อีกคดี! ศาลแพ่งอ่านฎีกาพิพากษา ‘ตู่-เต้น-เหวง’ ชดใช้ค่าเสียหายช่วงม็อบแดง เผาอาคารพาณิชย์ย่านอนุสาวรีย์ชัยฯ 21.3 ล้าน ก่อนหน้านี้โดนมาแล้วเผาอาคาร 3 คูหา ถ.ราชปรารถ ชดใช้ 19.3 ล้าน
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อวันที่ 16 ต.ค. 2562 ศาลแพ่ง ถ.รัชดาภิเษก อ่านคำพิพากษาศาลฎีกาคดีที่นายประสงค์ กังวาฬวัฒนา เป็นโจทก์ยื่นฟ้องบริษัท บางกอกสหประกันภัย จำกัด (มหาชน) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี, นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรี, กระทรวงมหาดไทย, นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล อดีต รมว.มหาดไทย, กระทรวงกลาโหม, พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม และอดีต รมว.กลาโหม ยุครัฐบาลนายอภิสิทธิ์, นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.), นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เลขาธิการ นปช. และ นพ.เหวง โตจิราการ แกนนำ นปช. เป็นจำเลยที่ 1-10
กรณีสืบเนื่องจากการที่เจ้าหน้าที่รัฐทำการสลายการชุมนุม นปช. ที่ชุมนุมขับไล่รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เมื่อวันที่ 19 พ.ค. 2553 ต่อมาเกิดเหตุการณ์เผาอาคารในหลายจุดทั่วกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด โดยสำนวนนี้เป็นการฟ้องเรียกค่าเสียหายกรณีเผาอาคารพาณิชย์ย่านอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ใกล้อาคารห้างสรรพสินค้าเซ็นเตอร์วัน และอาคารดอกหญ้า
ศาลฎีกาพิพากษาแก้ให้นายจตุพร พรหมพันธุ์ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ และ นพ.เหวง โตจิราการ ร่วมกันชำระค่าอาคารพาณิชย์ที่พิพากษาพร้อมทรัพย์สินที่โจทก์เสียหาย จำนวน 21,356,650 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันที่ 20 พ.ค. 2553 เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ กับค่าขาดผลประโยชน์ 1,200,000 บาท เดือนละ 100,000 บาท นับแต่วันฟ้อง (ฟ้องวันที่ 18 พ.ค. 2554) เป็นต้นไป จนกว่าจะชำระค่าอาคารพาณิชย์ที่พิพากษาพร้อมทรัพย์สินที่โจทก์เสียหายเสร็จแก่โจทก์ แต่ทั้งนี้ ให้เสียค่าเสียหายได้ไม่เกิน 24 เดือน ให้จำเลยที่ 8-10 ร่วมกันใช้ค่าฤชาธรรมเนียมทั้งสามศาลแทนโจทก์ เฉพาะค่าขึ้นศาลให้ใช้แทนทรัพย์สินโจทก์ชนะคดี โดยกำหนดค่าทนายความรวม 100,000 บาท.
คดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องจำเลยทั้งหมด ส่วนศาลอุทธรณ์พิพากษาให้นายจตุพร นายณัฐวุฒิ และ นพ.เหวง ร่วมกันชำระเงินจำนวน 30,509,500 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันที่ 20 พ.ค. 2553 เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ ให้จำเลยที่ 8-10 ร่วมกันชำระเงินจำนวน 638,710 บาท ให้แก่โจทก์ กับให้จำเลยที่ 8-10 ร่วมกันใช้ค่าฤชาธรรมเนียมทั้งสองศาลแทนโจทก์ โดยกำหนดค่าทนายความรวม 50,000 บาท
อนึ่ง ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 25 ส.ค. 2562 ศาลแพ่งอ่านคำพิพากษาศาลฎีกาคดีเกี่ยวกับการวางเพลิงเผาทรัพย์ช่วงระหว่างการชุมนุมของกลุ่ม นปช. เมื่อปี 2553 โดยมีนางนุชทิพย์ บรรจงศิลป์ นายสิริเชษฐ์ สุขประสงค์ดี นางมนัสนันท์ สุขประสงค์ดี และบริษัทยูแอลซี ซอฟแวร์ เป็นโจทก์ที่ 1-4 ฟ้องจำเลย 11 คน ประกอบด้วย นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ, นายสุเทพ เทือกสุบรรณ, กระทรวงการคลัง, กระทรวงกลาโหม กองทัพบก, นายจตุพร พรหมพันธุ์, นายณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ, นายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง, นายทักษิณ ชินวัตร, กรุงเทพมหานคร และม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร
โดยโจทก์ฟ้องว่าได้รับความเสียหายจากการวางเพลิงเผาอาคาร จำนวน 3 คูหา ตั้งอยู่ที่บริเวณถนนราชปรารถ กรุงเทพมหานคร ในช่วงระยะเวลาที่มีการชุมนุมของกลุ่ม นปช. เรียกค่าเสียหายทั้งสิ้น 385,920,800 บาท โดยศาลชั้นต้นไม่รับฟ้องนายอภิสิทธิ์ นายสุเทพ และ กทม. ส่วนจำเลยคนอื่นยกฟ้อง ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน อย่างไรก็ดีศาลฎีกาพิพากษากลับให้นายจตุพร นายณัฐวุฒิ และนายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง อดีตแกนนำ นปช. ชดใช้ค่าเสียหายแก่โจท์ที่ 1 เป็นเงิน 1,347,000 บาท และให้ร่วมกันชดใช้ค่าเสียหายให้แก่โจทก์ที่ 2-3 เป็นเงิน 12 ล้านบาท และชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ที่ 4 เป็นเงิน 6 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/