คกก.ธุรกรรม ปปง.อายัด 3 บัญชี แก๊งปลอมวุฒิการศึกษาผ่านเว็บฯ กลุ่มพิพัฒน์ พวงพิทักษ์ หลังดีเอสไอจับส่งอัยการ อ้างของจริงทุกสถาบัน ใช้สมัครงาน
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า คณะกรรมการธุรกรรมในคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) มีคำสั่งที่ ย.100/2562 อายัดทรัพย์สินนายพิพัฒน์ พวงพิทักษ์ กับพวก ในคดีความผิดเกี่ยวกับการฉ้อโกงประชาชน ภายหลังจากได้รับรายงานจากกรมสวบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ตามหนังสือที่ 0800/2250 ลงวันที่ 2 ก.ค.2558 กล่าวคือ นายพิพัฒน์ พวงพิทักษ์ หรือ ผู้ใช้นามแฝงว่า อาจารย์ธีรพัฒน์ หรืออาจารย์เมธี หรือ อาจารย์สายัณห์ หรือ อาจารย์ปรัชญา หรืออาจารย์เฉลิมผล ประกาศรับทำวุฒิการศึกษาในระดับชั้นการศึกษาต่างๆผ่านเว็บไซต์ โดยอ้างว่าสามารถนําไปใช้สมัครงานหรือใช้สมัครเรียนต่อได้ และอ้างว่าวุฒิการศึกษาดังกล่าว เป็นวุฒิการศึกษาจริง ออกโดยสถาบันการศึกษาที่มีอยู่จริงและจะมีชื่อของผู้ที่ต้องการทําวุฒิการศึกษา อยู่ในระบบของสถาบันการศึกษานั้น ๆ สามารถตรวจสอบกับทางสถาบันการศึกษาได้ โดยเรียกรับเงินค่าดําเนินการเป็นการตอบแทน และมีผู้หลงเชื่อว่าสามารถซื้อวุฒิการศึกษาได้จริง จึงโอนเงินให้ แก่นายพิพัฒน์ พวงพิทักษ์ กับพวก ผ่านบัญชีธนาคารของบุคคลอื่น แต่หลังจากได้รับโอนเงินจากผู้หลงเชื่อ นายพิพัฒน์ พวงพิทักษ์ ไม่ได้ดําเนินการจัดทําวุฒิการศึกษาให้แต่อย่างใด เนื่องจากไม่สามารถทําวุฒิการศึกษา ดังกล่าวได้จริง กรมสอบสวนคดีพิเศษได้ทําการสืบสวน จนสามารถจับกุมนายพิพัฒน์ และสรุป สํานวนคดีมีความเห็นควรสั่งฟ้อง ในฐานความผิดเป็นผู้นําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน และเผยแพร่ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ โดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ และเป็นผู้หลอกลวงผู้อื่นด้วยการแสดงข้อความ อันเป็นเท็จต่อประชาชน หรือปกปิดความจริง ซึ่งควรบอกให้แจ้งแก่ประชาชน และการหลอกลวงดังกล่าวนั้น ได้ไปซึ่งทรัพย์สินจากผู้ถูกหลอกลวง และเป็นการกระทําความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทํา ความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 มาตรา 14 (1) และ (5) ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341 มาตรา 343 มาตรา 80 และมาตรา 91 ต่อมาพนักงานอัยการได้พิจารณาสํานวนคดี มีคําสั่งฟ้องนายพิพัฒน์ พวงพิทักษ์ ในฐานความผิดนําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน และฉ้อโกงประชาชน ตามประมวลกฎหมายอาญา และ ความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ อันเข้าลักษณะเป็นความผิดตามมูลฐานพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 และมีเหตุอันควรเชื่อได้ว่าได้ไปซึ่งทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดดังกล่าว คณะกรรมการธุรกรรมมีคำสั่งให้อายัดทรัพย์สินนายพิพัฒน์ พวงพิทักษ์ กับพวก 3รายการ
1.เงินในบัญชีเงินฝากธนาคารกรุงเทพ สาขาถนนสรงประภา ดอนเมือง ในชื่อ น.ส.สุพรรณี สุวรรณมาโจ ยอด 20,898.02 บาท
2.เงินในบัญชีเงินฝากธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาถนนเชิดวุฒากาศ (ดอนเมือง) ในชื่อ น.ส.สุพรรณี สุวรรณมาโจ ยอด 5,459.79 บาท
3.เงินในบัญชีเงินฝากธนาคารทหารไทย สาขาถนนสรงประภา ในชื่อ น.ส.สุพรรณี สุวรรณมาโจ ยอด 251,733.75 บาท