เกษตรกรใต้เดือนร้อนหนัก ราคายางดิ่งรายวันต่ำสามโลร้อย ทวงถามคำสัญญานักการเมือง รับปากก่อนเลือกตั้ง ช่วยได้ 60 บ./กก. หวั่นขบวนการทุบต้อนรับประกันรายได้ ด้านสันนิบาตสหกรณ์ตรัง ประชุมด่วนหลังแปรรูปขาดทุน 3 ล้านต่อแห่ง วอนรบ.ช่วยสินเชื่อเดินหน้าต่อ
ผู้สื่อข่าวพิเศษ สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานจากจังหวัดตรัง ว่า ขณะนี้บรรดาเกษตรกรชาวสวนยางพาราภาคใต้ กำลังเดือดร้อนอย่างหนักจากปัญหาราคายางพาราที่ปรับลดลงอย่างหนักเฉลี่ยวันละ 1-2 บาท ต่อเนื่องทุกวัน โดยล่าสุดราคาน้ำยางสดเหลือกิโลกรัมละ 30-32 บาท ที่ DRC100% (คิดคำนวนตามการตรวจวัดปริมาณเนื้อยางบริสุทธิ์ในน้ำยางสดที่นำมาขาย) ขณะที่สหกรณ์ หรือจุดรับซื้อน้ำยางสด เพื่อการแปรรูปเป็นยางแผ่นรมควัน รับซื้อในราคากิโลกรัมละ 34 บาท ที่ DRC100% เช่นกัน ในส่วนผู้ประกอบการแปรรูปยาง ที่รับซื้อน้ำยางสดมาแปรรูป ก็กำลังประสบกับภาวะขาดทุนรุนแรง เพราะราคายางพาราทุกประเภทดิ่งลงหนักพอกัน ทั้งน้ำยางสด ยางแผ่นดิบ ยางแผ่นรมควัน ยางก้อนถ้วย ยางเคร็ป ฯลฯ โดยสถานการณ์ราคายางพาราทั่วประเทศขณะนี่ถือว่าต่ำกว่าสามกิโล (DRC100%) 100 บาท หรือ สามโลร้อยแล้ว
นางสาววิไล อินมณี อายุ 43 ปี เกษตรกรชาวสวนยางพารา ต.บางดี อ.ห้วยยอด จ.ตรัง กล่าวว่า ปกติตนเองจะกรีดยางกับสามี แต่ขณะนี้หลังจากราคายางตกต่ำต่อเนื่อง ทำให้สามีต้องออกไปหางานอื่นทำนอกบ้าน เพราะหากต้องกรีดยางด้วยกันจะทำให้เดือดร้อนรายได้ไม่พอรายจ่าย ซึ่งชาวสวนยางทุกรายก็เดือดร้อนหนักไม่แพ้กัน และหวั่นใจว่าราคาจะยิ่งตกต่ำลงอีกไปตามๆกัน
"ทุกวันนี้ชาวสวนยางรอคอยความช่วยเหลือจากรัฐบาล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพราะเคยหาเสียงไว้กับชาวสวนยาง แต่ขณะนี้ผ่านมานานแล้ว มาตรการแก้ไขปัญหาก็ยังทำให้ชาวสวนยางไม่ได้ ขอให้ได้กิโลกรัมละ 60 บาท ตามที่หาเสียงไว้ชาวสวนก็พอใจแล้ว ตอนนี้ก็รอว่ารัฐบาลจะเร่งแก้ปัญหาได้เมื่อใด”นางสาววิไลระบุ
@ ภาพเกษตรกรชาวสวนยางพารา ต.บางดี อ.ห้วยยอด จ.ตรัง
