
‘BCP’ ‘แจ้งตลาดทรัพย์ฯ บอร์ดมีมติให้ ‘ณัฐกร อธิธนาวานิช’ พ้นกรรมการผู้มีอำนาจลงนามฯ ขณะที่ 2 กรรมการ จาก ‘อัลฟ่า ชาร์เตอร์ด’ งดประชุมบอร์ด 45 วัน พร้อมแจง ‘ปปง.’ อายัดหุ้นไม่กระทบการดำเนินงานบริษัทฯ
..............................
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 11 ธ.ค.ที่ผ่านมา บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ BCP แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯ เรื่อง เปลี่ยนแปลงกรรมการผู้มีอำนาจลงนามผูกพันบริษัท โดยมีเนื้อหาว่า BCP ขอเรียนให้ทราบว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ครั้งที่ 16/2568 เมื่อวันอังคารที่ 9 ธ.ค.2568 มีมติเปลี่ยนแปลงรายชื่อกรรมการผู้มีอำนาจลงนามผูกพัน ตามหนังสือรับรองของบริษัทฯ ดังนี้
เดิม “ชื่อและจำนวนกรรมการ ซึ่งมีอำนาจลงลายมือชื่อแทนบริษัทคือ พลตำรวจเอกสุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ลงลายมือชื่อ ร่วมกับนายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช และประทับตราสำคัญของบริษัท หรือ หนึ่งในสองคนนี้ ลงลายมือชื่อร่วมกับ นายอัชพร จารุจินดา หรือ นายสุรินทร์ จิรวิศิษฎ์ หรือ นายพลช หุตะเจริญ หรือ นายณัฐกร อธิธนาวานิช รวมเป็นสองคน และประทับตราสำคัญของบริษัท”
เปลี่ยนแปลงเป็น “ชื่อและจำนวนกรรมการ ซึ่งมีอำนาจลงลายมือชื่อแทนบริษัทคือ พลตำรวจเอกสุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ลงลายมือชื่อ ร่วมกับนายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช และประทับตราสำคัญของบริษัท หรือ หนึ่งในสองคนนี้ ลงลายมือชื่อร่วมกับ นายอัชพร จารุจินดา หรือ นายสุรินทร์ จิรวิศิษฎ์ หรือ นายพลช หุตะเจริญ รวมเป็นสองคน และประทับตราสำคัญ ของบริษัท”
ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้ดำเนินการจดทะเบียนเปลี่ยนแปลงรายชื่อกรรมการผู้มีอำนาจลงนามแทนบริษัทฯ ต่อ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ แล้ว เมื่อวันที่ 11 ธ.ค.2568
BCP ยังแจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯด้วย ว่า บริษัทฯ ได้รับหนังสือจากบริษัท อัลฟ่า ชาร์เตอร์ด เอนเนอร์จี จำกัด ("ACE") ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัทฯ ที่มีนายณัฐกร อธิธนาวานิช และ Dr. Tomas Koch เป็นกรรมการผู้แทนในคณะกรรมการบริษัทฯ แจ้งความประสงค์ให้กรรมการผู้แทนของ ACE ทั้ง 2 ท่าน งดเข้าร่วมการประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ เป็นระยะเวลา 45 วัน นับแต่วันที่ 9 ธ.ค.2568 เป็นไป
นอกจากนี้ ในวันเดียวกัน (11 ธ.ค.) ฝ่ายบริหารภาพลักษณ์และสื่อสารองค์กร BCP เผยแพร่เอกสารข่าว เรื่อง ‘ลำดับเหตุกำรณ์ที่เกี่ยวข้องกับผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ’ โดยระบุว่า ช่วงปลายเดือน พ.ย.ถึงต้นเดือน ธ.ค.2568 มีเหตุการณ์หลายประการที่ถูกเชื่อมโยงกับการเคลื่อนไหวของหุ้นบางจาก (BCP) และมีการสื่อสารผ่านสื่อต่างๆ บริษัทฯ จึงขอชี้แจงลาดับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง โดยอ้างอิงข้อมูลที่เปิดเผยต่อสาธารณะ ดังนี้
25 ก.ย.2568 บริษัทฯ ประกาศแผนการซื้อหุ้นคืน (Treasury Stock) 3 ปี เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้ผู้ถือหุ้น เสริมสร้างความเชื่อมั่นต่อศักยภาพการเติบโต เป็นส่วนหนึ่งของการแถลงกลยุทธ์ ซึ่งบริษัทฯ ได้สื่อสารแผนดังกล่าวไว้อย่างชัดเจนต่อทั้งนักวิเคราะห์ นักลงทุน และสื่อมวลชน
26 พ.ย.2568 เมื่อบริษัทฯ ทราบกาหนดการที่แน่นอนว่า หุ้นเพิ่มทุนใหม่ของบางจากฯ ที่ได้รับจากการปรับโครงสร้างการถือหุ้น BSRC จะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในวันที่ 12 ธ.ค.นั้น ในการประชุมคณะกรรมการบริษัทในวันที่ 26 พ.ย. ซึ่งเป็นการประชุมตามรอบปกติที่กาหนดไว้ล่วงหน้ารายเดือน คณะกรรมการจึงได้มีมติอนุมัติโครงการซื้อหุ้นคืน โดยกาหนดเริ่มซื้อคืนในวันที่ 16 ธ.ค. และบริษัทฯ ได้แจ้งข่าวต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ หลังเสร็จสิ้นการประชุม
28 พ.ย.2568 บริษัท อัลฟ่า ชาร์เตอร์ด เอนเนอร์จี จากัด (ACE) จำหน่ายหุ้น BCP จำนวน 27,149,000 หุ้น หรือประมาณ 1.9717% ของจำนวนหุ้นที่มีสิทธิออกเสียง ณ วันดังกล่าว สืบเนื่องจากการปรับ Margin ของบริษัทหลักทรัพย์รายหนึ่ง
2 ธ.ค.2568 สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับการยึดและอายัดทรัพย์สินเครือข่ายคณะบุคคล และปรากฏการกล่าวอ้างถึงบริษัทฯ ทั้งนี้ บริษัทฯ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับคดีดังกล่าว
3 ธ.ค.2568 สำนักงานปปง. แถลงข่าวอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับการยึดและอายัดทรัพย์ โดยระบุว่าบริษัท ACE อยู่ในข่ายการตรวจสอบและมีการอายัดทรัพย์ชั่วคราว ซึ่งรวมถึงหุ้น BCP ที่ถูกอายัดด้วย การกล่าวถึงบริษัทฯ เป็นเพราะหุ้นของบริษัทฯ อยู่ในทรัพย์ที่ถูกอายัด และไม่เกี่ยวข้องกับบริษัทฯ แต่อย่างใด
ในวันเดียวกัน บริษัท ACE รายงานการจำหน่ายหุ้น BCP ที่ทำรายการเมื่อวันที่ 28 พ.ย. ต่อสำนักงาน ก.ล.ต. ตามแบบ 246-2
8 ธ.ค.2568 ตลาดหลักทรัพย์ฯ เผยแพร่สรุปแบบ 246-2 โดยมีข้อมูลเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงส่วนของผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ BCP ตามที่ผู้ถือหุ้นรายดังกล่าวรายงาน
ทั้งนี้ เหตุการณ์ทั้งหมดเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับผู้ถือหุ้นรายบุคคลและการดำเนินการของหน่วยงานรัฐ โดยไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับหรือส่งผลต่อการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ แต่อย่างใด

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา