
ทภ.2 สรุปสถานการณ์สู้รบกัมพูชา-ไทย ช่องอานม้าหนักสุด ฝ่ายไทยเข้าคุมพื้นที่ได้สมบูรณ์ ส่วนพื้นที่ตาควาย ทหารไทยบาดเจ็บเพิ่มหลังกัมพูชาระดมยิง BM-21 ใส่ โจมตีอย่างรุนแรงช่วงวันที่ 16 ธ.ค. จนเป็นเหตุทำให้มีทหารเสียชีวิต 2 นาย
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่าเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 17 ธ.ค.68 กองทัพภาคที่ 2 ได้สรุปสถานการณ์ชายแดนไทย – กพช. วานนี้ (16 ธ.ค)ด้านจังหวัดอุบลราชธานี
พื้นที่ช่องบก ตลอดทั้งวัน สถานการณ์โดยรวมปกติ ไม่มีการปะทะขนาดใหญ่ อยู่ในสถานะเฝ้าระวังและเตรียมพร้อมพื้นที่
พื้นที่ช่องอานม้า เป็นพื้นที่การรบเข้มข้นที่สุดตลอดทั้งวัน ฝ่ายไทยได้ปฏิบัติการเชิงรุกต่อเนื่อง มีการเข้าตีที่หมายตามแผน ปฏิบัติการตาม “ยุทธการศตวรรษ” สามารถควบคุมพื้นที่ได้โดยสมบูรณ์ ตรวจพบและทำลาย PMN-2 ในพื้นที่ ฝ่ายกัมพูชาตอบโต้ด้วย BM-21, ปืนใหญ่ ,ปืน ค., ปทนเล็กยาว และโดรน ฝ่ายไทยมีการเสริมกำลัง สถาปนาแนววางกำลังใหม่ และวางลวดหนามเพิ่มความมั่นคง
จังหวัดศรีสะเกษ
พื้นที่ซำแต – โดนตรวล-ภูผี-สัตตะโสม - พนมประสิทธิโส-ช่องตาเฒ่า ฝ่ายกัมพูชา ยิงปืนใหญ่ ไปยังพื้นที่ช่องตาเฒ่า-สัตตะโสม โดยฝ่ายกัมพูชา ยิงจรวดหลายลำกล้อง BM-21 เข้ามาที่บริเวณเขาสัตตะโสมต่อเนื่อง จากการข่าวพบฝ่ายกัมพูชา ขาดเสบียง และพยายามต่อต้านฝ่ายไทยด้วยอาวุธหนัก
พื้นที่ ผามออีแดง-ห้วยตามาเรีย ทั้งสองฝ่ายมีการปะทะเป็นระยะๆ ด้วยปืนเล็กยาว และ ปืน ค. ประปราย ฝ่ายไทยได้ตรวจพบ รถส่งกำลังบำรุงและรถบรรทุกฝ่ายตรงข้ามหลายครั้ง ฝ่ายไทยจึงได้ใช้ ปืนใหญ่และเครื่องยิงลูกระเบิด ยิงทำลายเป้าหมายทางทหารฝ่ายกัมพูชา โดยฝ่ายกัมพูชาได้ใช้ เครื่องยิงลูกระเบิด , ปืนใหญ่ , รถถัง รวมถึงโดรนทิ้งระเบิดมตอบโต้กันเป็นระยะตลอดทั้งวัน โดยภาพรวม ฝ่ายไทยยังควบคุมสถานการณ์ได้
พื้นที่ภูมะเขือ ช่องโดนเอาว์-พลาญยาว-พลาญหินแปดก้อน ฝ่ายไทยได้ตรวจพบโดรนขนาดใหญ่ คาดว่าเป็นโดรนทิ้งระเบิดของทหารกัมพูชา บินหาเป้าหมาย
ส่วนแนวรบช่องสะงำ ไม่มีการสู้รบ สถานการณ์เฝ้าระวัง
จังหวัดสุรินทร์
พื้นที่ ช่องจอม - ช่องเปรอ – ช่องระยี ทหารกัมพูชาได้ยิง จรวดหลายลำกล้องBM - 21 จำนวน 1 ชุด เข้ามายังฝั่งไทย
พื้นที่คนา ฝ่ายไทยสามารถยึดที่หมายและควบคุมพื้นที่ได้ ทหารกัมพูชาใช้โดรนบินตรวจการณ์ในพื้นที่ตลอด นอกจากนี้ทางทหารกัมพูชายังได้สั่งการให้ยิง ปืนใหญ่สนับสนุน ยังพื้นที่ปราสาทคนาหลายครั้ง กระสุนปืนใหญ่ และ BM-21 ตกบริเวณฐานทหาร แต่กำลังพลไม่ได้รับบาดเจ็บ