ในวันเดียว นายอุทัย ศรีเทพ ประธานสันนิบาตสหกรณ์จังหวัดตรัง ได้เรียกประชุมสหกรณ์การเกษตรในจังหวัดตรัง จำนวน 40 แห่ง ซึ่งส่วนใหญ่สังกัดการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) และดำเนินธุรกิจรับซื้อน้ำยางจากสมาชิกมาแปรรูปทำเป็นยางแผ่นรมควัน เพื่อหารือถึงประสบปัญหาการขาดทุนจากการดำเนินธุรกิจแปรรูปยางพารา โดยมีนายภิรมย์ หนูรอด ผู้ช่วยผู้อำนวยการการยางแห่งประเทศ จ.ตรัง และนายชาย คงแก้ว สหกรณ์จังหวัดตรัง เข้าร่วมประชุมรับฟังปัญหาด้วย ซึ่งในที่ประชุมได้มีการสะท้อนปัญหาวิกฤติยางพาราตกต่ำต่อเนื่องยาวนาน ว่าทำเกือบทุกสหกรณ์ขาดทุนติดต่อกันมาประมาณ 2-3 ปี แล้ว และในปีนี้ก็เช่นกัน ทุกสหกรณ์คาดการณ์ว่าจะต้องขาดทุนหนักต่อเนื่องอีกเป็นปีที่ 3 จึงทำให้ทุกสหกรณ์ขาดสภาพคล่องอย่างหนักไม่มีเงินหมุนเวียนมาใช้ในการรับซื้อยาง
นายอุทัย ศรีเทพ ประธานสันนิบาตสหกรณ์จังหวัดตรัง กล่าวว่า ปัญหาราคายางพาราตกต่ำนั้น ในช่วงปี 2560 - 2561 ทุกสหกรณ์ทำธุรกิจยางแล้วขาดทุน เพราะว่าราคายาง ณ วันซื้อน้ำยางสดเข้า กับวันที่ขายยางแผ่นรมควันราคากลับลดลงทุกวัน จึงทำให้ขาดทุน ขาดสภาพคล่อง แต่ละสหกรณ์ขาดทุนไม่น้อยกว่า 3 ล้านบาท จึงต้องนัดประชุมกันเพื่อร่วมกันกำหนดแนวทางใหม่ในการแก้ปัญหา ทั้งเรื่องเงินทุน จะเสนอขอไปยังภาครัฐ เพื่อขอเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ หรือปลอดดอกเบี้ยมาพยุงธุรกิจต่อไป และต้องปรับกลยุทธ์ในการดำเนินงาน ให้สามารถทำธุรกิจด้านยางพาราไม่ให้ขาดทุน อย่างไรก็ตาม ทางการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) จังหวัดตรัง และสหกรณ์จังหวัดตรัง พร้อมจะเร่งประสานหาทางช่วยเหลือสหกรณ์ทั้งหมดต่อไป
ด้านแหล่งข่าวจากวงการค้ายางและส่งออกยาง เปิดเผยว่า ขณะนี้ในแวดวงพ่อค้ายางซึ่งเป็นคนกลางรับซื้อผลผลิตยางทุกประเภทก่อนส่งยางขายต่อให้กับบริษัทยักษ์ใหญ่ผู้ส่งออกยางไปต่างประเทศ กำลังจับกลุ่มวิเคราะห์สาเหตุที่ราคายางดิ่งลงอย่างฉับพลันรุนแรง ส่วนหนึ่งถือเป็นสถานการณ์ปกติประจำปีในช่วงผลผลิตออกสู่ตลาดจำนวนมากของฤดูกาล อีกทั้งอยู่ในช่วงวันหยุดยาวของวันชาติจีน ซึ่งโรงงานผลิตยางรถยนต์ในจีนจะหยุดกิจการและหยุดซื้อยางทั้งหมด แต่มีข้อสังเกตุบางประการคือ การซื้อขายภายในประเทศยังคงดำเนินต่อไปและเป็นการซื้อขายในราคาที่ต่ำอย่างมาก และต่ำลงเรื่อยๆ อาจส่งผลให้สินค้ายางไปตกอยู่ในมือผู้ส่งออกบางรายเพื่อรอเก็งกำไรผ่านกระบวนการทุบราคายางที่ทำกันมาตลอดหรือไม่
กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/