‘พีระเพชร ศิริกุล’ ส.ส.กาฬสินธุ์ รอด! กกต.ยกคำร้องปมกล่าวหาเอา ‘อดิศร เพียงเกษ’ มาปราศรัยวิพากษ์วิจารณ์การเมือง-อำนาจ ‘บิ๊กตู่’ ชี้พยานหลักฐานยังรับฟังไม่ได้ว่าใส่ร้ายด้วยความเท็จ
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีคำวินิจฉัยที่ 140/2562 กรณีการเลือกตั้ง ส.ส.แบแบ่งเขตเลือกตั้ง เขตที่ 4 จ.กาฬสินธุ์ โดยก่อนประกาศผลการเลือกตั้ง กกต. ได้รับคำร้องว่า นายพีระเพชร ศิริกุล ผู้สมัคร ส.ส.เขตที่ 4 จ.กาฬสินธุ์ พรรคเพื่อไทย ผู้ถูกร้อง มีการกระทำอันเป็นการฝ่าฝืน พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2561 มาตรา 73 วรรคหนึ่ง (5) กล่าวคือ ผู้ถูกร้องได้ก่อ สนับสนุน หรือรู้เห็นเป็นใจให้นายอดิศร เพียงเกษ (แกนนำกลุ่ม นปช.) ปราศรัยหาเสียงเลือกตั้งด้วยการใส่ร้ายด้วยความเท็จ หรือจูงใจให้เข้าใจผิดในคะแนนนิยมของผู้สมัครหรือพรรคการเมือง เพื่อจูงใจให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งลงคะนนให้แก่นายพีระเพชร รวม 6 ประเด็น เช่น
นายอดิศร ปราศรัยหาเสียงด้วยข้อความว่า “ยิ่งลักษณ์ ผิดอะไร เขาทำให้ชาวนามีเงินทองปีหนึ่ง 15,000 บาท ชาวนามีเงินมีทองมันหนักหัวมึงเหรอไอ้ประยุทธ์” และ “ใช้มาตรา 44 อำนาจมีล้นฟ้าล้นแผ่นดิน ใช้ไม่ได้เรื่องราว ใช้ไม่ให้พี่น้องชาวนานั่งท้ายรถกระบะ” และ “ผมขอถามประยุทธ์ จันทร์โอชาหน่อย เวลาทำการรัฐประหาร เอาเงินสี่พันล้าน ภาษีอากรของประชาชนไปทำการยึดอำนาจใช่ไหม เมื่อไหร่มึงจะคืนวะ” เป็นต้น
กกต. พิจารณารายงานการไต่สวนตลอดจนพยานหลักฐานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องประกอบกันแล้ว เห็นว่า เมื่อวันที่ 19 มี.ค. 2562 พรรคเพื่อไทยจัดเวทีปราศรัยหาเสียงเลือกตั้งบริเวณสวนสาธารณะ อ.นามน จ.กาฬสินธุ์ เพื่อช่วยผู้สมัครรับเลือกตั้งแบบแบ่งเขตเลือกตั้งของพรรคเพื่อไทย โดยวันดังกล่าวนายอดิศร เพียงเกษ ซึ่งเป็นคณะทำงานรณรงค์หาเสียงของพรรคเพื่อไทยได้ปราศรัยหาเสียงเลือกตั้งด้วยข้อความตามข้อกล่าวหาจริง
เช่น ข้อความที่ปราศรัยหาเสียงกรณีจำนำข้าวนั้น เป็นการพูดถึงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น และเป็นการแสดงความคิดเห็นเชิงเปรียบเทียบเกี่ยวกับโครงการรับจำนำข้าวระหว่างรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กับรัฐบาลของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ภายหลังการรัฐประหารเท่านั้น รวมถึงกรณีอื่น ๆ เป็นการปราศรัยเพื่อวิพากษ์วิจารณ์การใช้อำนาจของ พล.อ.ประยุทธ์ บางประเด็นไม่ได้ยืนยันข้อเท็จจริง แต่เป็นการคาดคะเนของนายอดิศรเอง รวมถึงเป็นการวิพากษ์วิจารณ์ในทางการเมือง ดังนั้นพยานหลักฐานยังฟังไม่ได้ว่าเป็นการใส่ร้ายด้วยความเท็จ หรือจูงใจให้เข้าใจผิดในคะแนนนิยมของผู้สมัครหรือพรรคการเมือง
ข้อเท็จจริงจึงฟังไม่ได้ว่านายพีระเพชร กระทำการอันเป็นการฝ่าฝืน พ.ร.บ.เลือกตั้งฯ ส.ส. พ.ศ. 2561 มาตรา 73 วรรคหนึ่ง (5) ตามคำร้องแต่อย่างใด จึงมีคำสั่งให้ยกคำร้อง
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/