 512 เส้น ไม่ได้นําไปเปลี่ยนใส่รถยนต์ แต่นําไปเก็บไว้ในคลังเก็บพัสดุ ทั้งที่ได้ตรวจรับยางรถยนต์มาแล้วกว่า 3 เดือน นั้น สาเหตุที่มีการจ่ายยางช้าเป็นเพราะว่าได้รับแจ้งจากกองบัญชาการกองทัพไทยว่าจะมีการเข้ามาตรวจยาง เลยต้องเรียกรถที่จ่ายยางแล้วจำนวนเกือบ 600 คันจากต่างจังหวัดเข้ามา เพื่อรับการตรวจสอบทั้งหมด ทำให้การจ่ายยางมีความล่าช้า
พ.อ.ภักดี กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีที่ สตง.ระบุว่า ยางรถยนต์ที่จัดซื้อมีราคาสูงกว่าท้องตลาดมากเป็นเหตุให้ทางราชการได้รับความเสียหายเป็นเงิน 1.18 ล้านบาท นั้น ในข้อเท็จจริง สตง.ได้ยกเอาราคาอ้างอิงจากราคายางร้าน บีควิกที่ขายในอินเตอร์เน็ตมาใช้ในการตรวจสอบ ซึ่งเป็นราคายางเก่าค้างเป็นปีแล้ว และทางร้านบีควิกก็ไม่มีแบบที่ทางกองทัพต้องการ อีกทั้งในเอกสารการจัดซื้อจัดจ้างหรือทีโออาร์นั้นระบุชัดเจนว่า ณ วันส่งสินค้ายางที่ทางกองทัพจะจัดซื้อนั้นจะต้องเป็นยางที่มีอายุไม่เกิน 180 วันหรือ 6 เดือน แต่ปรากฎว่ายางของทางบีควิกนั้นเป็นยางที่มีอายุเก่ากว่านั้นมาก ซึ่งประเด็นเหล่านี้ ผมได้เรียนให้ สตง.ทราบไปแล้ว
สำหรับประเด็นเรื่องการสืบราคาเพื่อนำมาใช้เป็นราคากลาง ที่ว่าบ้านเลขที่ดังกล่าวมีป้ายหน้าร้าน ระบุชื่อเป็นสถานประกอบธุรกิจเกี่ยวกับสิ่งพิมพ์ รับออกแบบป้ายโฆษณา พิมพ์ป้ายอิงค์เจ็ท โดยไม่พบว่าได้เปิดเป็นร้านจําหน่ายยางรถยนต์หรือสิ่งอื่นใดที่เกี่ยวกับรถยนต์แต่อย่างใดนั้น
พ.อ.ภักดี กล่าวว่า เอกชนที่กองทัพไทยไปสืบราคามานั้นเป็นบริษัทที่มีลักษณะจดทะเบียนกับกรมพัฒนากรมธุรกิจการค้า แบบครอบคลุม แต่ก็มีการประกอบอาชีพขายยางรถยนต์และมีการจดทะเบียนครอบคลุมในเรื่องธุรกิจการขายยางรถยนต์อยู่ด้วย ดังนั้น ทางกองทัพไทยก็ต้องให้เข้าร่วม
“แม้ว่าหน้าร้านเขา ว่าจะไม่ได้ประกอบธุรกิจในด้านการขายยางรถยนต์ แต่ปรากฏว่าเขาได้จดทะเบียนว่าขายยางรถยนต์ และเขามีเส้นสายสามารถไปต่อรองกับทางโรงงานผลิตยางรถยนต์เพื่อจะเอามาขายในราคาถูกให้กับทางเราได้ ตรงนี้เราก็ต้องให้เขาได้มีโอกาสเข้ามาร่วมในกระบวนการประกวดราคาเช่นกัน เพราะถ้าหากไม่ให้เขาผ่านคุณสมบัติเข้ามาร่วมในกระบวนการประกวดราคาอีก เขาก็มาฟ้องเราได้เหมือนกัน” พ.อ.ภักดีกล่าว
(อ่านคำชี้แจง พ.อ.ภักดี แสงประเสริฐ ผู้อำนวยการกอง 11 ศูนย์รักษาความปลอดภัย กองบัญชาการกองทัพไทย เกี่ยวกับการทำสัญญาซื้อวัสดุยานพาหนะและขนส่ง (ยางรถยนต์) 26 รายการ ฉบับเต็มได้ที่นี่ : ฉบับเต็ม! คำชี้แจง ผอ.กอง 11 ศูนย์รปภ.กองทัพ ถูก สตง.จัดซื้อยางรถยนต์แพงเกินจริง 1.8 ล. )
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/