พื้นที่ตาควาย ฝ่ายเราได้รับบาดเจ็บ 2 นาย จากการยิงตอบโต้ของฝ่ายทหารกัมพูชา กำลังพลฝ่ายไทยได้รับบาดเจ็บ 3 นาย จากสะเก็ดระเบิดของอาวุธวิถีโค้ง จากจรวดหลายลำกล้อง BM-21 ยิงเข้ามาบริเวณเนิน 350 จากนั้นทหารกัมพูชา ยังได้สั่งการให้ใช้ปืนใหญ่ และ รถถงบุกเข้ายิงไปที่พื้นที่ตาควายหลายครั้ง ก่อนที่จะมีการตรวจพบ UAV ของทางทหารกัมพูชาจำนวน 1 ลำ บินในพื้นที่
โดยในช่วงค่ำของวันที่ 16 ธ.ค.ที่ผ่านมา ได้เกิดการปะทะกันในบริเวณหน้าปราสาทตาควาย
จากความพยายามของฝ่ายตรงข้ามในการรุกคืบเข้ามาในพื้นที่ ฝ่ายเราได้ดำเนินการตามแผนปฏิบัติการและใช้กำลังที่เหมาะสมเพื่อยับยั้งและควบคุมสถานการณ์ โดยมีการยิงสนับสนุนเพื่อรักษาพื้นที่ ควบคุมเส้นทาง และป้องกันการเพิ่มเติมกำลังและอาวุธยิงสนับสนุนของฝ่ายตรงข้าม
กองทัพภาคที่ 2 ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อการสูญเสียกำลังพลจากการปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ ได้แก่ จ่าสิบเอกสำเริง คลังประโคน และพลทหารภานุพัฒน์ เสาร์สา ซึ่งได้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเสียสละและความกล้าหาญ กองทัพภาคที่ 2 จะให้การดูแลสิทธิและสวัสดิการ
แก่ครอบครัวผู้เสียชีวิตอย่างเต็มที่ และขอความร่วมมือจากสื่อมวลชนและประชาชนในการติดตามข้อมูลจากแหล่งทางการ เนื่องจากการปฏิบัติการทางทหารในพื้นที่ดังกล่าวยังไม่แล้วเสร็จ รายละเอียดเพิ่มเติมจะได้แจ้งให้ทราบในโอกาสต่อไปโดยเร็ว
พื้นที่ช่องกร่าง ทหารกัมพูชายังคงตรึงกำลังตลอดแนว มีการยิงปืนใหญ่เป็นห้วงๆ
พื้นที่ตาเมือนธม ไทยตรวจพบ BM-21 และ UAV/Drone ในหลายช่วงเวลา และมีการยิงจากฝ่ายตรงข้ามใส่ฐานฝ่ายเรา แต่ยังไม่เกิดความสูญเสีย อยู่ในสถานะเฝ้าระวังระดับสูง
ชายแดนจังหวัดบุรีรัมย์ พื้นที่ช่องสายตะกู ปรากฏมีการยิงตอบโต้กันด้วย ปืน ค. และ ปืนเล็กยาว ประปราย ไทยมีการยิงตอบโต้ด้วย ปืน ค. และ ปืนใหญ่อย่างหนาแน่นเวลา
โดยสรุปสถานการณ์ภาพรวม
วันที่ 15 ธ.ค. เป็นวันที่การรบมีความรุนแรงสูง โดยเฉพาะพื้นที่ช่องอานม้าและปราสาทตาควายมฝ่ายไทยเป็นฝ่ายเปิดเกมรุกเชิงยุทธการ ใช้อาวุธประสานหลายมิติ (ปืนใหญ่ ,รถถัง, ทหารราบ และโดรน) ฝ่ายกัมพูชาใช้ BM-21, ปืนใหญ่ , ปืน ค., UAV และโดรนทิ้งระเบิด อย่างต่อเนื่อง
ฝ่ายไทยสามารถ ยึดควบคุมพื้นที่สำคัญหลายจุดได้สำเร็จ โดยเฉพาะพื้นที่ช่องอานม้า มีกำลังพลฝ่ายไทยได้รับบาดเจ็บหลายราย แต่ระบบแพทย์สนามและการส่งกลับทำได้ต่อเนื่อง แนวโน้มสำคัญ คือ กัมพูชามีการใช้โดรน จำนวนมากขึ้นควบคู่กับการยิงจรวด BM-21 ภาพรวมไทยยังคงครองความได้เปรียบเชิงพื้นที่และการควบคุมสถานการณ์ได้ดี
ทั้งนี้ ในทุกปฏิบัติการที่เกิดขึ้นเป็นไปด้วยความระมัดระวังและรอบคอบ ขอให้พี่น้องประชาชนเชื่อมั่นในขีดความสามารถและศักยภาพของกองทัพไทย จะปกปักรักษาอธิปไตยไทยไม่ให้เสียแม้แต่ตารางเซ็นติเมตรเดียว

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา