‘อนุทิน’ พร้อมเร่งรัดนโยบายกัญชาทันที หลังรับตำแหน่ง รมว.สธ. ทางการ ใช้ทางการแพทย์ รักษาโรค วิจัยพัฒนา หนุนปลูกบ้านละ 6 ต้น นำร่อง อสม. จัดอบรมให้ความรู้
วันที่ 12 ก.ค. 2562 พรรคภูมิใจไทย จัดสัมมนาเชิงปฏิบัติการ “กัญชาเสรีเพื่อการแพทย์” ณ โรงแรมรามาการ์เด้น กรุงเทพฯ
นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย และว่าที่รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (รมว.สธ.) เปิดเผยภายหลังเป็นประธานเปิดงานสัมมนาว่า การจัดสัมมนาเชิงปฏิบัติการครั้งนี้เป็นการดำเนินการภายใต้พรรคภูมิใจไทย ซึ่งเตรียมการไว้นานแล้ว เพื่อนำองค์ความรู้และประสบการณ์ของทุกภาคส่วนรวบรวมสำหรับผลักดันนโยบายเพื่อให้กัญชาเกิดความเป็นเสรีทางการแพทย์ได้เร็วยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ ในส่วนการแก้ไขกฎหมายต้องเป็นไปตามขั้นตอน โดยที่ผ่านมามีการทำงานคู่ขนานกันไปผ่านการประสานงานกับสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ทำให้มีข้อยกเว้นการใช้กัญชา กรณีใช้เพื่อการแพทย์ รักษาโรค และวิจัยพัฒนา ซึ่งมีการประสานงานกันเบื้องต้นหลายรอบแล้ว
ว่าที่รมว.สธ. กล่าวว่า เรามีกฎหมายกัญชาอยู่แล้ว ดังนั้นจะพยายามใช้ช่องที่เปิดกว้างให้เกิดประโยชน์มากที่สุด เพราะอยากเห็นแพทย์สั่งยาให้ผู้ป่วยได้เบื้องต้นนำมาใช้ในการรักษาหรือค้นคว้าวิจัยได้อย่างเต็มที่
“การแก้กฎหมายกัญชา ยังไงก็ต้องแก้ เพราะปัจจุบันยังไม่มี แต่อาจค่อย ๆ แก้ ตรงไหนอยู่ในขอบข่ายประกาศกระทรวง สามารถใช้กฎหมายในวงกว้างให้มากที่สุด ส่วนที่ไปแก้ไข แต่คงไม่ถึงขั้นยกพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ฉบับใหม่ขึ้นมา เพราะ พ.ร.บ.หลักค่อนข้างครอบคลุมวงกว้าง แต่เชิงปฏิบัติยังใหม่ จึงไม่ค่อยมีคนกล้าทำอะไรใหม่ ๆ อย่างไรก็ตาม ยืนยันปัจจุบันนโยบายมีความชัดเจนแล้ว”
พร้อมกับย้ำว่า เราจะไม่ใช้การเมืองผลักดัน แต่การเมืองจะเป็นผู้สนับสนุนให้นโยบายเกิดขึ้นผ่านสถาบันวิชาการต่าง ๆ โดยเฉพาะสถาบันทางการแพทย์ เชื่อว่าจะสำเร็จและได้รับความเชื่อถือ เพราะต้องใช้สถาบันทางการแพทย์ ซึ่งมีต้นทุนทางสังคมสูง มีการพิสูจน์ทางทฤษฎีออกมาอย่างชัดเจน
“เมื่อปลูกเยอะตามที่กำหนดไว้ เราจะมีองค์กรรับซื้อ คล้าย ๆ กับองค์การยาสูบ แต่ย้ำว่า ขายกันเองไม่ได้ จะช่วยให้ต้นทุนถูกลง ซึ่งสาเหตุต้นทุนทุกวันนี้สูง เพราะมีน้อยหรือไม่มี กว่าจะได้มา ต้องไปยึดหรือขอมา เห็นว่ามี 22 ล้านตัน ใช้ได้เพียงเล็กน้อย ดังนั้น ถ้าสามารถเปิดให้ค้นคว้าวิจัยเสรี จะทำให้มีเกรดที่มีปลอดภัยสำหรับคนไทยใช้ได้ จึงต้องสนับสนุนให้มีการค้นคว้า วิจัย ทดลอง รวดเร็วยิ่งขึ้น”
นายอนุทิน กล่าวต่อถึงนโยบายให้ปลูกกัญชาบ้านละ 6 ต้นว่า ถ้าใช้ทางการแพทย์ การรักษาโรค เปรียบเหมือนเป็นพืชสมุนไพรเช่นพืชอื่น ๆ แต่ต้องเป็นไปตามขั้นตอน โดยอาจผลักดันนโยบายผ่านอาสาสมัครสาธารณสุข (อสม.) จัดอบรมเพื่อเป็นตัวกลางถ่ายทอดองค์ความรู้ให้ประชาชนทั่วไปและขยายผลปลูกที่บ้าน ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 1-2 ปี จึงจะเรียบร้อย อย่างไรก็ตามการผลักดันผ่านเครือข่าย อสม. สามารถดำเนินการได้ทันที เหมือนเป็นโครงการนำร่อง
ทั้งนี้ มั่นใจว่าการผลักดันการปลูกกัญชาผ่าน อสม. จะได้มาตรฐาน เราต้องจัดอบรมให้ทราบว่าปลูกอย่างไร เมล็ดพันธุ์อย่างไร ดินอย่างไร เพราะกัญชาสามารถซึมซับโลหะหนักได้เร็ว ซึ่งเรากลัวโลหะหนัก เพราะจะเกิดความเสี่ยง ฉะนั้นต้องทำให้มีความรู้ความเข้าใจดีที่สุด ดังนั้นเชื่อว่าไม่ใช่เรื่องเหนือบ่ากว่าแรง จึงทำให้สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้น เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายในการรักษาโรคของประเทศและประชาชน เพราะสามารถเข้าถึงยาได้อย่างรวดเร็ว
“ทันทีที่เข้าไปทำงานในกระทรวงสาธารณสุขอย่างเต็มตัว เชื่อว่า ผู้บริหารของกระทรวง ในระดับข้าราชการประจำทราบดีว่า นโยบายและความสำคัญของการใช้กัญชาทางการแพทย์ มีการพูดคุยหารือกัน อย่างในกิจกรรมวันนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับพรรคการเมือง ทำเวิร์คช้อป เนื่องจากมีความชัดเจนในการบริหารราชการแผ่นดินแล้ว กระทรวงสาธารณสุขยังเข้ามาให้กำลังใจ เป็นภาพแสดงให้เห็นถึงอย่างน้อยเป็นการเริ่มต้นที่ดีรัฐฟังนโยบายและผู้ปฏิบัติ อยู่บนเรือลำเดียวกัน” ว่าที่ รมว.สธ. กล่าว
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/